เอเอฟพี – บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอดิสนีย์ ระบุเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ว่าบริษัทถูกกลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งอ้างว่าสามารถเข้าถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ยังไม่เข้าโรงฉาย เรียกค่าไถ่เป็นเงินมหาศาล
เว็บไซต์เดอะฮอลลีวูดรีพอร์เตอร์อ้างคำพูดของ ไอเกอร์ ขณะร่วมประชุมกับพนักงานสถานีโทรทัศน์เอบีซีในนครนิวยอร์ก โดยซีอีโอดิสนีย์ไม่ได้ระบุชื่อภาพยนตร์ที่ถูกขโมย แต่ยืนยันว่าบริษัทจะไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่พวกอาชญากรไซเบอร์อย่างแน่นอน
นิตยสารรายสัปดาห์ฉบับนี้เผยด้วยว่า ดิสนีย์ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเพื่อเฝ้าระวังการรั่วไหลของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวตามสื่อออนไลน์
ด้านเว็บไซต์ deadline.com ซึ่งเป็นสื่อเกี่ยวกับหนังฮอลลีวูดให้ข้อมูลว่า ภาพยนตร์ที่ถูกขโมยก็คือ “ไพเรตส์ออฟเดอะแคริบเบียน – เดดเมนเทลโนเทลส์” (Pirates of the Caribbean – Dead Men Tell No Tales) ซึ่งมีกำหนดเข้าโรงฉายในวันที่ 26 พ.ค. แต่ไม่ระบุว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ขณะที่ผู้เขียนบทภาพยนตร์บางคนสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นหนังอนิเมชัน “Car 3” ของค่ายพิกซาร์ซึ่งเตรียมออกฉายในเดือน มิ.ย. นี้ โดยพิกซาร์นั้นก็เป็นบริษัทในเครือวอลท์ดิสนีย์
แม้ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องคาดว่าจะทำรายได้ให้แก่ดิสนีย์มากพอสมควร แต่ผลกำไรคงจะเทียบไม่ได้กับ “สตาร์วอร์ส : เดอะลาสต์เจได” (Star Wars: The Last Jedi) ที่จะเข้าฉายในวันที่ 15 ธ.ค.
“ในความเห็นของผม ถ้าเป็น ลาสต์ เจได พวกเขาคงรีบควักกระเป๋าจ่ายทันที แต่ถ้าไพเรตส์ก็ช่างมันปะไร” ไรอัน พาร์เกอร์ คอลัมนิสต์ของฮอลลีวูดรีพอร์เตอร์ ตั้งข้อสังเกตผ่านทวิตเตอร์
แฮกเกอร์เรียกร้องให้ ดิสนีย์ ชำระค่าไถ่ในสกุลเงินออนไลน์ “บิตคอยน์” และขู่จะตัดภาพยนตร์บางส่วนออกมาปล่อย ความยาว 5 นาที และ 20 นาทีตามลำดับ หากไม่ได้ค่าไถ่ตามที่ขอ
เดดเมนเทลโนเทลส์ เป็นภาคที่ 5 ของหนังโจรสลัดสุดฮิต ไพเรตส์ออฟเดอะแคริบเบียน ซึ่งมีนักแสดงชื่อดัง “จอห์นนี เดปป์” เป็นตัวแสดงหลัก และติดอันดับหนังทำเงิน box office สูงถึง 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2003
พอล แทสซี นักแต่งนวนิยายแนวไซ-ไฟซึ่งเขียนคอมเมนต์เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตลงนิตยสารฟอร์บส ระบุว่า ถ้าเป้าหมายของแฮกเกอร์คือไพเรตส์ ดิสนีย์คงจะไม่สูญเสียรายได้มากนัก เพราะใกล้จะถึงกำหนดเข้าฉายอยู่แล้ว
“แม้การเดินเข้าโรงหนังจะเป็นประสบการณ์ทางสื่อที่ยุ่งยากกว่า แต่กลุ่มคนที่ยอมเสียเงินเพื่อดู จอห์นนี เดปป์ ในภาค 5 ของไพเรตส์ออฟเดอะแคริบเบียน ก็น่าจะเป็นคนละกลุ่มกับพวกที่ชอบดาวน์โหลดหนังก็อปปี้มาดูก่อนจะเข้าฉายจริง… และไพเรตส์ก็ไม่ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่จะถูกเอาไปลงเว็บบิตทอร์เรนต์ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เข้าฉาย ฉะนั้นผมว่าพวกแฮกเกอร์ประเมินอำนาจต่อรองของตัวเองสูงเกินไป” แทสซี กล่าว
คอมพิวเตอร์กว่า 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลกถูกโจมตีโดย ransomware เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น
แฮกเกอร์ซึ่งอาศัยจุดอ่อนในระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าของไมโครซอฟต์ได้ปล่อยมัลแวร์ไปล็อกไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของธนาคาร โรงพยาบาล และหน่วยงานรัฐบาลหลายประเทศ และเรียกค่าไถ่เป็นเงินบิตคอยน์
แบรด สมิธ ประธานไมโครซอฟต์ ระบุว่า โค้ดลับที่แฮกเกอร์นำไปใช้นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ)
ที่มา : http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000049270