Renault – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 01 Mar 2024 13:25:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 CEO ของ ‘เรโนลต์’ เผย “ถ้าจะสู้ศึก EV กับบริษัทจีน ผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในยุโรปจะต้องร่วมมือใกล้ชิดกันมากกว่านี้” https://positioningmag.com/1464634 Fri, 01 Mar 2024 10:29:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464634 หัวเรือใหญ่ของเรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของทวีปยุโรป ได้กล่าวในงาน Geneva International Motor Show ว่า ผู้ผลิตและซัพลลายเออร์ในยุโรปจะต้องร่วมมือใกล้ชิดกันมากกว่านี้ เพื่อที่จะต่อสู้ศึกรถยนต์ไฟฟ้ากับผู้ผลิตจากประเทศจีนที่กำลังตีตลาดในตอนนี้

Luca de Meo ซึ่งเป็น CEO ของเรโนลต์ (Renault) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของทวีปยุโรป ได้กล่าวว่า ผู้ผลิตและซัพลลายเออร์ในยุโรปไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากกว่านี้ ถ้าหากจะสู้ศึกรถยนต์ไฟฟ้ากับผู้ผลิตจากจีน

หัวเรือใหญ่ของ Renault ได้กล่าวในงาน Geneva International Motor Show ว่า มีพื้นที่สำหรับความร่วมมือภายในทวีปยุโรปไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำที่เกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเขาชี้ว่าผู้ผลิตจากยุโรปนั้นเสียเปรียบผู้ผลิตจากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกำลังการผลิตที่จีนมีกำลังกว่ามาก

เขาได้พูดเชิงเปรียบเทียบให้ผู้ผลิตรวมตัวเหมือนกับ Airbus ซึ่งเป็นผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของยุโรปที่ได้รวมผู้ผลิตหลายรายเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะต่อสู้กับ Boeing ซึ่งเป็นคู่แข่งจากสหรัฐอเมริกา

การบุกตลาดยุโรปของผู้ผลิต EV จากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชูจุดเด่นด้านราคา ทำให้ผู้ผลิตหลายรายในยุโรปเริ่มส่งสัญญาณในการต่อสู้ไม่ไหว จนทำให้สหภาพยุโรปเองเตรียมที่จะเข้ามาสอบสวนว่าผู้เล่นจากจีนได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งถือเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด จนทำให้การแข่งขันนั้นไม่เป็นธรรมหรือไม่

ตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สัดส่วนการครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตในประเทศจีนนั้นครองตลาดทั่วโลก สัดส่วนมากถึง 68% ตรงข้ามกับผู้ผลิตจากยุโรปเริ่มออกอาการไม่ดี มีสัดส่วนแค่ 20.8% ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา

เขาชี้ว่ายุโรปนั้นมีหลายประเทศกระจัดกระจาย ซึ่งถือว่าเป็นแง่ดี แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องความล่าช้าถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

นอกจากนี้ CEO ของ Renault ยังเรียกร้องให้ทางการยุโรปผลักดันผู้ให้ผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ผลิตรถยนต์ให้ร่วมมือกันเพื่อช่วยเร่งการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ และใช้ EV เพื่อกักเก็บพลังงานสำหรับโครงข่ายไฟฟ้า เนื่องจากพวกเขาสามารถทำหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์ด้านพลังงานได้เมื่อจำเป็น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายุโรปมีปัญหาด้านพลังงานจนส่งผลต่อการผลิต

ที่มา – Reuters, Forbes, Carscoop

]]>
1464634
Renault ระส่ำ เตรียมเลิกจ้างเกือบ 15,000 ตำเเหน่งทั่วโลก ลดกำลังผลิตรถยนต์ https://positioningmag.com/1281255 Fri, 29 May 2020 12:34:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1281255 Renault ปรับองค์กรครั้งใหญ่ เตรียมปลดพนักงานทั่วโลกกว่า 14,600 คน โดย 1 ใน 3 เป็นการเลิกจ้างในฝรั่งเศส เพื่อรักษาสถานภาพของบริษัทในช่วงที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำ ซึ่งเป็นไปตามเเผนการลดค่าใช้จ่าย 2,000 ล้านยูโรให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า

โดย Renault เตรียมจะลดกำลังการผลิตรถยนต์จากปีละ 4 ล้านคันในปี 2019 ให้เหลือ 3.3 ล้านคันภายในปี 2024

ตลาดยานยนต์ทั่วโลกซบเซาต่อเนื่องมาหลายปี เเละการที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ประกอบกับปัญหาภายในองค์กรของ Renault เริ่มระส่ำหลัง Carlos Ghosn อดีตซีอีโอที่เป็นผู้บริหารคนสำคัญถูกตั้งข้อหาประพฤติมิชอบทางการเงินในญี่ปุ่นเเละกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี

โดยก่อนหน้าที่ Carlos Ghosn จะมีปัญหาคดีความ Renault เคยตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ให้ได้มากกว่า 5 ล้านคันภายในปี 2022

ทางบริษัทระบุว่า เพื่อให้เเผนการปรับองค์กรดำเนินไปได้ ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 โรงงานบางแห่งจากทั้งหมด 6 เเห่งในฝรั่งเศส อาจต้องยุติการผลิตรถยนต์ ทำให้พนักงานส่วนหนึ่งต้องพ้นจากตำเเหน่ง โดยตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหารือกับสหภาพเเรงงาน ซึ่งจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 4,600 ตำเเหน่งในฝรั่งเศส

พร้อมกันนั้นจะมีเเผนการปรับลดพนักงานในต่างประเทศ อีกราว 10,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะมีการระงับการขยายการผลิตในโมร็อกโกเเละโรมาเนีย รวมถึงจะนำเเผนกิจการในรัสเซียมาทบทวนใหม่ด้วย

Photo : Shutterstock

Renault เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่มีส่วนเเบ่งในตลาดรถยนต์โลกประมาณ 4% มีพนักงานทั่วโลกราว 1.8 เเสนคน เป็นพนักงานในฝรั่งเศสราว 4.8 หมื่นคน มีผู้ถือหุ้น 15.01% คือรัฐบาลฝรั่งเศสเเละพันธมิตรอย่าง Nissan Motor ที่ถือหุ้นอยู่ 15%

ความเคลื่อนไหวของ Renault ครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Nissan Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นหุ้นส่วนสำคัญ เพิ่งประกาศขาดทุน 6.7 เเสนล้านเยน (ราว 1.9 เเสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการขาดทุนรายปีครั้งเเรกในรอบ 11 ปี นับตั้งเเต่ช่วงวิกฤตการเงินโลก โดยเตรียมจะปิดโรงงานในเมืองบาร์เซโลนาของสเปน เเละย้ายสายการผลิตจากอินโดนีเซียมาไทย

นอกจากนี้ Nissan จะมีการปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงการลดจำนวนโรงงานและธุรกิจที่ไม่ทำกำไรให้น้อยลง ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ต้องปรับกำลังการผลิตรถยนต์ เหลือ 5.4 ล้านคันต่อปี ลดลงราว 20% ลดจำนวนรุ่นจาก 69 รุ่นเหลือเพียง 55 รุ่น เป็นต้น

โดย Renault กำลังเจรจาเงื่อนไขขอเงินกู้ช่วยเหลือมูลค่า 5,000 ล้านยูโร (ราว 1.76 เเสนล้านบาทจากรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพิจารณา 

เมื่อวันที่ 27 ..ที่ผ่านมา Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศเเผนทุ่มเงินกว่า 8,000 ล้านยูโร (ราว 2.8 เเสนล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ หวังขึ้นเป็นผู้นำผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของยุโรป

อ่านเพิ่มเติม : เปิดเเผนฝรั่งเศสอัดงบฟื้นอุตฯยานยนต์ หวังพลิกวิกฤตสู่เบอร์ 1 รถยนต์ไฟฟ้าเเห่งยุโรป

Renault , Citroen เเละ Peugeot มียอดขายรถยนต์เเละรายรับลดลงถึง 80% ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ 2 เดือนเพื่อสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ในฝรั่งเศส เเละภายในสิ้นเดือนมิ..จะมีรถยนต์ราว 5 เเสนคันที่ยังขายไม่ออก

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ในฝรั่งเศส มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกว่า 4,000 แห่ง มีพนักงานโดยตรงกว่า 4 เเสนคน เเละมีการจ้างงานรวมทั้งวงการกว่า 9 เเสนคน

 

ที่มา : financial times , Reuters , nytimes

]]> 1281255 เปิดเเผน “ฝรั่งเศส” อัดงบฟื้นอุตฯยานยนต์ หวังพลิกวิกฤตสู่เบอร์ 1 รถยนต์ไฟฟ้าเเห่งยุโรป https://positioningmag.com/1280857 Wed, 27 May 2020 12:40:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280857 อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังระส่ำทั่วโลก จากพิษ COVID-19 โดยเฉพาะในยุโรปที่ยอดขายลดฮวบต่ำสุดนับตั้งเเต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากต้องหยุดผลิตรถยนต์ชั่วคราวตามมาตรการล็อกดาวน์ ตอนนี้โรงงานในฝรั่งเศลบางเเห่ง เริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตได้อีกครั้ง

ล่าสุด Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศเเผนทุ่มเงินกว่า 8,000 ล้านยูโร (ราว 2.8 เเสนล้านบาท) ฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ หวังขึ้นเป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของยุโรป

“เราจะเร่งเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานสะอาด เน้นการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเเละรถยนต์ไฮบริด โดยตั้งเป้าที่จะผลิตให้ได้ 1 ล้านคันต่อปี เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตฯ ยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป”

นอกจากส่งเสริมฝั่งผู้ผลิตเเล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสจะเเบ่งงบ 1,000 ล้านยูโร (ในวงเงิน 8,000 ล้านยูโร) มากระตุ้นให้เกิดความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภค โดยจะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 7,000 ยูโร (ราว 2.4 เเสนบาท) ให้กับบุคคลทั่วไปที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนบริษัทที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ในองค์กรจะได้รับเงินสนับสนุน 5,000 ยูโร (ราว 1.7 เเสนบาท) ต่อคัน

เเละหากซื้อรถยนต์ไฮบริด จะได้รับเงินสนับสนุน 2,000 ยูโร ( ราว7 หมื่นบาท) ต่อคัน ส่วนผู้ที่จะนำรถยนต์ไปเปลี่ยนจากระบบพลังงานน้ำมันเป็นพลังงานอื่นที่ก่อมลพิษน้อยกว่า จะได้รับเงิน 3,000 ยูโร เเละถ้าใครอัพเกรดให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็จะได้รับเงิน 5,000 ยูโรเช่นกัน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะครอบคลุมชาวฝรั่งเศส 3 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด โดยจะเริ่มตั้งเเต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป

อุตสาหกรรมรถยนต์ในฝรั่งเศส มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกว่า 4,000 แห่ง มีพนักงานโดยตรงกว่า 4 เเสนคน เเละมีการจ้างงานรวมทั้งวงการกว่า 9 เเสนคน

“หากไม่รวมช่วงสงคราม เราจะต้องเผชิญกับวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาคยานยนต์” Macron กล่าว

Renault , Citroen เเละ Peugeot ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส มียอดขายรถยนต์เเละรายรับลดลงถึง 80% ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ 2 เดือนเพื่อสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เเละ ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. จะมีรถยนต์ราว 5 เเสนคันที่ยังขายไม่ออก

“เราต้องปกป้องการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม เเละนี่จะเป็นเเผนของอุตสาหกรรมรถยนต์ในศตวรรษที่ 21 ด้วย”

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า Renault กำลังเตรียมจะปลดพนักงานในฝรั่งเศส 5,000 คน ให้ได้ภายในปี 2024 ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ราว 2,000 ล้านยูโร

ล่าสุด (29 พ.ค.) Renault ประกาศจะปลดพนักงานทั่วโลกกว่า 14,600 คน โดย 1 ใน 3 เป็นการเลิกจ้างในฝรั่งเศส เพื่อรักษาสถานภาพของบริษัทในช่วงที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำ

รัฐบาลฝรั่งเศส มีความกระตือรือร้นที่จะใช้วิกฤต COVID-19 ให้เป็นการผลักดันอุตสาหกรรมไปในทิศทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างกรณีแพ็กเกจช่วยเหลือมูลค่า 7,000 ล้านยูโรของ Air France ก็มีเงื่อนไขว่า สายการบินจะต้องปรับปรุงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

ที่มา : AFP , Reuters

 

]]>
1280857