CEO ของ Disney ได้กล่าวในงานสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสื่อ โดยเขาได้กล่าวถึงแผนการของบริษัทที่จะลดการลงทุนคอนเทนต์ในสื่อโทรทัศน์ลง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ ว่ายุคทองของโทรทัศน์นั้นกำลังใกล้จะจบสิ้นแล้ว ขณะเดียวกันก็จะโฟกัสไปในเรื่องวิดีโอสตรีมมิ่งแทน
Bob Iger ซึ่งเป็น CEO ของ Walt Disney ได้เปิดเผยในงานสัมมนา ธุรกิจสื่อ ธุรกิจอินเทอร์เน็ต ธุรกิจด้านการสื่อสาร ของบริษัทวิจัย MoffettNathanson’s ว่า Disney จะลดการลงทุนคอนเทนต์ในสื่อโทรทัศน์ลดลงอย่างมาก เพื่อที่จะเน้นไปยังธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่งผู้ชมกำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
เขายังกล่าวเสริมว่า คอนเทนต์ในสื่อโทรทัศน์ จะโฟกัสไปยังกลุ่มผู้ชมสูงอายุซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถที่จะรับชมความบันเทิงผ่าน Disney+ ได้ แต่ CEO ของ Disney เองก็ยังมองว่าโทรทัศน์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในด้านการตลาดของบริษัทอยู่
ไม่เพียงเท่านี้เขายังมองว่า Disney กำลังรวบรวมผู้ชมให้มีจำนวนมากขึ้น รวมถึงการใช้การตลาดของเครือข่ายโทรทัศน์ เพื่อช่วยในบางกรณี แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็กำลังตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ปัจจุบัน Disney มีช่องโทรทัศน์ทั้งแบบฟรีทีวีคือ ABC ในสหรัฐอเมริกา และยังมีช่องโทรทัศน์สำหรับบริการให้เครือข่ายทีวีบอกรับสมาชิก ไม่ว่าจะเป็น Disney ไปจนถึง National Geographic เป็นต้น อย่างไรก็ดีธุรกิจดังกล่าวนั้นได้รับผลกระทบจากทีวีบอกรับสมาชิกนั้นมีจำนวนสมาชิกลดลงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
ผลประกอบการธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งล่าสุดของ Disney ในไตรมาสล่าสุดนั้นอยู่ที่ 5,642 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% มีกำไรจากการดำเนินงาน 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นกำไรครั้งแรกในรอบ 5 ปีหลังจากเปิดให้บริการ
CEO ของ Walt Disney ยังมองว่ากลยุทธ์ที่เน้นไปยังแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแล้วนำคอนเทนต์ไปออกอากาศผ่านช่องทางโทรทัศน์จะเป็นการใช้เครือข่ายสถานีโทรทัศน์หรือแม้แต่ช่องทีวีบอกรับสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
การที่ CEO ของ Walt Disney ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณครั้งใหญ่ว่าช่องทางโทรทัศน์แบบเดิมๆ กำลังอาจใกล้หมดอนาคตเข้าไปทุกขณะ
ที่มา – Reuters