บ.ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) ประกาศเป็นพันธมิตรกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนาม ด้วยการลงนามในบันทึกข้อตกลง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมพัฒนางานรับฝากหลักทรัพย์และชำระราคา เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับธุรกรรมข้ามชาติในอนาคต
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในวันนี้ (6 กรกฎาคม 2550) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ Ms. Phuong Hoang Lan Huong กรรมการผู้จัดการ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนาม (Vietnam Securities Depository: VSD) ในระหว่างพิธีฉลองครบรอบ 1 ปี ของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนาม ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
“การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ทั้งสองแห่งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และเทคโนโลยีในด้านต่างๆ รวมทั้ง การพัฒนางานรับฝากหลักทรัพย์และชำระราคา ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะเชื่อมโยงกัน และรองรับธุรกรรมข้ามชาติ (Cross-Border Transactions) ที่เป็นแนวโน้มของตลาดทุนโลกในอนาคต ” นางสาวโสภาวดีกล่าว
กรรมการผู้จัดการบ.ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ (ประเทศไทย) ยังกล่าวด้วยว่า “ การสานความสัมพันธ์ระหว่างศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ไทย กับ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนาม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการพัฒนางานด้านรับฝากหลักทรัพย์และชำระราคาในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของ TSD และ VSD ที่จะพัฒนางานบริการและระบบงานต่างๆ ให้เกิดผลดีต่อผู้ลงทุนและอุตสาหกรรมโดยรวมของทั้งสองประเทศ รวมถึงในภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ TSD ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนามเนื่องในงานฉลองครบรอบการดำเนินงาน 1 ปีอีกด้วย”
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เวียดนาม (VSD) ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลา 1 ปี (ตั้งแต่ 7 กรกฎาคม 2549) โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ สำนักหักบัญชี และนายทะเบียนหลักทรัพย์ให้กับศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ 2 แห่ง ของ ประเทศเวียดนามคือ Hanoi Securities Trading Center (HASTC) และ Ho Chi Minh City Securities Trading Center (HSTC) ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ
ในปี 2550 TSD ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เวียดนาม เป็นแห่งที่ 2 ต่อจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ไต้หวันที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และในอนาคตจะลงนามในสัญญาความร่วมมือกับศูนย์รับฝากอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียอีก 2-3 แห่ง
