Grindr – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Nov 2022 13:56:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผู้ก่อตั้ง Grindr เริ่มพัฒนาแอปฯ ใหม่ หวังแก้ปัญหาที่เคยมีในแอปฯ หาคู่เดตชาวเกย์ https://positioningmag.com/1406393 Wed, 02 Nov 2022 13:43:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1406393 Motto แอปฯ ใหม่จาก Joel Simkhai ผู้ก่อตั้งแอปฯ Grindr ต้องการสร้างสังคมใหม่ในการหาคู่เดตออนไลน์ ลดพฤติกรรม ‘เป็นพิษ’ ที่คุ้นเคยกันในแอปฯ ชาวเกย์ แต่ฟังก์ชันใหม่ๆ ที่จะมีในแอปฯ อาจนำมาซึ่งคำถามว่า แอปฯ จะประสบความสำเร็จเป็นวงกว้างได้จริงหรือ?

Joel Simkhai ก่อตั้งแอปพลิเคชัน Grindr ขึ้นเมื่อปี 2009 และกลายเป็นแอปฯ ที่เปลี่ยนวิธีการหาคู่เดตของกลุ่ม LGBTQ+ ไปโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นเขาขายแอปฯ Grindr ให้บริษัทเทคจีน Kunlun Tech ไปเมื่อปี 2016

“(Grindr) ยังคงเป็นหนทางให้ผู้คนได้มาเจอกัน และแอปฯ ก็มีผู้ใช้งานจำนวนมากแล้ว ดังนั้นก็ถือว่ามีประสิทธิภาพในการใช้งาน” Simkhai กล่าวกับสำนักข่าว Fast Company “ปัญหาคือแอปฯ ไม่ค่อยได้พัฒนาไปมากกว่านั้นตั้งแต่เปิดตัวมา”

เมื่อ Simkhai เปิดตัวแอปฯ ใหม่คือ “Motto” แอปฯ นี้จึงมีฟีเจอร์ที่จะแก้ปัญหาที่เคยมีใน Grindr หรือสารพัดแอปฯ เดตชาวเกย์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกัน

“การมีคำขวัญ (motto) หมายถึงคุณมีหลักการที่ยึดถือบางอย่าง” Simkhai อธิบายถึงชื่อแอปฯ “และเรายึดถือหลักคิดที่ว่า คนเราสมควรจะได้สร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ”

Motto มีการวางขั้นตอนยืนยันตัวตนที่เข้มข้นมาก เพราะผู้ใช้ทุกคนจะต้องอัปโหลดรูปภาพเซลฟี่โดยทำท่าทางที่กำหนดให้อย่างชัดเจน เช่น ชูมือขึ้น เพื่อจะลดการมีบัญชีสแปมในแพลตฟอร์ม แอปฯ นี้ยังบังคับให้ภาพโปรไฟล์ต้องมีภาพส่วนศีรษะให้เห็นหน้ากันชัดๆ ด้วย ดังที่แอปฯ ใส่สโลแกนไว้บน App Store ว่า “พอกันทีกับภาพถอดเสื้อที่ไม่มีหน้าให้ดู”

“คุณน่าจะเคยได้ข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าตกลงหน้าตาแบบไหนอยู่บ่อยๆ และนั่นเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก” Simkhai กล่าว

แค่ฟีเจอร์บังคับให้มีรูปที่เห็นหน้าค่าตากันยังไม่พอ Motto ยังมีระบบจำกัดจำนวนคนที่จะขึ้นมาให้เราเลือกในแต่ละวันด้วย โดยปัจจุบันตั้งค่าไว้ที่ 10 คนต่อวัน คัดเลือกมาจากคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงผสมกับคนที่มีวงสังคมใกล้เคียงกัน ตัวเลขจำนวนคนต่อวันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต แต่เหตุที่ Simkhai กำหนดเรื่องพวกนี้ก็เพราะต้องการให้คนเลิกปัดหน้าจออย่างไม่รู้จบ

 

ยอมเข้าถึงผู้ใช้น้อยลง ให้การใช้งานคุณภาพสูงขึ้น

“ไอเดียของแอปฯ นี้ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นแอปฯ ของคนที่มีตัวตนจริง ผ่านการยืนยันตัว และทำให้คุณใช้เวลาน้อยลงในการปัดหาคนที่ใช่ หยุดการงมเข็มในมหาสมุทร” Simkhai กล่าว

ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สูงค่ามาก แต่ว่าในภาคปฏิบัติและเชิงธุรกิจ อาจจะมีคำถามติดตามมา

เพราะปกติแล้วแอปฯ เดตออนไลน์มักจะทำเงินได้จากการขายข้อมูลให้กับธุรกิจโฆษณา ทำให้แอปฯ ส่วนใหญ่จะอยากให้ผู้ใช้อยู่ในแอปฯ นานๆ ปัดจอกันไปเรื่อยๆ แต่กลายเป็นว่า Motto จะหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น

เรื่องนี้ Simkhai กล่าวว่า Motto อาจจะให้ใช้ฟรีอยู่ขณะนี้ แต่ในอนาคต ณ จุดๆ หนึ่งก็จะต้องมีระบบสมัครสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นการเป็นแอปฯ ปิดที่ต้องสมัครเข้าใช้ หรืออาจจะเป็นระบบฟรีเมียม มีฟังก์ชันบางอย่างที่จ่ายเงินซื้อได้ เช่น บูสต์โปรไฟล์ของตัวเองให้คนอื่นเห็นมากกว่าปกติ

Joel Simkhai

ด้านการขยายฐานผู้ใช้งาน Simkhai ก็รู้ดีว่า Motto จะไม่สามารถมีฐานใหญ่ได้เท่ากับ Grindr ด้วยข้อจำกัดที่บังคับภายในแอปฯ อย่างการบังคับให้มีรูปหน้าตาตนเองบนโปรไฟล์ จะทำให้ LGBTQ+ หลายคนไม่พร้อมที่จะใช้แอปฯ เพราะหลายคนก็ยังไม่บอกให้สังคมรู้ ต้องการปิดบังตนเอง

“ผมเข้าใจว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถโพสต์รูปเปิดเผยตนเองได้บนแอปฯ แบบนี้ ด้วยเหตุผลต่างๆ กัน” Simkhai กล่าว “น่าเสียดายที่ขณะนี้เราอาจจะยัง ‘ไม่ใช่’ สำหรับคนกลุ่มดังกล่าว”

Simkhai อธิบายว่าแอปฯ พร้อมเปิดรับทุกคนที่ต้องการสานสัมพันธ์ออนไลน์ในรูปแบบใหม่ และการสร้างฟังก์ชันเหล่านี้ก็เพื่อลดสแปม บอท และนักต้มตุ๋น

สำหรับ Grindr นั้นปัจจุบันมีผู้ใช้งานประจำเฉลี่ยเดือนละ 11 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลก และถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นแอปฯ ที่ยังคงประสบความสำเร็จในแง่จำนวนผู้ใช้ แม้จะผ่าน “ดราม่า” มามากมายหลังซื้อขายเปลี่ยนมือ เช่น เมื่อสังคมพบว่า Scott Chen อดีตประธานบริษัท Grindr ที่มาจาก Kunlun Tech เคยเขียนโพสต์บน Facebook ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเพศเดียวกัน แม้กระทั่ง George Arison ซีอีโอคนปัจจุบัน Grindr ก็เคยถูกวิจารณ์เพราะไปสนับสนุนนักการเมืองที่มีประวัติเหยียด LGBTQ+

เรื่องราวดราม่าเหล่านี้ทำให้ Simkhai บอกว่าเขาจะระมัดระวังมากขึ้นเมื่อมาบริหาร Motto ทีมงานใหม่ทุกคนจะต้องเชื่อในวิสัยทัศน์ของแอปฯ และเคารพต่อคอมมูนิตี้ของกลุ่มเควียร์

“แอปฯ นี้จะใส่ใจในการคัดสรรมากกว่า มีความตั้งใจกว่า” เขากล่าวถึง Motto เมื่อเทียบกับ Grindr “เราหวังว่าจะเป็นแอปฯ ที่มีคุณภาพ และเป็นแอปฯ ที่คุณจะใช้เวลาน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม”

Source

]]>
1406393
แอปฯ หาคู่ยอดฮิตในกลุ่มชาวเกย์ “Grindr” เตรียมเปิด IPO มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1385045 Thu, 12 May 2022 07:26:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1385045 Grindr แอปฯ หาคู่ยอดฮิตในกลุ่มเกย์เตรียมเปิด IPO ผ่านการควบรวมกิจการบริษัท SPAC โดยจะทำให้บริษัทมีมูลค่าขึ้นไปแตะ 2,100 ล้านเหรียญ รับเทรนด์แอปฯ หาคู่ยังเป็นช่วงขาขึ้น

บริษัท Grindr ถือว่าผ่านเส้นทางปั่นป่วนมาหลายปีในแง่ของการถือครอง เนื่องจากบริษัทเคยขายหุ้นใหญ่ให้กับบริษัท Kunlun Tech Co จากประเทศจีน และเคยมีแผนจะเปิด IPO มาแล้วเมื่อปี 2018 แต่ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ เพ่งเล็งแอปฯ นี้ในแง่ความมั่นคงของชาติ โดยเกรงว่าจะมีการส่งข้อมูลอ่อนไหวของประชาชนอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน จึงบีบให้ Kunlun Tech Co ต้องลดการถือครองหุ้นเมื่อปี 2020

บริษัทที่ชนะดีลเข้าซื้อหุ้นจาก Kunlun Tech คือ San Vicente ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าจากการลงทุน 3 ฝ่าย ได้แก่ Raymond Zage ซีอีโอ Tiga Investments, James Lu อดีตกรรมการบริหาร Baidu Inc และ Michael Gearon เจ้าของร่วมทีมบาสเกตบอล Atlanta Hawks โดยดีลขณะนั้นทำให้บริษัท Grindr ถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 620 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,500 ล้านบาท)

แผนการเปิด IPO ของ Grindr จะใช้วิธีควบรวมกิจการกับบริษัท Tiga Investments ของ Zage เอง ซึ่งบริษัทนี้ตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท SPAC อยู่แล้ว

มูลค่าดีลทั้งหมดจะอยู่ที่ 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 73,000 ล้านบาท) ผู้ถือหุ้นเดิมจะลดสัดส่วนการถือครองเหลือ 78% และทุกคนในกลุ่ม San Vicente จะยังคงลงทุนต่อ

การเปิด IPO ครั้งนี้คาดว่าน่าจะยังต้องรอการรับรองจากคณะกรรมการด้านการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวกับที่มีคำสั่งให้ Kunlun ขายหุ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ประเด็นที่อาจจะถูกเพ่งเล็งคือ James Lu ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัท Grindr ขณะนี้ ถูกสำรวจพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับที่ปรึกษาบริษัท Kunlun

Photo : Shutterstock

Grindr ระบุในเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุนว่า บริษัทมีผู้ใช้งานเฉลี่ย 11 ล้านรายต่อเดือน และรายได้ของบริษัทเมื่อปีก่อนเติบโตขึ้น 30%

ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า EBITDA ของบริษัท Grindr เมื่อปี 2021 อยู่ที่ 77 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) นั่นทำให้ดีลนี้ให้ค่าบริษัทสูงกว่ารายได้ 27 เท่า หากเทียบกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน Match Group Inc (เจ้าของแอปฯ Tinder) ปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า EBITDA 22 เท่า และบริษัท Bumble Inc มีมูลค่าสูงกว่า EBITDA 25 เท่า

ตลาดแอปฯ หาคู่ถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยบริษัทวิจัย Grand View Research ประเมินว่า ภายในปี 2028 ตลาดแอปฯ หาคู่ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะ 11,030 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.83 แสนล้านบาท) โดยระหว่างปี 2021-2028 น่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 5.6% โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ระหว่างเกิดโรคระบาด มีการใช้งานแอปฯ หาคู่สูงขึ้นมากเพื่อแก้เหงาและชดเชยช่วงที่ไม่สามารถไปพบปะคนใหม่ๆ ในชีวิตออฟไลน์ได้

งานวิจัยยังคาดว่า แม้ขณะนี้ตลาดใหญ่ที่สุดของแอปฯ หาคู่จะเป็นทวีปอเมริกาเหนือ แต่อนาคตตลาดเอเชียแปซิฟิกน่าจะเติบโตแรงกว่า โดยน่าจะโต CAGR 6.0% ในรอบ 7 ปีข้างหน้า เพราะเอเชียแปซิฟิกกำลังวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ทั่วถึงมากขึ้น ทำให้จะมีผู้ใช้บริการสูงขึ้น

Source: The Economic Times, PR Newswire

]]>
1385045