ฮิตาชิ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ถูกโจมตีทางไซเบอร์ซึ่งอาจจะเป็นการโจมตีแบบเดียวกันกับที่กำลังกระทบไปทั่วโลก
เจ้าหน้าที่ของฮิตาชิกล่าวว่า พบปัญหาในระบบคอมพิวเตอร์ภายในของบริษัทในวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม โดยพนักงานไม่สามารถส่งหรือรับอีเมลหรือเปิดไฟล์แนบได้ ระบบคอมพิวเตอร์ช้าลงอย่างมาก โดยมีปัญหาทั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว, สำนักงานสาขา และยังกล่าวว่าพบปัญหาแบบเดียวกันนี้ในบริษัทในเครือในต่างประเทศด้วย
เจ้าหน้าที่ของฮิตาชิเชื่อว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทถูกโจมตีด้วยซอฟต์แวร์ “เรียกค่าไถ่” แบบเดียวกันกับที่ปิดกั้นข้อมูลของคอมพิวเตอร์ทั่วโลก และขณะนี้กำลังพยายามกู้ระบบให้ได้เร็วที่สุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุว่า นอกจากฮิตาชิแล้ว ยังมีเหยื่ออีก 2 กรณีที่ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่นี้โจมตี โดยเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และของพนักงานบริษัทรถไฟเจอาร์อีสต์อีกรายหนึ่ง แต่ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นจึงแนะนำให้หน่วยงานต่างๆ อัพเดตระบบป้องกันคอมพิวเตอร์ และสำรองข้อมูลสำคัญ
นอกจากนี้ นิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นก็ระบุว่า ระบบคอมพิวเตอร์ในโรงงานที่เมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ก็เป็นเหยื่อที่ถูกโจมตีเช่นกัน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบที่เชื่อมโยงกับประเทศญี่ปุ่นและที่อื่นๆ
นายร็อบ เวนไรต์ ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งสหภาพยุโรปหรือ ยูโรโพล กล่าวว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางไซเบอร์ทั่วโลกมากถึง 200,000 รายในอย่างน้อย 150 ประเทศ เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีขอบเขตกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศสต้องระงับการผลิตที่โรงงานในเมืองดูเอ โรงงานใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเรโนลต์ในฝรั่งเศส เนื่องจากพบว่าโปรแกรมสำหรับหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์
เรโนลต์ยังได้หยุดการผลิตที่โรงงานใหญ่อีกแห่งหนึ่งในเลออาฟวร์ ทางเหนือของฝรั่งเศส และที่โรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทลูกในสโลวีเนียด้วย
มัลแวร์ที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกนี้ จะปรากฏข้อความเรียกเงินจำนวน 300 ดอลลาร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ระบุว่า ถึงแม้จะจ่ายเงินไปก็ไม่มีอะไรรับประกันว่า ระบบคอมพิวเตอร์จะกลับมาอยู่ในสภาพเดิม.
ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000049211