Geely – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 01 Nov 2024 13:16:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Geely ส่ง ‘RINDARA RD6’ รถกระบะ EV เจาะตลาดกระบะไทยหัวใจ SUV เคาะราคาเริ่มต้น 899,000 บาท https://positioningmag.com/1496791 Thu, 31 Oct 2024 07:35:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1496791 ปัจจุบันรถ Electric Vehicle (EV หรือ รถที่ใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน) มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมถึง ไทย อินเดีย ตุรกี บราซิล ที่มียอดขาย EV เติบโตทำลายสถิติทุกปี เนื่องจากมีรถให้เลือกหลายโมเดล และมีราคาซื้อขายที่ต่ำลง โดยเฉพาะผู้ผลิตจากประเทศจีน ที่ทำการขยายตลาดออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากในประเทศจีนมีการพัฒนาแบตเตอรี่ และห่วงโซ่การผลิต EV อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มียอดขายรถ EV ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2023 ประเทศไทยมีจำนวนยอดขายรถ EV ถึงเกือบหนึ่งแสนคัน เติบโตสูงกว่าปี 2022 และมียอดขายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะรถ EV จากประเทศจีน ที่มีสัดส่วนยอดขายสูงกว่ารถ EV จากประเทศอื่น จึงไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็สนใจประเทศไทย แม้กระทั่ง GEELY ก็ขอส่ง RIDDARA บุกตลาดรถกระบะไฟฟ้าบ้าง

RIDDARA (ริดดารา) เป็นแบรนด์รถกระบะไฟฟ้า 100% ในเครือ GEELY Holding ซึ่งบริหารแบรนด์รถยนต์หลากหลายแบรนด์ครอบคลุมหลายเซกเมนต์ ได่แก่ ZEEKR, LYNK&CO, VOLVO, POLESTAR, รวมไปถึง LOTUS สำหรับประเทศไทย RIDDARA จะดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด

RIDDARA ส่งรุ่น RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกของเมืองไทย ชูนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) เป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนเอาจุดเด่นของรถกระบะ และรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเข้าด้วยกัน ทำให้ RIDDARA RD6 มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบสมรรถนะแบบรถกระบะ และความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมสะดวกสบายแบบ SUV สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่

รถกระบะไฟฟ้า 100% แต่ให้ความสบายแบบ SUV

RIDDARA RD6 มาในคอนเซ็ปต์ รถกระบะไฟฟ้าที่ยังคงความสมบุกสมบัน ใช้งานหลากหลายในสภาพถนนแตกต่างกัน มีความดุดันและสมรรถนะที่แข็งแกร่งแบบรถกระบะที่หลายคนคุ้นชิน อาทิ RIDDARA RD6 มีพื้นที่บรรทุกกระบะท้ายขนาด 1,200 ลิตร ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 70 ลิตร และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังอีก 48 ลิตร แถมยังมีความสามารถในการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม พร้อมบันไดท้ายซ่อนภายในประตูท้ายกระบะ ให้ขึ้นลงท้ายกระบะได้อย่างสะดวกสบาย

แม้จะมีความดุดันและสมรรถนะความแข็งแกร่งแบบกระบะ แต่ RIDDARA RD6 ก็มีความสะดวกสบายขับขี่ได้นิ่มนวลแบบ SUV ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่าง Pure Electric NVH Silent หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Carbit link พร้อมที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายขนาด 50W มีระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบระบายอากาศที่เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนได้แบบ 180 องศา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง

แล้วยังมี EASY DRIVE TO WORK ที่สามารถเพิ่มอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 4.5 วินาที มีแรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร และช่องจ่ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW ที่กระบะท้าย และระบบป้องกันการจ่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ทั้งในขณะจอดรถ ล็อกรถ ชาร์จไฟ หรือแม้กระทั่งขณะขับรถ รวมถึงเทคโนโลยี SAFETY IS THE FOUNDATION OF EVERY ADVENTURE ระบบความปลอดภัยรอบคัน

โดยตัวรถสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของโครงสร้างรถ รวมถึงระบบช่วยในการขับขี่ ADAS (Advanced Driving Assistance Systems) สูงสุด 14 ระบบ กล้องมองภาพรอบทิศทาง 540 องศา และถุงลมนิรภัย 6 จุดช่วยปกป้องทั่วทั้งห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ภายใน 1 ปี กวาดส่วนแบ่งตลาดรถกระบะไฟฟ้าจีนกว่า 60%

RIDDARA เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนในปี 2022 ด้วยความที่เป็นรถกระบะ แต่ให้ความสะดวกสบายได้แบบ SUV (รถครอบครัวที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์กว่ารถทั่วไป) ทำให้หลังจากที่เปิดตัว RIDDARA ได้กวาดส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะไฟฟ้าในประเทศจีนไปกว่า 60% ภายในระยะเวลา 1 ปี ต่อมาได้ขยายการส่งออกไปอีกกว่า 17 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมโซนยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

ล่าสุด RIDDARA ได้ขยายตลาดมายังประเทศไทย ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับตลาดรถ SUV ที่มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอดีตยานยนต์สันดาปภายในของไทยมีสัดส่วนการขายมากกว่า 80% ของยานยนต์ในประเทศทั้งหมด

แต่ปัจจุบันแนวโน้มการใช้รถยนต์มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นจาก 20.52% ในปี 2022 เป็น 41.39% ในปี 2023 รวมถึงนโยบายจากรัฐบาลไทยที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรถ EV อย่างจริงจัง ทำให้มีแบรนด์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดและได้รับความนิยมแพร่หลายได้อย่างรวดเร็ว สวนทางกับรถยนต์ประเภทสันดาปภายในที่มีสัดส่วนของยอดจำหน่ายที่ลดลง ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดที่น่าสนใจในการขยายการเติบโตของอุตสาหกรรมรถ EV

ทุ่มเงิน 750 ล้านบาท ซุ่มวิจัย 2 ปี บุกตลาดรถยนต์ในไทย

บริษัทฯใช้เวลากว่า 2 ปี พร้อมเงินลงทุนกว่า 750 ล้านบาท ในการศึกษาและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ ที่เป็นกลุ่มคนที่มีความต้องการรถที่ขับขี่สะดวกสบายแบบรถ SUV แต่ยังคงความสามารถในการบรรทุกของและใช้งานได้หลากหลาย

ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ รวมถึงฟังก์ชันการทำงานต่างๆ เช่น คำสั่งเปิดแอร์ในรถ ผ่านการเชื่อมต่อและควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือในระยะไกล เป็นต้น

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของผู้ใช้ในตลาดรถ EV จำนวนมาก เพราะผู้บริโภคชาวไทยมีการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น โดยได้แรงหนุนจากรัฐบาลที่สนับสนุนให้คนหันมาใช้รถ EV กันมากขึ้น อาทิ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งชาติ ในประเด็นหลักที่ 4 อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต

ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศให้เป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ของโลก และให้ความสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมขนส่งของไทยให้เป็นระบบยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นต้น และการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่ง RIDDARA RD6 สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉลี่ย 185 บาทต่อวัน หรือคิดเป็น 71,000 บาทต่อปี

ตั้งเป้ายอด 1,000 คัน ในปีนี้

ดร.หลิง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดตัว RIDDARA RD6 ถือเป็นการเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกในไทย โดยบริษัทฯได้วางแผนที่จะทำให้ RIDDARA RD6 กลายเป็นที่รู้จักและตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,000 คัน ภายในปี 2024 รวมถึงการส่งมอบรถที่จะเริ่มทำการส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีการเซ็นสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายแล้วกว่า 29 ราย จากที่ตั้งเป้าไว้ 30 ราย

ส่วนในปี 2025 บริษัทฯได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10,000 คัน รวมถึงการเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 20 ราย รวมเป็น 50 ราย โดยจะมุ่งเน้นการให้บริการหลังการขาย เพื่อดูแลความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด และมีแผนจะนำรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่เข้ามาตีตลาดเพิ่มเติมอีกด้วย แม้รถกระบะไฟฟ้าจะถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในมาตรการสนับสนุนของรัฐฯ แต่เชื่อว่ารัฐบาลฯจะมีการพิจารณาและเพิ่มมาตรการสนับสนุนออกมาเพิ่มในอนาคต

4 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท ตัวท็อป 1.29 ล้าน

RIDDARA RD6 สามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร และมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมี 4 รุ่นย่อย ด้วยราคาจำหน่ายดังนี้

รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • RIDDARA RD6 2WD 63kWh (แบตเตอรี่ขนาด 63 กิโลวัตต์ วิ่งไกล 373 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง) ราคา 899,000 บาท
  • RIDDARA RD6 2WD 73kWh ราคา (แบตเตอรี่ขนาด 73 กิโลวัตต์ วิ่งไกล 461 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง) 999,000 บาท

รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • RIDDARA RD6 4WD 73kWh (แบตเตอรี่ขนาด 73 กิโลวัตต์ วิ่งไกล 424 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง) ราคา 1,149,000 บาท
  • RIDDARA RD6 4WD 86kWh (แบตเตอรี่ขนาด 86 กิโลวัตต์ วิ่งไกล 455 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง) ราคา 1,299,000 บาท

โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีโหมดการขับขี่สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกันถึง  7 โหมด คือ

  • Sand (โหมดลุยทราย)
  • Mud (โหมดลุยโคลน)
  • Off-road (โหมดการขับขี่แบบสมบุกสมบัน)
  • Wading (โหมดลุยน้ำ)
  • Economy (โหมดประหยัดพลังงาน)
  • Comfort (โหมดขับสบาย เน้นใช้ในชีวิตประจำวัน)
  • Sport (โหมดเครื่องยนต์ทำรอบไวขึ้นและทำความเร็วได้)

ทั้งนี้ GEELY Holding Group กลุ่มบริษัทรถยนต์รายใหญ่สัญชาติจีน ก่อตั้งมาแล้วกว่า 27 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นของธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนตู้เย็น ก่อนจะขยายเข้าสู่ธุรกิจผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในปี 1994 ต่อปี 1997 Geely ก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการยานยนต์อย่างเต็มตัว ภายใต้ชื่อ Geely Auto ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์เอกชนรายแรกของจีน และเปิดตัวรถยนต์คันแรกจากสายการผลิตเมื่อปี 1998

]]>
1496791
Geely เตรียมนำแชทบอท AI ของ Baidu ใส่ในรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบโต้กับคนขับได้ดีขึ้น https://positioningmag.com/1420262 Wed, 22 Feb 2023 05:15:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1420262 จีลี่ (Geely) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ได้จับมือกับ Baidu เตรียมนำแชทบอท AI มาใส่ในรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่นราคากลางค่อนสูง โดยบริษัทให้เหตุผลถึงการตอบสนองระหว่างรถยนต์กับผู้ใช้งาน และสร้างประสบการณ์ในการเดินทางจะดีมากขึ้นไปอีก

สื่อจีนอย่าง Securities Times ได้รายงานข่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนอย่าง Geely เตรียมนำระบบแชทบอท AI ของยักษ์ใหญ่ไอทีจีนอย่าง Baidu มาใส่ในรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งตัวแชทบอทดังกล่าวนี้คล้ายคลึงกับ ChatGPT ที่สร้างชื่อเสียงอยู่ในตอนนี้

การที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีนได้นำแชทบอท AI มาใส่ในรถยนต์นั้นเนื่องจากต้องการให้ตัวของรถยนต์มีการตอบสนองกับผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้น และทำให้ประสบการณ์ในการเดินทางดีมากยิ่งขึ้น

โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ Geely จะนำแชทบอท AI เข้ามาใส่ก็คือรุ่น Galaxy L7 ซึ่งบริษัทจะมีการเปิดตัวในภายหลัง นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมนำระบบแชทบอท AI มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่นที่มีราคากลางค่อนสูงขึ้นไป

สำหรับ AI ของ Baidu เตรียมที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคม หลังจากบริษัทกำลังทดลองแชทบอทดังกล่าวเป็นการภายใน และจะนำระบบดังกล่าวเข้ามาผนวกกับระบบค้นหาเว็บไซต์ของบริษัทในภายหลังด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามมาจาก ChatGPT ของ OpenAI ที่สร้างความฮือฮาในการตอบคำถามยากๆ ได้

ไม่ใช่แค่ Geely เท่านั้นที่นำแชทบอทดังกล่าวมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า แล้วยังมีบริษัทรถยนต์ในจีนหลายรายที่เตรียมจะทำแชทบอท AI ของ Baidu มาใส่ภายในรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ไม่ว่าจะเป็น Great Wall Auto หรือแม้แต่ Dongfeng Nissan เป็นต้น

]]>
1420262
‘Baidu’ แพลตฟอร์มเสิร์ชเอนจิ้นจีนเตรียมสร้างบริษัทใหม่บุกตลาด ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ https://positioningmag.com/1313637 Mon, 11 Jan 2021 06:01:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313637 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นกระแสมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความแรงแบบนี้ทำให้ ‘Google’ แห่งเมืองจีนอย่าง ‘Baidu’ ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตของจีนได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้ผลิตรถยนต์ ‘Geely’ เพื่อสร้างหน่วยยานยนต์ไฟฟ้าแบบสแตนด์อโลนเพื่อลุยตลาด

Photo : Xinhua

สำหรับบริษัทใหม่นี้จะเป็นบริษัทย่อยอิสระของ Baidu โดย Baidu ที่มีสำนักงานใหญ่ในปักกิ่งจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในขณะที่ Geely ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนจะเข้าถือหุ้นส่วนน้อย จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของ Geely เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.45% ในวันจันทร์หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 20% ในวันศุกร์ ส่วนหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของ Baidu เพิ่มขึ้นกว่า 15% เมื่อปิดการซื้อขายในวันศุกร์

ทั้งนี้ Geely จะรับผิดชอบในการผลิตยานยนต์จริง ส่วน Baidu จะให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีในรถ โดยที่ผ่านมายักษ์ใหญ่ด้านการค้นหาได้ทำการทดสอบซอฟต์แวร์รถยนต์ไร้คนขับชื่อ Apollo ในการทดลองใช้หุ่นยนต์สาธารณะในปักกิ่งแล้ว นอกจากนี้ Baidu ยังมีแอปแผนที่ของตัวเองและเทคโนโลยีระบบสั่งงานด้วยเสียงที่เรียกว่า ‘DuerOS’ ซึ่งสามารถติดตั้งภายในรถได้

ไฟเขียว Baidu เทสต์ “รถยนต์ไร้คนขับ” ในปักกิ่ง โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมในห้องโดยสาร

ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เช่น การอุดหนุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟ โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ Nio, Li Auto และ Xpeng Motors รายงานยอดส่งมอบที่เพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ Baidu หวังว่าจะได้มีส่วนร่วมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

“จีนกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) และเราเห็นว่าผู้บริโภค EV ต้องการรถยนต์รุ่นใหม่ที่ฉลาดขึ้น” Robin Li ซีอีโอของ Baidu กล่าวในแถลงการณ์

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ที่เพิ่มการผลิตและการเปิดตัวยานยนต์ใหม่ อย่างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Nio เปิดตัวซีดานรุ่นแรกที่เรียกว่า et7 Foxconn ผู้ผลิต iPhone ของ Apple ลงนามในข้อตกลงกับ Byton ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเพื่อช่วยผลิตรถยนต์คันแรกอีกด้วย

Source

]]>
1313637