“บีเคเค กรุ๊ป” ประกาศรีแบรนด์ดิ้ง ขยายฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง

กรุงเทพฯ – 22 กันยายน 2552 – บีเคเค กรุ๊ป – BKK Group ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์แถวหน้าของไทยประกาศรีแบรนด์ดิ้ง ภายใต้แนวคิด “For Today’s Better Living – สรรค์สร้างเพื่อชีวิตวันนี้ที่ดีกว่า” ควบรวมทุกการดำเนินธุรกิจในทิศทางเดียวกัน ชูกลยุทธ์ TQM ให้ความสำคัญด้านบริการเชิงคุณภาพเพื่อขยายการดำเนินธุรกิจด้วยรากฐานที่มั่นคง เผยผลประกอบการโตสวนกระแส 5% ในช่วงมกราคม-กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยผู้บริโภคระดับบน หรือ A Class ยังมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตถึงเป้าหมายด้วยมูลค่า 3,000 ล้านบาท

นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ ประธานกรรมการ บีเคเค กรุ๊ป กล่าวว่า บีเคเค กรุ๊ป ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านค้าปลีกยานยนต์แถวหน้าของไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี มีการสร้างสรรค์ พัฒนาการจัดจำหน่ายสินค้า และบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ รถยนต์จี๊ป-ไครสเลอร์ และรถยนต์นิสสัน อย่างเป็นทางการ รวมไปถึงศูนย์บริการ ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง และ ID1 ตลอดจนบริการเช่าซื้อลิสซิ่ง และรถเช่า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ามาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากการนำธุรกิจฝ่ามรสุมเศรษฐกิจมาได้อย่างต่อเนื่องโดยมีการเติบโตเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จ ล่าสุด บริษัทฯ มีอัตราการเติบโต 5% ในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2552) สวนกระแสสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมาก เนื่องมาจากการให้ความสำคัญกับการบริการครบวงจรแบบ 3S ได้แก่ 1. Sales ให้ความสำคัญในด้านสินค้าและการจัดจำหน่ายอย่างทั่วถึง 2.Service การบริการที่ครบวงจรด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและพนักงานที่มีคุณภาพ และ 3.Spare part เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยอะไหล่แท้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากต่างประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับการประกาศรีแบรนด์ดิ้งของบีเคเค กรุ๊ป มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ควบรวมการดำเนินธุรกิจภายใต้ บีเคเค กรุ๊ป ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 2.การให้บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ และ 3.การลงทุนด้านบุคลากรและซอฟต์แวร์ ภายใต้แนวคิด “For Today’s Better Living สรรค์สร้างชีวิตวันนี้ที่ดีกว่า” รวมไปถึงเพื่อขยายฐานการดำเนินงานไปสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมค้าปลีก เนื่องจาก บริษัทฯ มี Land bank อยู่ในทำเลทองของกรุงเทพฯ หลายแห่ง และพร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและการค้าปลีกแบบ Modern Sale มาพัฒนาธุรกิจต่อไป ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหาข้อมูลและเตรียมทีมงานเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

สำหรับแนวทางการบริหารงานนั้น นายอนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล กรรมการบริหาร บีเคเค กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทฯ ยึดหลัก “TQM” (Total Quality Management) ในการบริหารงานธุรกิจรถยนต์ โดยให้ความสำคัญ ในการบริหารเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ เนื่องจากตลาดรถยนต์ระดับหรูนั้นมีขนาดของตลาดที่จำกัด การบริหารงานของบริษัทฯ จึงมุ่งมั่นให้ความสำคัญในเรื่องของ 1.ด้านลูกค้า เน้นในเรื่องการบริหาร เชิงความสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในสินค้าและบริการ และเลือกที่จะใช้บริการกับบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ปรับภาพลักษณ์โชว์รูมใหม่ให้เป็นรูปแบบ “Auto House” ด้วยการนำเสนอมุมมองและการบริการรูปแบบใหม่ ที่เป็นการให้บริการแบบครบวงจร เพิ่มความสะดวกสบาย และทันสมัยให้กับลูกค้า 2.การบริหารต้นทุนและความสามารถในการดำเนินงานด้วยกลยุทธ์ “Lean Cost Management” และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่สามารถทำกำไร ได้แก่ ID1 และบริการซ่อมสีรถและตัวถัง 3.ด้านการบริหารจัดการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยระบบ DMS (Dealer Management System by Mercedes Benz) ซึ่งเป็นระบบจัดการแบบ All-in-One อีกทั้ง ให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยมีการฝึกอบรมและเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนา เพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “For Today’s Better Living สรรค์สร้างเพื่อชีวิตวันนี้ที่ดีกว่า”

“จากผลประกอบการของบีเคเค กรุ๊ป ที่มีอัตราการเติบโต 5% ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีผลประกอบการเติบโตถึงเป้าหมายที่วางไว้คือ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมของตลาดน่าจะกลับมาเติบโตขึ้น และมีการเปิดตัวของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของค่ายเมอร์เซเดซ เบนซ์ และนิสสัน ซึ่งบริษัทฯ พร้อมนำความชำนาญด้านธุรกิจรถยนต์ระดับหรู และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและคู่ค้าอันเป็นเวลายาวนานมาต่อยอดให้กับการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ และในเร็วๆ นี้ บีเคเค กรุ๊ป จะเปิดตัวโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกที่จะเป็นเสมือนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคนกรุงเทพที่มีไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ไม่เหมือนใคร สำหรับรายละเอียดคงต้องรอติดตามต่อไป” นายเหรียญชัย กล่าวปิดท้าย