1 ปีหลังจากเปิดตัว วันนี้มีการเปิดเผยตัวเลขการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 (Windows 10) โดย Net Applications ออกมาแล้วโดยพบว่า วินโดวส์ 10 มีส่วนแบ่งตลาดเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเท่ากับว่า ในคอมพิวเตอร์ 5 เครื่องจะมีผู้ใช้งานวินโดวส์ 10 ถึง 1 เครื่องนั่นเอง
โดยหลังจากการเปิดตัวระบบปฏิบัติการดังกล่าวได้ถูกติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์พีซีกว่า 75 ล้านเครื่องใน 4 สัปดาห์แรก และก้าวผ่านตัวเลข 110 ล้านเครื่อง ภายในเวลา 10 สัปดาห์ จนมาถึงตัวเลข 300 ล้านเครื่องภายใน 9 เดือน และ 350 ล้านเครื่องในเวลา 11 เดือน (มิถุนายน 2016) ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 19.14 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนในเดือนสุดท้าย ทาง Net Applications ได้สรุปตัวเลขออกมาพบว่า วินโดวส์ 10 มีส่วนแบ่งตลาด 21.13 เปอร์เซ็นต์ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ดี ไมโครซอฟท์ ตั้งเป้าเอาไว้ว่า บริษัทจะต้องมีอุปกรณ์ที่รันวินโดวส์ 10 ให้ได้ 1 พันล้านเครื่อง ภายใน 3 ปี
ส่วนระบบปฏิบัติการตัวอื่นๆ เช่น วินโดวส์ 8 นั้น ปัจจุบันพบว่า มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 2.09 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่วินโดวส์ 8.1 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 7.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้งสองระบบปฏิบัติการนี้ไม่เคยมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ได้เลย (สูงสุด คือ 16.45 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนพฤษภาคม 2015)
ส่วนวินโดวส์ 7 นั้น ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 47.01 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นสองเท่าของวินโดวส์ 10 เลยก็ว่าได้ จึงทำให้มีหลายฝ่ายขนานนามว่า วินโดวส์ 7 เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลไม่แพ้ Windows XP เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ในตลาดยังมีผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์วิสต้า (1.22 เปอร์เซ็นต์) และวินโดวส์ XP (10.34 เปอร์เซ็นต์) อยู่ด้วย แต่บริการอัปเกรดฟรีที่ไมโครซอฟท์มอบให้นั้น ไม่รวมผู้ใช้วิสต้า และ XP เข้าไปด้วย จึงไม่สามารถอัปเกรดได้
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในภาพรวม ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังครองส่วนแบ่งสูงสุด 89.79 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย Mac OS X ที่ 7.87 เปอร์เซ็นต์ และลินุกซ์ 2.33 เปอร์เซ็นต์
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000076388
