medical – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 05 Jul 2021 02:53:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘จีน’ ส่งออก ‘อุปกรณ์ทางการแพทย์’ ที่เกี่ยวข้องกับโควิด พุ่ง 3 เท่า โกยเงินเเสนล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1340586 Sun, 04 Jul 2021 09:03:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1340586 ตลอดปี 2020 จีนทำเงินจากการส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไปกว่า 105,000 ล้านเหรียญ พุ่งขึ้นจากช่วงปกติถึง 3 เท่า สหรัฐฯ เป็นตลาดรับซื้อหลัก บริษัทนอกวงการแห่เปลี่ยนมาผลิตหน้ากากอนามัย เพราะทำกำไรดี ขายง่าย ส่งออกเร็ว 

จากรายงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ระบุว่า จีนเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคระบาดโควิด-19 ในปี 2020 มากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าส่งออกสินค้าสูงถึง 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่ยังไม่มีการเเพร่ระบาด

ในปี 2020 มูลค่าตลาดของอุปกรณ์ทางด้านการแพทย์ทั่วโลก พุ่งแตะ 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ท่ามกลางมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวด สวนทางกับมูลค่าตลาดสินค้าประเภทอื่นทั่วโลกที่หดตัว 7.6% ในปีเดียวกัน

โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อย่าง หน้ากากอนามัย เครื่องช่วยหายใจ แอลกอฮอล์ล้างมือ เครื่องสแกนอัลตราโซนิก มีอัตราการเติบโตสูงถึง 31%

ปัจจุบันมี 3 ประเทศที่ทำการค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์สูงสุด ได้เเก่ จีน สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ซึ่งหากรวมกันทั้ง 3 ประเทศเเล้ว สัดส่วนตลาดด้านการค้าอุปกรณ์การแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 จะสูงขึ้นกว่าปี 2019 ถึง 41%

จากอานิสงส์การส่งออกที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้จีนขยับขึ้นมามีบทบาทสำคัญ เป็นผู้ส่งออกอันดับต้นๆ ของโลกในปี 2020

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2020 มีบริษัทใหม่ในจีน จดทะเบียนผลิตหรือซื้อขายหน้ากากอนามัยถึง 70,802 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1,256%

Photo : Xinhua

“เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอย่าง บริษัทที่ผลิตเคยสินค้าชนิดอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อย่างลูกกอล์ฟ บุหรี่ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ ต่างพากันเปลี่ยนไลน์การผลิตมาทำหน้ากากอนามัยเเทน เนื่องจากมีความต้องการสูง ทำกำไรได้ดี และส่งออกสินค้าได้เร็วภายในไม่กี่สัปดาห์” 

ด้านสหรัฐฯ เเม้จะผู้ส่งออกสินค้าด้านการแพทย์อันดับต้นๆ ของโลก เเต่ก็เป็นผู้นำเข้าสินค้าการแพทย์เพื่อรับมือโควิด-19 มากสุดในโลกเช่นกัน ตามด้วยเยอรมนี เเละจีน โดยสหรัฐฯ สั่งซื้อสินค้าส่วนใหญ่จากจีน ตามด้วยเม็กซิโกและเยอรมนี

ในตลาดสหรัฐฯ จีนมีส่วนแบ่งตลาดราว 40.2 % มากกว่าเกือบเท่าตัวของส่วนแบ่งตลาดของเยอรมนีที่ 26.5%

อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าประเภทนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ส่งผลให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ในบางชนิดลดลง ซึ่งที่ผ่านมา จีนต้องเผชิญกับปัญหาการตีสินค้ากลับ เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นของประเทศปลายทาง

 

ที่มา : SCMP , WTO 

 

]]>
1340586
ญี่ปุ่น ปรับขึ้นค่าประกันสังคม ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไปจ่าย 2 เท่า เพื่อลดภาระคนรุ่นใหม่ https://positioningmag.com/1310720 Wed, 16 Dec 2020 13:23:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1310720 รัฐบาลญี่ปุ่น เคาะเเผนปรับขึ้นค่าประกันสังคมสำหรับกองทุนรักษาพยาบาลของผู้ที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไปที่มีรายได้เกิน 2 ล้านเยนต่อปี เพื่อเเบ่งเบาภาระของคนรุ่นใหม่ เเละต่อสู้กับวิกฤตประชากรขั้นรุนเเรง

นโยบายนี้จะทำให้ชาวญี่ปุ่นที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไปที่มีรายได้เกิน 2 ล้านเยนต่อปี (ราว 5.8 เเสนบาท) เเละคู่สมรสอายุ 75 ปีขึ้นไปที่มีรายได้รวมกันเกิน 3.2 ล้านเยนต่อปี (9.2 เเสนบาท) จะต้องเสียค่าประกันสังคมเพิ่มเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด จากเดิมที่เคยต้องจ่ายเพียง 10%

โดยคาดว่าโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2022 ซึ่งจะมีคนญี่ปุ่นราว 3.7 ล้านคนได้รับผลกระทบ 

โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ที่เพิ่งขึ้นรับตำเเหน่งไปเมื่อช่วงเดือน ก.. ระบุว่า รัฐบาลต้องการจะ
ลดภาระของคนรุ่นใหม่ วัยทำงานที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นจากปัญหาประชากร โดยต้องการสร้างระบบประกันสังคมที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน

การที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มขั้น ทำให้ค่าใช้จ่ายสวัสดิการของรัฐด้านประกันสังคมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่ออัตราการเกิดใหม่ลดลงก็ทำให้มีประชากรวัยเเรงงานที่เป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจจ่ายภาษีลดลง อีกทั้งคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็ต้องเเบกรับภาระทางสังคมเพิ่มขึ้น

Photo : Shutterstock

ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการผลักดันกฎหมายให้ภาคเอกชนขยายระยะเวลาทำงาน หรือขยายเวลาเกษียณอายุให้กับลูกจ้างไปจนถึงอายุ 70 ปี จากเดิมที่บริษัทญี่ปุ่นมีภาระผูกพันที่จะต้องให้พนักงานทำงานจนถึงอายุ 65 ปี

เเม้ในขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะยังไม่ได้บังคับให้ทุกบริษัทต้องรักษาสภาพพนักงานไปจนถึงอายุ 70 ปี เเต่ก็ให้เป็นตัวเลือกมาลองใช้ 5 เเบบ ได้เเก่ การขยายเวลาเกษียณอายุ การปลดลูกจ้างต่อเมื่อไม่สามารถทำงานได้ เเละการอนุญาตให้ลูกจ้างทำงานเกินอายุที่กำหนด

เเละมีตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำงานยุคใหม่อีก 2 เเบบคือ การให้บริษัทจ้างงานลูกจ้างที่เกษียณอายุแล้วในรูปแบบฟรีแลนซ์เเละให้จ้างงานลูกจ้างให้ทำงานเป็นการกุศลของบริษัท โดยคาดว่าจะบังคับใช้ให้ได้ภายในเดือนเมษายน ปี 2021

 

 

ที่มา : JapanTimes , JapanToday

]]>
1310720