ZAAP – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 25 Dec 2020 06:52:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ธุรกิจ “อีเวนต์” เลื่อนยาวถึงกุมภา’64 ZAAP ปรับแผนงัดกิจกรรมเว้นระยะห่างกลับมาอีกครั้ง https://positioningmag.com/1312049 Fri, 25 Dec 2020 04:57:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312049 COVID-19 ระบาดรอบใหม่สร้างความปั่นป่วนวงการอีเวนต์ ZAAP Party มือจัดงานคอนเสิร์ต-เฟสติวัล เผยสถานการณ์ “อีเวนต์” ที่จะจัดช่วงสิ้นปียาวถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เลื่อนออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย พร้อมปรับแผนงัดแนวทางเดิมมาใช้ใหม่ จัดกิจกรรมไซส์เล็ก เว้นระยะห่างได้ เจาะตลาดพรีเมียม ประเดิมด้วย “Single Camp” แคมป์ปิ้งทริปคนโสดต้นปีหน้า

สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 กลับมาระลอกใหม่ในประเทศไทย และประจวบเหมาะตรงกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นาทีทองของวงการอีเวนต์ต้องฝันสลาย งานจำเป็นต้องเลื่อนเพื่อความปลอดภัยและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

โดยเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค. 63) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพิ่งประกาศแบ่งโซนพื้นที่เป็น 4 ระดับตามความรุนแรงของการระบาด ซึ่งทำให้มี 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม และกรุงเทพฯ ที่ไม่สามารถจัดกิจกรรมสาธารณะรวมคนจำนวนมากได้ เพราะเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเขตพื้นที่ควบคุม ส่วนจังหวัดอื่นๆ ก็ต้องเฝ้าระวังเข้มงวดมากขึ้น

เช่นเดียวกับงานอีเวนต์ในมือของ “เทพวรรณ คณินวรพันธุ์” ซีอีโอ บริษัท ZAAP Party จำกัด เปิดเผยกับ Positioning ว่า ขณะนี้งานอีเวนต์ที่บริษัทดูแลเลื่อนไปแล้วเกือบ 10 งาน โดยงานที่จะจัดตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จะเลื่อนออกไปก่อนทั้งหมด บางงานมีกำหนดการใหม่แล้ว และบางงานยังไม่มีกำหนด

“ดีกว่ารอบก่อน เพราะไม่ได้ใช้คำว่ายกเลิกแต่เป็นการเลื่อน รอบก่อนจะมีงานที่ยกเลิกเลย” เทพวรรณกล่าว โดยเขากล่าวถึงสถานการณ์รอบที่มีการล็อกดาวน์ประเทศไทยช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม’63 ซึ่งทำให้งานบางส่วนต้องยกเลิกทันที

แถลงการณ์เลื่อนการจัดงาน “บางกอกเฟส” โดยยังอยู่ระหว่างพิจารณาการรับคืนบัตร ทำให้มีเสียงวิจารณ์ทั้งบวกและลบ

สำหรับการระบาดรอบนี้ งานใหญ่ที่สุดที่ส่งผลกระทบกับบริษัทคือ “บางกอกเฟส #เฟสใหญ่ส่งท้ายปี” ซึ่งเดิมจะจัดขึ้นในวันที่ 26-27 ธันวาคม 2563 ที่สวนสนุก Wonder World รามอินทรา มีศิลปินดังขึ้นเวทีถึง 45 ราย และจะรวมผู้ชมในงานถึง 20,000 คน แต่บริษัทได้แจ้งเลื่อนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลกับสถานการณ์การระบาด

งานนี้จะต้องเลื่อนยาวไปถึงวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2564 และบริษัทกำลังติดต่อศิลปินเพิ่มเติมขึ้นเวที เพื่อเป็นการชดเชยลูกค้าที่ได้ซื้อบัตรไว้แล้วและต้องรอไปอีกครึ่งปี อย่างไรก็ตาม หลังมีแผนชดเชยแล้ว หากลูกค้ายืนยันต้องการขอคืนบัตร (refund) ก็จะเปิดให้คืนบัตรได้

“ถามว่าเจ็บตัวไหม? แน่นอน เพราะเรามีการลงทุนไปแล้ว เวทีจริงๆ เริ่มเซ็ตอัพไปแล้ว” เทพวรรณกล่าว “แต่เราไม่ดื้อ เราไม่เสี่ยงกับการถูกต่อว่า และเราไม่อยากให้ทุกคนไม่สบายใจ”

 

งัดแผนอีเวนต์ไซส์เล็กกลับมาอีกครั้ง

ซีอีโอ ZAAP กล่าวว่า สำหรับไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งงานที่รวมคนจำนวนมากทั้งหมดจะเลื่อนออกไป ทำให้บริษัทต้องปรับแผน นำไอเดียกิจกรรมที่เว้นระยะห่างทางสังคมได้กลับมาจัดใหม่อีกครั้งในช่วงนี้ โดยต่อยอดจากงานเดิมที่เคยจัดช่วงไตรมาส 2-3/63 หลังคลายล็อกดาวน์ แต่นำมาเพิ่มเติมกิมมิกใหม่ให้น่าสนใจขึ้น (อ่านเพิ่มเติม : กลยุทธ์ ZAAP Party พลิกเกม เมื่อ “อีเวนต์” จัดใหญ่เหมือนเดิมไม่ได้)

คอนเสิร์ตผสานการจัดแคมป์ปิ้ง Social This Camping Event ที่ จ.เชียงราย งานต้นแบบที่จะนำมาปรับใช้กับ Single Camp ปี 2564

งานที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคือ Single Camp เป็นการผนวกรวมไอเดียจาก Single Fest คอนเสิร์ตคนโสดที่เป็น
งานซิกเนเจอร์ของ ZAAP เข้ากับไอเดียของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่โปรโมตทริปคนโสดแล้วปรากฏว่าขายหมดอย่างรวดเร็ว ภายในงานจะเป็นการตั้งแคมป์กลางป่าเขา กับดนตรีอะคูสติกฟังสบาย บรรยากาศแบบเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่แออัด คาดว่าจะจัดได้ 5 จังหวัดเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วย อยู่ระหว่างหารือว่าควรจัดที่ไหนเพื่อความปลอดภัย

“เรามีฐานคิดว่าจะใช้กิจกรรมที่ทุกคนทำอยู่แล้ว เช่น แคมป์ปิ้ง ทานข้าวร้านอาหาร ท่องเที่ยว มาจัดเป็นอีเวนต์” เทพวรรณกล่าว “จะจับกลุ่มพรีเมียม คนจะไม่มาก ทำให้มีพื้นที่เว้นระยะห่างกันได้”

เมื่อถามว่างานเล็กแต่พรีเมียมช่วยทดแทนงานขนาดใหญ่ได้แค่ไหน เทพวรรณบอกว่า “ตอนนี้ไม่คาดหวังเรื่องตัวเลขแล้ว”

“ปีนี้มันไม่มีอะไรที่ปกติ เราคุยกันในบริษัทด้วยซ้ำว่า ‘ปีนี้ไม่ต้องนับ’ ว่าอย่างนั้นได้เลย” เทพวรรณกล่าว “แต่เราไม่อยากให้คิดว่าจัดอะไรไม่ได้ เรามองว่าต่อไปจะทำอะไรดีกว่า เหมือนตอนนี้เรามาสร้างบริษัทขึ้นใหม่ แล้วเราเตรียมพร้อมไว้สำหรับ 3 ปีข้างหน้า”

]]>
1312049
ZAAP Party พลิกเกม! เมื่อ “อีเวนต์” จัดใหญ่เหมือนเดิมไม่ได้ เตรียมขยายรับงาน “ทุกรูปแบบ” https://positioningmag.com/1295320 Thu, 03 Sep 2020 08:29:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1295320 “อีเวนต์” หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดช่วงสถานการณ์ COVID-19 เพราะไม่สามารถจัดงานได้เลยในช่วงล็อกดาวน์ และปัจจุบันก็ยังต้องรักษาระยะห่างภายในงานอย่างเคร่งครัด กลายเป็นโจทย์ใหญ่ให้ ZAAP Party มือออร์กาไนซ์งานคอนเสิร์ตต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทั้งรูปแบบงาน แหล่งรายได้ ไปจนถึงขั้นตอนทำงาน แม้ครึ่งปีแรกรายได้จะลดแรง 70-80% แต่เชื่อว่าทั้งปีจะฟื้นกลับมาเติบโต 29% จากปี 2562

“เทพวรรณ คณินวรพันธุ์” ซีอีโอ บริษัท ZAAP Party จำกัด ผู้จัดงานคอนเสิร์ตและปาร์ตี้ดังๆ ที่เรารู้จักกันดี เช่น S2O, Single Fest หรือเชียงใหญ่เฟส กล่าวถึงสถานการณ์บริษัทช่วงครึ่งปีแรก หลังเผชิญสถานการณ์ COVID-19 รายได้บริษัทลดลง 70-80% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ามีการล็อกดาวน์งดการพบปะของผู้คนจำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่อีเวนต์ต้องยกเลิกหรือเลื่อนทั้งหมด

แต่ขณะนี้หลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์อนุญาตให้จัดอีเวนต์ได้ โดยต้องมีการเว้นระยะห่าง ลดความหนาแน่นของคนภายในงาน ทำให้ ZAAP เริ่มกลับมาจัดงานได้ แถมมองว่ารายได้รวมปี 2563 น่าจะยังเติบโตได้ 29% เทียบปี 2562 ที่มีรายได้เกือบ 500 ล้านบาท

ขณะที่ผู้จัดงานอีเวนต์หลายแห่งต้องรัดเข็มขัดอย่างหนัก และยังคงอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ทำไม ZAAP ถึงยังเติบโต? ต้องฟังจากปากเทพวรรณ ซีอีโอของบริษัท

“เทพวรรณ คณินวรพันธุ์” ซีอีโอ บริษัท ZAAP Party จำกัด

 

รูปแบบงานต้องเปลี่ยน เล็กลง ถี่ขึ้น และสร้างสรรค์

ซีอีโอ ZAAP กล่าวว่า ข้อสรุปการทำงานหลังช่วง COVID-19 ของทีมงานประกอบด้วย 3C คือ Creativity – ความคิดสร้างสรรค์ , Collaboration – ความร่วมมือกับองค์กรอื่น และ Consumer Needs – ตอบความต้องการของลูกค้า

เริ่มจากโจทย์แรกที่ต้องปรับตัวคือ “รูปแบบงาน” แน่นอนว่าข้อกำหนดด้านสุขอนามัยทำให้การจัดอีเวนต์ไม่สามารถให้คนเข้างานได้หนาแน่นเท่าเดิม งานจึงต้องจัดเล็กกว่าเดิม แต่จัดให้ถี่ขึ้น และมีไอเดียสร้างสรรค์ มองความต้องการที่เป็นกระแสในหมู่ผู้บริโภคซึ่งจะเป็น “นิชมาร์เก็ต” ยิ่งกว่าที่เคย

“พฤติกรรมคนตอนนี้จะเลือกไปในแบบที่ตัวเองชอบจริงๆ ซึ่งมันจะแยกย่อยมากขึ้น จากเมื่อก่อนงานงานหนึ่งเพื่อนทั้งกลุ่มอาจจะชวนกันไปหมดทุกคน แต่ตอนนี้จะแยกกันไปกลุ่มเล็กๆ ไปเฉพาะที่อยากไปจริงๆ แล้วไปรู้จักเพื่อนใหม่ที่ชอบแบบเดียวกันในงาน” เทพวรรณกล่าว ดังนั้น งานที่จัดจะเล็กลงโดยปริยายเพราะเป็นนิชมาร์เก็ต บริษัทจึงต้องจัดงานให้บ่อยขึ้น และทำงานให้เร็วขึ้น

คอนเสิร์ตผสานการจัดแคมป์ปิ้ง Social This Camping Event ที่ จ.เชียงราย

ยกตัวอย่างงาน Social This Camping Event ที่ The Green-Chayana Resort จ.เชียงราย เป็นคอนเสิร์ตผสมกับการแคมป์ปิ้งท่ามกลางธรรมชาติ มีผู้ร่วมงานหลักร้อยคนเท่านั้น ไอเดียนี้มาจากการมอง Consumer Needs ที่บริษัทเล็งเห็นว่าคนยุคนี้กำลังสนใจแคมป์ปิ้ง ป่าเขา ธรรมชาติ ทำให้นำมาผสานกับอีเวนต์ดนตรี

มุมที่มอง “งานอดิเรก” หรือความสนใจของผู้เข้าร่วมงานยังต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะจากเดิมงานอีเวนต์อาจจะมีงานที่ใช้ดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น S2O แต่เมื่อลูกค้ากลุ่มนี้ถูกตัดออก จะเหลือเฉพาะลูกค้าคนไทย ทำให้ต้องคิดบนฐานว่าลูกค้าคนไทยชอบอะไร และจะดึงคนไทยให้ยอมลงทุนเดินทางไปงานได้อย่างไร

 

พึ่งรายได้จาก “สปอนเซอร์” มากขึ้น

เมื่อรูปแบบงานเปลี่ยน คอนเสิร์ตต้องเว้นระยะห่าง จำนวนคนเข้างานมีน้อยลง แต่หากจะขายบัตรแพงขึ้นนั้น ซีอีโอ ZAAP บอกว่า “ทำไม่ได้” เพราะกำลังซื้อคนมีน้อยลงด้วยซ้ำ ดังนั้น ถ้าเป็นงานประเภทที่บริษัทเป็นโปรโมเตอร์คือร่วมลงทุนในงานด้วย โมเดลแหล่งรายได้จะเปลี่ยนไป

จากปกติรายได้งานแบบที่บริษัทเป็นโปรโมเตอร์มักจะมาจากค่าบัตร 40% และจากสปอนเซอร์ 60% ตอนนี้ต้องมีสัดส่วนรายได้จากสปอนเซอร์มากกว่าเดิม เพื่อให้ค่าบัตรยังเท่าเดิม หรือบางงานเป็นรายได้จากสปอนเซอร์ “ล้วนๆ” ทำให้บัตรเข้างานแจกฟรีผ่านกิจกรรมของสปอนเซอร์

Amazing Thailand TUK TUK Festival by Chang Music Connection งานคอนเสิร์ตแบบไดรฟ์อิน ไอเดียดัดแปลงจากต่างประเทศโดยใช้รถตุ๊กตุ๊กแทนรถยนต์

ยกตัวอย่างงานแรกที่บริษัทจัดหลังคลายล็อกดาวน์คือ Amazing Thailand TUK TUK Festival by Chang Music Connection ผู้เข้าร่วมงาน 600 คนจะเข้างานได้ต้องร่วมกิจกรรมกับน้ำดื่มตราช้าง

เทพวรรณกล่าวว่า ส่วนนี้คือการ Collaboration กับองค์กรอื่นๆ เพราะต้องคิดแพ็กเกจจูงใจสปอนเซอร์ แน่นอนว่าเศรษฐกิจเช่นนี้ สปอนเซอร์ไม่ได้ออกงบประมาณให้ง่ายๆ บริษัทต้องนำเสนอว่าทำอย่างไรการจัดงานนี้จะคุ้มค่าสำหรับลูกค้า และต้องเข้าให้ถูกอุตสาหกรรมที่ยังต้องการใช้งบประมาณกับธุรกิจอีเวนต์ สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทขณะนี้จะเป็นสินค้าเครื่องดื่ม ธุรกิจโทรคมนาคม และหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ต้องการใช้อีเวนต์ฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

 

ลดต้นทุน เปลี่ยนขั้นตอนการทำงานเป็นเชิงรุก

รายรับลดแล้ว รายจ่ายต้องลดด้วย ส่วนนี้เทพวรรณมองว่าเป็นโชคดีที่ทุกคนในอุตสาหกรรมร่วมมือกันลดราคา ยกตัวอย่างเจ้าของสถานที่แทบทุกแห่งยินดีลดราคาเกิน 50% เพื่อให้ได้จัดงาน หรือซัพพลายเออร์สนับสนุนงานต่างมีส่วนลดให้ ซึ่งทำให้อีเวนต์ตัดต้นทุนไปได้มาก การจัดงานจึงยังคงมีกำไรเหมือนเดิม

Hotel Fest คอนเสิร์ตริมระเบียงที่พัทยา จะจัดขึ้นวันที่ 5-6 ก.ย. 63 ไอเดียจากคลิปนักร้องชาวอิตาลีที่ร้องเพลงริมระเบียงบ้านในช่วงล็อกดาวน์

นอกจากนี้ COVID-19 ยังทำให้บริษัทเปลี่ยนมาทำงานเชิงรุกมากกว่าเดิม โดยให้ครีเอทีฟคิดรูปแบบงานไว้เป็นแคตตาล็อก ถ้ามีคอนเซ็ปต์ไหนเหมาะสมกับลูกค้าสามารถดึงมาใช้ได้ทันที ทำให้การทำงานเร็วขึ้น

“ผมให้ครีเอทีฟคิดงานรอไว้เป็นสิบๆ งานเลย ปกติเราไม่ทำขั้นตอนแบบนี้ เมื่อก่อนเราจะไปรับบรีฟจากลูกค้าก่อน แล้วมาคิดงานอีก 2-3 อาทิตย์ค่อยกลับไปเสนอ ตอนนี้เรามีแบบงานพร้อมใช้ได้เลย” เทพวรรณกล่าว

 

ขยายไปจัดงานที่ไม่เคยทำมาก่อน

ปีนี้ ZAAP ยังพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วย คือโอกาสที่จะทำงานใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน จากจุดแข็งเดิมจะเน้นการจัดปาร์ตี้และคอนเสิร์ต ปีนี้สถานการณ์บีบให้ต้องรับงานทุกรูปแบบ ทำให้จะได้เห็นบริษัทออร์กาไนซ์งานวิ่ง ลานเบียร์ เทศกาลอาหาร ไปจนถึงงานเกมมิ่ง โดยอาศัยจ้างฟรีแลนซ์หรือบริษัทที่ถนัดงานรูปแบบนั้นๆ เข้ามาช่วยจัดอีเวนต์ร่วมกัน

“เราอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว” เทพวรรณกล่าว “หลายคนบอกว่าต้องรอจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ แต่ผมว่ามันรอไม่ได้ เราต้องทำให้เห็นว่าอีเวนต์มันจัดได้และไปได้”

จากสถานการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนกับว่า ZAAP จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ที่จริงบริษัทได้ผ่านจุดที่ “เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่” มาแล้ว โดยช่วงที่ไม่มีงานเลยทำให้บริษัทต้องลดขนาดองค์กรลงครึ่งหนึ่ง โชคดีที่พนักงานส่วนใหญ่เป็นฟรีแลนซ์อยู่แล้ว ทำให้การลดและกลับมาเพิ่มคนทำงานยังง่ายกว่าบริษัทที่จ้างพนักงานประจำจำนวนมาก

เมื่อถามว่าถ้าสถานการณ์การจัดอีเวนต์ยังต้อง New Normal แบบนี้ไปจนถึงปีหน้า บริษัทจะยังไหวหรือไม่ เทพวรรณตอบว่า “ถ้าถามผมเมื่อเดือนที่แล้วผมอาจจะยังไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นตอนนี้เราคิดว่าเรารับมือไหว”

]]>
1295320
“ช้าง” เปิดมิติใหม่คอนเสิร์ต นำร่อง TUK TUK Festival สร้างประสบการณ์ดนตรียุค New Normal https://positioningmag.com/1292242 Thu, 13 Aug 2020 11:00:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1292242

ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ สำหรับงาน Amazing Thailand TUK TUK Festival Powered by Chang Music Connection มาตรฐานใหม่ของงานคอนเสิร์ต ที่จะช่วยยกระดับยุค New Normal ดูดนตรีได้ปลอดภัย และสนุกสนาน แถมยังเป็นกิมมิคดูคอนเสิร์ตบน “รถตุ๊กต๊ก” สไตล์ไทยๆ อีกด้วย

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่เล่นงานไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอีเวนต์ คอนเสิร์ตต่างๆ ที่ต้องหยุดชะงักแบบฉับพลัน เพราะต้องมีมาตรการรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing

ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดเทรนด์ “ไดร์ฟอิน” ขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นดูหนังแบบไดร์ฟอิน หรือคอนเสิร์ตไดร์ฟอิน เป็นกระแสตอบรับไปทั่วโลก หรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็เริ่มมีงานอีเวนต์ประเภทนี้มากขึ้นด้วย

สำหรับงาน Amazing Thailand TUK TUK Festival Powered By Chang Music Connection ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ได้สร้างความแตกต่าง และสีสันใหม่ๆ สไตล์ไทย ด้วยการนำเอา “รถตุ๊กตุ๊ก” มาอยู่ในงานไดร์ฟอิน คอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกของโลก สามารถสร้างมิติใหม่แห่งวงการคอนเสิร์ตได้อย่างดี

งานนี้เป็นความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), เครื่องดื่มตราช้างร่วมกับพันธมิตรชื่อดัง วู้ดดี้ เวิลด์และ ZAAP ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการจับมือร่วมกันของทางภาครัฐบาล และเอกชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี พร้อมเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจัดงานคอนเสิร์ตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ของคนเมือง

Amazing Thailand TUK TUK Festival Powered By Chang Music Connection เป็นคอนเสิร์ตที่นำเสนอความเป็นไทยผ่านเทศกาลดนตรีภายใต้คอนเซ็ปต์ The world’s first TUK TUK drive-in music festival เริ่มต้นความสนุกด้วย “รถตุ๊กตุ๊ก” ไฮไลท์สำคัญที่จะพาแขกทุกท่านเข้าสู่งาน

รุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของการสนับสนุนการจัดงาน Amazing Thailand TUK TUK Festival Powered By Chang Music เทศกาลดนตรีในรูปแบบ New Normal ในครั้งนี้ ซึ่งมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตลอดการจัดงานอย่างเคร่งครัด อาทิ การจำกัดพื้นที่เพื่อรักษาระยะห่างโดยใช้รถตุ๊กตุ๊ก จุดคัดกรองเข้า-ออกงาน จุดล้างมือ

เจลแอลกอฮอลล์ หรืออื่น ๆ ซึ่งเป็นการจัดงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration: SHA ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และเป็นการเริ่มต้นการจัดงานอีเว้นท์อีกครั้งหนึ่ง ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุขและความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากการเข้าร่วมงาน และ ททท. เชื่อมั่นว่าการใช้เสน่ห์ของความเป็นไทยด้วยรถตุ๊กตุ๊กมาช่วยสร้างสีสันภายในงาน จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเกิดความรู้สึกอยากเดินทางท่องเที่ยวอย่างแน่นอน”

นพปฎล ฤทธาภัย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มตราช้าง เปิดเผยว่า ทาง “เครื่องดื่มตราช้าง” รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงาน Amazing Thailand TUK TUK Festival Powered By Chang Music Connection “ช้าง” ยังให้ความสำคัญกับการส่งมอบความสุขให้กับกลุ่มลูกค้าเสมอ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา เราเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ และพัฒนาแนวทางสื่อสารให้เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป

ทั้งหมดเพื่อที่จะแสดงจุดยืน และตอกย้ำถึงมิตรภาพระหว่างแบรนด์ช้างกับลูกค้า ตามแนวคิด “วันเพื่อนมีได้ทุกวัน” โดยสำหรับการร่วมสนับสนุนงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งมอบประสบการณ์ดนตรีแนวใหม่ในคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจแล้ว ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นไทยในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งจากคนในประเทศเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาท่องเที่ยวในอนาคตอีกด้วย

]]>
1292242