Xpeng – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 18 Mar 2024 03:47:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Xpeng แบรนด์ EV จีน ประกาศเตรียมเปิดตัวแบรนด์ลูกเน้นราคาถูก ชูคอนเซ็ปต์ ‘รถคันแรกของหนุ่มสาว’ https://positioningmag.com/1466560 Sun, 17 Mar 2024 16:05:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466560 เสี่ยวเผิง (Xpeng) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เน้นขายรถเจาะกลุ่มตลาดกลางค่อนบน ล่าสุดบริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวแบรนด์ EV ใหม่ของบริษัท โดยเน้นราคาถูก และมีคอนเซ็ปต์ของแบรนด์คือรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกขับเคลื่อนด้วยระบบ AI คันแรกของหนุ่มสาว

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า Xpeng แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้ประกาศว่าจะมีการเปิดตัวแบรนด์ลูกที่เน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนนั้นยังมีการแข่งขันที่สูง

He Xiaopeng ซึ่งเป็นประธานและ CEO ของบริษัทได้กล่าวในงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเขากล่าวว่าบริษัทได้เตรียมเปิดตัวแบรนด์ลูกที่เน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกโดยเฉพาะ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นราวๆ 100,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 500,000 บาท

แบรนด์ดังกล่าวนั้นได้วางคอนเซ็ปต์ของแบรนด์คือ “รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยระบบ AI คันแรกสำหรับหนุ่มสาว” โดยราคาในแต่ละรุ่นจะมีความสามารถแตกต่างกันไป

นอกจากนี้บัญชี WeChat ของ Xpeng เองยังได้ลงคำพูดของ CEO รายดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นการยืนยันว่าบริษัทได้ลงมาเล่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Xpeng ต้องเลือกใช้กลยุทธ์ในการออกแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ทั้งๆ ที่ปกติแล้วบริษัทขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางค่อนบน ในราคาเริ่มต้นที่ 200,000 หยวนเป็นต้นไปนั้นก็เป็นเพราะว่าแบรด์ใหญ่ของจีนอย่าง BYD ได้เริ่มทำสงครามราคาอีกรอบ

ในช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิต EV จากประเทศจีนต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะสามารถทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การเจาะตลาดต่างประเทศ ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ให้กับรถยนต์

ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุดช่วง 2 เดือนแรกของจีนในปี 2024 นั้นอัตราการเติบโตลดลงมาเหลือ 18.2% เมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเติบโตลดลงเรื่อยๆ ส่งผลทำให้แบรนด์ EV จีนต้องเร่งหาวิธีที่จะทำให้บริษัทสามารถขายรถยนต์ได้มากที่สุดนั่นเอง

]]>
1466560
“รถจีน” กำลังบุกหนักในตลาดยุโรป กดดันเจ้าตลาดอย่าง Mercedes-Benz, BMW และ Volkswagen https://positioningmag.com/1443927 Mon, 11 Sep 2023 06:00:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1443927 สารพัดค่าย “รถจีน” กำลังตั้งเป้าบุกตลาดระดับโลก โดยมีตลาดยุโรปเป็นหน้าด่านแรก ส่งผลกดดันต่อเจ้าตลาดเก่าอย่าง Mercedes-Benz, BMW และ Volkswagen ค่ายรถสัญชาติยุโรป ในอนาคตรถจีนจะเร่งบุกต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ ไล่ชิงมาร์เก็ตแชร์จาก Ford และ GM

อุตสาหกรรมรถยนต์จีนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จนทำให้ค่าย “รถจีน” น่าจะเติบโตแซงหน้าแบรนด์รถยนต์ต่างชาติที่เคยเป็นแบรนด์ฮิตในจีน เช่น Ford, GM ได้ภายในปี 2023 และเมื่อรถจีนสามารถเอาชนะต่างชาติได้ในประเทศบ้านเกิด เป้าหมายต่อไปที่แบรนด์รถจีนกำหนดคือการเดินหน้าสู่อนาคตตลาดโลก

แม้ว่าตลาดรถอีวีในจีนจะเริ่มชะลอตัวลงด้วยดีมานด์การซื้อในประเทศที่ลดลง แต่โรงงานผลิตรถยนต์ของจีนก็ยังเดินเครื่องเต็มกำลังเพื่อขยายตลาดสากล โดยมี “ยุโรป” เป็นตลาดแรกที่จีนจะเจาะเข้าไปให้ได้

มีการรายงานล่าสุดจากงานแสดงโชว์รถยนต์ Munich Auto Show พบว่า บรรดาผู้บริหารค่ายรถยนต์ยุโรปเจ้าตลาดเดิมหลายรายรู้สึกกังวลกับการเข้าสู่ตลาดของค่ายรถยนต์จากจีน เพราะปีนี้แบรนด์รถยนต์จากจีนได้รับความสนใจสูงมากในงาน จากปกติแล้วค่ายรถยนต์เยอรมันมักจะเป็นดาวเด่นของงาน

รถจีน
BYD Seal และ Dolphin สองรุ่นแรกที่ใช้บุกยุโรป

งานครั้งนี้มีแบรนด์รถยนต์จีนอย่าง BYD ที่ส่งรถยนต์ประเภท SUV ขนาดกลางและรถเก๋งซีดานขนาดกลางเข้าไปโชว์ตัวเพื่อจะเริ่มขายในยุโรปปลายปีนี้ ขณะที่ XPeng ซึ่งเริ่มขายในยุโรปแล้ว 4 ประเทศก็ประกาศแล้วว่าจะเริ่มเจาะตลาดเยอรมนีภายในปี 2024 ส่วนค่ายรถ Leapmotor อีกหนึ่งแบรนด์จากจีนก็จะเริ่มเข้าตลาดยุโรปภายในปี 2024 เช่นกัน

“เยอรมนีกำลังเสียความสามารถในการแข่งขันไป” Hildegard Mueller ประธาน สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งเยอรมนี กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ระหว่างร่วมงาน Munich Auto Show

 

“รถจีน” มีรถอีวีที่ล้ำหน้ากว่า

จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ “รถจีน” เจาะเข้าตลาดยุโรปได้ง่ายขึ้น เกิดจากการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของค่ายรถยุโรปที่ค่อนข้างจะช้ากว่า

KPMG บริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง คาดการณ์ว่า บริษัทรถจากจีนจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในยุโรปได้ 15% ภายในเวลา 2 ปี

ผู้เชี่ยวชาญบางรายกล่าวว่า รถยนต์อีวีของจีนนั้นล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่ากลุ่มค่ายรถยนต์ที่เป็นผู้นำตลาดโลก ณ ขณะนี้ และพวกเขาจับชีพจรความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่า

รถจีน
รถ SUV แบรนด์ Leapmotor รุ่น C10 ที่จะใช้เข้าตลาดยุโรปปี 2024

การเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้จีนมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าเพราะจีนเป็นแหล่งซัพพลายเชนการผลิตแบตเตอรีสำหรับรถอีวี และเป็นผู้ควบคุมการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรีรถยนต์โดยส่วนใหญ่

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีนจึงได้เปรียบในการผลิตรถอีวีในราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จในอนาคตให้กับค่ายรถ ปัจจุบันนี้ค่ายรถยนต์จีนก็กำลังตัดราคากันเองในสนามแข่งขันที่จีน ซึ่งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในยุโรปด้วย

 

ป้ายต่อไปบุก “สหรัฐฯ”

แม้ว่าตลาดสหรัฐฯ​ จะตั้งกำแพงกีดกันรถจีนได้มากกว่าตลาดยุโรปก็ตาม แต่ในที่สุดแล้วบริษัทรถจีนเหล่านี้จะต้องบุกเข้าตลาดสหรัฐฯ ให้ได้อย่างแน่นอน

“ในความเห็นของเรา จีนจะเปลี่ยนจากการเป็นผู้นำเข้ารถยนต์ไปสู่การเป็นผู้ส่งออกรถยนต์” นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley กล่าวในบทวิเคราะห์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทรถจีนรวมกันสามารถส่งออกรถยนต์ได้มากกว่าบริษัทรถญี่ปุ่นรวมกันเรียบร้อยแล้ว

Source

]]>
1443927
‘Xpeng’ แบรนด์รถอีวีสัญชาติจีนขาดทุนยับ 1.3 หมื่นล้านบาท หลังเจอสงครามราคา https://positioningmag.com/1441629 Fri, 18 Aug 2023 12:16:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441629 ดูเหมือนตลาดอีวีในจีนที่แข่งกันดุเดือดเลือดพล่าน โดยเฉพาะ สงครามราคา ที่รุนแรงจนต้องมีการเซ็น MOU เพื่อยุติไม่ให้เจ็บตัวไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าจะช่วยไม่ได้มากนัก เพราะแบรนด์อย่าง Xpeng ต้องเจอกับการขาดทุนหนักกว่าที่หลายคนคาดไว้จนหุ้นร่วงกว่า 7%

Xpeng ได้รายงานผลประกอบการประจำ Q2/2023 โดยรายได้สุทธิอยู่ที่ 5.06 พันล้านหยวนจีน (ราว 24,500 ล้านบาท) ลดลง 31% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขาดทุนสุทธิ 2.8 พันล้านหยวน (ราว 13,000 ล้านบาท) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุน 2.13 ล้านหยวน ซึ่งถือเป็นการขาดทุนสูงสุดนับตั้งแต่ที่ Xpeng นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนสิงหาคม 2020

ก่อนหน้านี้ Xpeng ได้เปิดเผยว่า ใน Q2/2023 บริษัทได้ส่งมอบรถยนต์ 23,205 คัน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม แม้ยอดส่งมอบจะสูงขึ้น แต่อัตรากำไรของรถยนต์ติดลบ 8.6% ในไตรมาสที่สอง เทียบกับบวก 9.1% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่อ่อนแอของ Xpeng เป็นผลมาจาก เศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ ทำให้ผู้บริโภคระวังการจับจ่าย ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับ การแข่งขันที่รุนแรง ในจีนจากบริษัทชั้นนำอื่น ๆ เช่น Nio และยักษ์ใหญ่อย่าง BYD และ Tesla โดย Tesla เพิ่งลดราคารถยนต์รุ่น Y และรุ่น S และเสนอส่วนลดสินค้าคงคลังที่มีอยู่ของรุ่น S และรุ่น X ในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม Xpeng คาดว่าการส่งมอบรถยนต์ใน Q3/2023 จะอยู่ระหว่าง 39,000-41,000 คัน ซึ่งคิดเป็นการเติบโตประมาณ 31.9% เป็น 38.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนรายได้คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 8.5 พันล้านหยวนถึง 9 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีต่อปีประมาณ 24.6% เป็น 31.9%

เมื่อเดือนที่ผ่านมา Xpeng เพิ่งได้รับการลงทุนจาก โฟล์คสวาเก้น บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมันเป็นมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ แลกกับหุ้น 4.99% โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเจาะตลาดจีนโดยเฉพาะ

]]>
1441629
XPeng ทดสอบ “รถยนต์บินได้” ในที่สาธารณะสำเร็จ บริษัทคาดอีก 5 ปีคนทั่วไปได้ใช้จริง https://positioningmag.com/1405297 Mon, 24 Oct 2022 06:26:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1405297 ภาพจากภาพยนตร์ไซ-ไฟที่เราเคยเห็นกำลังจะเกิดขึ้นจริง ล่าสุดบริษัทจีน XPeng ทดสอบ “รถยนต์บินได้” รุ่น X2 ในที่สาธารณะสำเร็จแล้ว โดยบินโชว์ตัวเป็นเวลา 90 วินาทีในงาน GITEX เอ็กซ์โปด้านเทคโนโลยีที่เมืองดูไบ

XPeng X2 สามารถบินขึ้นจากพื้นดินได้โดยตรง ไม่ต้องใช้รันเวย์ทางวิ่ง ซึ่งเป็นการออกแบบที่เหมาะกับการใช้งานภายในเมือง ตัวรถสามารถจุผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง และใช้พลังงานไฟฟ้า 100%

กำลังของรถบินได้คันนี้สามารถยกตัวขึ้นสู่อากาศได้ 2 เมตรต่อวินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 80 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 128.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

แม้ว่าการทดสอบ “รถยนต์บินได้” จะทำการทดสอบเพียง 90 วินาที แต่ Liu Xinyin หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจาก XPeng Aeroht กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ใกล้จะพร้อมใช้ในที่สาธารณะจริงๆ แล้ว แต่สิ่งที่ยังต้องรออีกสักพักคือกฎหมายการกำกับควบคุมรถยนต์บินได้

XPeng วางแผนที่จะทำงานกับรัฐบาลต่างๆ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการกำกับควบคุมรถบินได้ในเขตเมือง และ Liu เชื่อว่าคนทั่วไปจะได้เริ่มใช้รถบินได้ในพื้นที่ที่มีกฎหมายควบคุมภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับแผนมุ่งสู่อนาคตของรัฐบาลจีนที่ต้องการจะเปิดทำการ “แท็กซี่บินได้” ภายในปี 2025

XPeng รถยนต์บินได้
(Photo: GITEX 2022)

สเปกของรถ XPeng X2 ยังมีระบบ AI ออโต้ด้วย ทำให้รถสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องใช้คนขับ “มันเรียนรู้ที่จะหลบเลี่ยงการจราจร หลบอาคารและผู้คนได้” Liu กล่าว

การมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์บินได้ น่าจะยิ่งทำให้การกำกับควบคุมยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะขณะนี้แค่เพียงรถยนต์บนพื้นดินที่ไม่ต้องใช้คนขับ ก็ก่อให้เกิดคำถามจากสาธารณชนแล้วว่ามีความปลอดภัยจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม XPeng ระบุว่า รถยนต์บินได้ที่ใช้ระบบอัตโนมัตินั้นจะปลอดภัยกว่าให้มนุษย์เป็นผู้บังคับเครื่องเอง

รถยนต์บินได้จากค่ายอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา (Photo : SkyDrive Inc.)

ขณะนี้มีมากกว่า 10 บริษัททั่วโลกที่กำลังพัฒนา “รถยนต์บินได้” และหลายคันบินได้แล้วจริงๆ เช่น BlackFly รถของบริษัท Opener จากแคนาดา, รถรุ่น SD-03 จากบริษัท SkyDrive Inc, รถรุ่น AirCar จาก Klein Vision ซึ่งรุ่นหลังสุดนี้สามารถทดสอบการบินสำเร็จไปแล้วเมื่อปีก่อน โดยบินเป็นเวลาถึง 35 นาทีระหว่างเมืองสองเมืองในประเทศสโลวาเกีย

หากว่ารถยนต์บินได้สามารถนำมาใช้ได้จริงในที่สาธารณะ ประโยชน์ของมันไม่ใช่แค่ความหวือหวาแฟนตาซี แต่มันจะปฏิวัติการขนส่งภายในเขตเมือง ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดน้อยลง คนเดินถนนและจักรยานก็จะปลอดภัยขึ้นด้วย

Source

]]>
1405297
‘Xpeng’ รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนเตรียม ‘บุกตลาดโลก’ ตั้งเป้ายอดขาย 50% มาจากนอกจีน https://positioningmag.com/1363747 Wed, 24 Nov 2021 11:20:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1363747 ถึงจีนจะเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่ Xpeng สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนก็ไม่ได้หวังจะอยู่แค่ในจีน แต่ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก โดยต้องการให้ยอดขายรถยนต์ครึ่งหนึ่งมาจากต่างประเทศ

“ในฐานะบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่โอกาสระดับโลก ในระยะยาว เราต้องการสร้างสมดุลของยอดขายเรา โดยครึ่งหนึ่งมาจากจีน อีกครึ่งหนึ่งมาจากนอกประเทศจีน” Brian Gu รองประธานและประธาน Xpeng กล่าว

Gu ไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้นเมื่อไหร่ โดยเขาได้ยกตัวอย่างของ เทสลา ว่าในไตรมาสที่ 3 ยอดขายของตลาดในประเทศคิดเป็น 46.6% ของยอดขายทั้งหมด ประเทศจีนคิดเป็น 22.6% ของยอดขาย เพิ่มขึ้นจากเพียงไม่ถึง 20% ในปีที่แล้ว

Gu กล่าวว่า Xpeng จะลงทุนในตลาดต่างประเทศมากขึ้นในปีนี้และปีหน้า โดยคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดสวีเดน เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์

ทั้งนี้ Xpeng เริ่มจัดส่งรถยนต์ไปยังนอร์เวย์ในเดือนธันวาคม 2020 ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ๆ ยังไม่ได้มุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เนื่องจากตลาดจีนมีแรงหนุนจากรัฐบาลในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็มีแบรนด์อย่าง Nio บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้เปิดร้านแฟลกชิปสโตร์ในออสโล และเริ่มส่งมอบรถยนต์ในพื้นที่ช่วงเดือนกันยายน

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ BYD ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีชาวอเมริกันอย่าง Warren Buffett เริ่มจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าไปยังนอร์เวย์ในช่วงซัมเมอร์นี้และตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ 1,500 คันภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทได้เปิดตัวการส่งมอบไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน, บราซิล, เม็กซิโก, โคลอมเบีย, อุรุกวัย, คอสตาริกา และบาฮามาสในเดือนตุลาคม

หุ้นของ Xpeng ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในชั่วข้ามคืน หลังจากที่บริษัทรายงานรายได้ที่พุ่งขึ้นในไตรมาสที่ 3 โดยมาอยู่ที่ 5.72 พันล้านหยวน (887.7 ล้านดอลลาร์) โดย Gu คาดว่า ผู้ผลิตรถยนต์จะสามารถเข้าถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2 ปี

ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2019 Gu เคยระบุว่า บริษัทคาดว่าจะไปถึงจุดคุ้มทุนในเวลาประมาณ 2-3 ปี หากสามารถผลิต 150,000 คันต่อปี ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว Xpeng ได้ผลิตรถยนต์ไปแล้วกว่า 100,000 คัน นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

Source

]]>
1363747