Grindr แอปฯ หาคู่ยอดฮิตในกลุ่มเกย์เตรียมเปิด IPO ผ่านการควบรวมกิจการบริษัท SPAC โดยจะทำให้บริษัทมีมูลค่าขึ้นไปแตะ 2,100 ล้านเหรียญ รับเทรนด์แอปฯ หาคู่ยังเป็นช่วงขาขึ้น
บริษัท Grindr ถือว่าผ่านเส้นทางปั่นป่วนมาหลายปีในแง่ของการถือครอง เนื่องจากบริษัทเคยขายหุ้นใหญ่ให้กับบริษัท Kunlun Tech Co จากประเทศจีน และเคยมีแผนจะเปิด IPO มาแล้วเมื่อปี 2018 แต่ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ เพ่งเล็งแอปฯ นี้ในแง่ความมั่นคงของชาติ โดยเกรงว่าจะมีการส่งข้อมูลอ่อนไหวของประชาชนอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน จึงบีบให้ Kunlun Tech Co ต้องลดการถือครองหุ้นเมื่อปี 2020
บริษัทที่ชนะดีลเข้าซื้อหุ้นจาก Kunlun Tech คือ San Vicente ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าจากการลงทุน 3 ฝ่าย ได้แก่ Raymond Zage ซีอีโอ Tiga Investments, James Lu อดีตกรรมการบริหาร Baidu Inc และ Michael Gearon เจ้าของร่วมทีมบาสเกตบอล Atlanta Hawks โดยดีลขณะนั้นทำให้บริษัท Grindr ถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 620 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,500 ล้านบาท)
แผนการเปิด IPO ของ Grindr จะใช้วิธีควบรวมกิจการกับบริษัท Tiga Investments ของ Zage เอง ซึ่งบริษัทนี้ตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท SPAC อยู่แล้ว
มูลค่าดีลทั้งหมดจะอยู่ที่ 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 73,000 ล้านบาท) ผู้ถือหุ้นเดิมจะลดสัดส่วนการถือครองเหลือ 78% และทุกคนในกลุ่ม San Vicente จะยังคงลงทุนต่อ
การเปิด IPO ครั้งนี้คาดว่าน่าจะยังต้องรอการรับรองจากคณะกรรมการด้านการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวกับที่มีคำสั่งให้ Kunlun ขายหุ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ประเด็นที่อาจจะถูกเพ่งเล็งคือ James Lu ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัท Grindr ขณะนี้ ถูกสำรวจพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับที่ปรึกษาบริษัท Kunlun
Grindr ระบุในเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุนว่า บริษัทมีผู้ใช้งานเฉลี่ย 11 ล้านรายต่อเดือน และรายได้ของบริษัทเมื่อปีก่อนเติบโตขึ้น 30%
ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า EBITDA ของบริษัท Grindr เมื่อปี 2021 อยู่ที่ 77 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) นั่นทำให้ดีลนี้ให้ค่าบริษัทสูงกว่ารายได้ 27 เท่า หากเทียบกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน Match Group Inc (เจ้าของแอปฯ Tinder) ปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า EBITDA 22 เท่า และบริษัท Bumble Inc มีมูลค่าสูงกว่า EBITDA 25 เท่า
ตลาดแอปฯ หาคู่ถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยบริษัทวิจัย Grand View Research ประเมินว่า ภายในปี 2028 ตลาดแอปฯ หาคู่ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะ 11,030 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.83 แสนล้านบาท) โดยระหว่างปี 2021-2028 น่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 5.6% โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ระหว่างเกิดโรคระบาด มีการใช้งานแอปฯ หาคู่สูงขึ้นมากเพื่อแก้เหงาและชดเชยช่วงที่ไม่สามารถไปพบปะคนใหม่ๆ ในชีวิตออฟไลน์ได้
งานวิจัยยังคาดว่า แม้ขณะนี้ตลาดใหญ่ที่สุดของแอปฯ หาคู่จะเป็นทวีปอเมริกาเหนือ แต่อนาคตตลาดเอเชียแปซิฟิกน่าจะเติบโตแรงกว่า โดยน่าจะโต CAGR 6.0% ในรอบ 7 ปีข้างหน้า เพราะเอเชียแปซิฟิกกำลังวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ทั่วถึงมากขึ้น ทำให้จะมีผู้ใช้บริการสูงขึ้น
Source: The Economic Times, PR Newswire