เปิดหนังสือ2 ฉบับ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ส่งถึงกสทช. ขอยกเลิกทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ไทยทีวี และช่องเด็ก LOCA พร้อมทั้งไม่จ่ายค่าสัมปทานงวดที่ 2 เพื่อกลับไปทำ “ทีวีดาวเทียม” ด้านกสทช. ระบุชัด หากยกเลิก ต้องโดนยึดแบงก์การันตี ค่าสัมปทาน 1,976 ล้านบาท
ไม่ได้สวยหรูจริงๆ สำหรับ เจ๊ติ๋ม พรรพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด หลังจากที่ประกาศไม่จ่ายค่าสัมปทานทีวีดิจิตอล งวดที่ 2 ไปแล้ว เมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม 2558 ) เจ๊ติ๋ม ได้ทำหนังสือ 2 ฉบับ ส่งถึง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช .เพื่อขอยกเลิกทีวีดิจิตอล 2 ช่องข่าวและสาร ไทยทีวี และช่อง Loca ช่องเด็กและครอบครัว
ฉบับแรก ขอยกเลิกใบอนุญาต และประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นที่ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ข่าวสาร และสาระ ช่องรายการไทยทีวี
ฉบับที่สอง ขอยกเลิกใบอนุญาต และประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นที่ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว ช่องรายการ LOCA มาที่ กสทช.
หนังสือทั้ง 2 ฉบับ ระบุว่า ตามที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ฯ จากคณะกรรมการกสท. ดังอ้างข้างต้น แต่ปรากฎว่า นับแต่บริษัทได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2557 จนถึงปัจจุบัน กสทช.กลับมิได้ดำเนินการใดๆ เพื่อให้มีการควบคุมหรือกำกับดูแลการเปลี่ยนผ่านระบบการรับชมสัญญาณโทรทัศน์ในระบบภาคพื้นดินไปสู่การรับส่งสัญญาณระบบดิจิตอลให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือ ตามแผนแม่บทกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ฉบับ 1 พ.ศ. 2555-2559 หรือตามที่ กสทช.ได้ประกาศ และประชาสัมพันธ์ไว้ จนเป็นเหตุให้ประชาชนทั้งประเทศไม่สามารถรับชมสัญญาณภาพและเสียงโทรทัศน์ในระบบทีวีดิจิตอลได้อย่างกว้างขวางมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐษนสากล
ซึ่งการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินกิจการของผู้ประกอบการอย่างร้ายแรง โดยบริษัทเคยมีหนังสือบอกกล่าวให้ กสทช.ปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด และตามแผนแม่บทแล้วหลายครั้ง แต่ กสทช.ยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการ แก้ไขหรือเยียวยาใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว บริษัทจึงเรียนมาเพื่อขอบอกเลิกใบอนุญาตและเลิกการประกอบกิจการตามใบอนุญาต โดยขอให้มีผลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ กสทช.ได้รับหนังสือฉบับนี้ โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการใดๆ เพราะผู้ใช้บริการรับชมทีวีดิจิตอล มีจำนวนไม่มาก เนื่องจากความบกพร่องและการล่าช้าของกสทช.โดยบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
ไม่เท่านั้น เจ๊ติ๋ม ยังไม่ได้เดินทางมาจ่ายค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทีวีดิจิตอล ช่องไทยทีวี และ Loca งวดที่ 2 ประกอบไปด้วย ช่องไทยทีวี จำนวน 176.80 ล้านบาท ช่อง Loca จำนวน 92.80 ล้านบาท
รวมเป็นเงิน 269.60 ล้านบาทแล้ว ให้กับกสทช. ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 ที่ถือเป็น “เดดไลน์” ของกสทช. หากเลยกำหนดนี้แล้ว หากไม่จ่ายจะต้องเสียค่าปรับ 7.5% ต่อปี
โดยก่อนหน้านี้ เจ๊ติ๋ม ประกาศ“ไม่จ่ายค่าสัมปทาน งวดที่ 2” เนื่องจากเธอคาดการณ์ผิด ธุรกิจทีวีดิจิตอลไม่ได้สวยหรูที่คิดไว้ หลังจากขาดทุนไปแล้ว 300 ล้านบาท จากเงินลงทุนที่จ่ายไป 1,000 ล้านบาท
“ใครจะจ่ายก็จ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลก็จ่ายไป แต่เราไม่ยอมจ่ายแน่ๆ ยอมรับว่าเราคาดการณ์ผิดพลาด ที่ไปประมูลมาสองช่อง เหมือนล่องเรืออยู่แล้วเห็นสิ่งใหม่ดีกว่า ก็ไปร่วมและก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้”
(อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง เจ๊ติ๋มทีวีพูล ยอมรับ “คาดการณ์ผิด” ทีวีดิจิตอลไม่สวยหรูอย่างที่คิด) ใส่ ลิงค์ HTTP://WWW.POSITIONINGMAG.COM/CONTENT/60268
เจ๊ติ๋ม ยังระบุด้วยว่า การที่ทีวีดิจิตอลไม่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นความผิดของ กสทช. ไม่ทำตามแผนแม่บทที่วางไว้
ช่วงนั้นเจ๊ติ๋ม ยังประเมินว่า หากไม่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาต จะทำให้เธอลดค่าใช้จ่าย และสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
บริษัทไทยทีวี จึงได้มีการเพิ่มทุน จาก 200 ล้านบาทเป็น 800 ล้านบาท พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยมี “บิ๊กทหาร” เข้ามาถือหุ้น และหลังจากปรับโครงสร้างบริษัทแล้ว เธอจะหันไปเปิดช่อง ทีวีพูล บนแพลทฟอร์ม “ทีวีดาวเทียม”ขึ้นมาอีกครั้ง
“เราจะไปทำช่องดิจิตอลทีวี เพราะเราคิดว่ามีตลาดใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่า แต่เมื่อตัดสินใจผิด ก็ต้องกลับไปยืนในจุดเดิมอีกครั้ง หลังจากปรับโครงสร้างของบริษัททั้งหมด”
ทางด้านกสทช. หลังจากได้รับหนังสือจากทางไทยทีวีแล้ว จะเรียก บริษัทไทยทีวีมาพบในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 เพื่อชี้แจงถึงข้อกำหนดในการรับใบอนุญาตดิจิตอลทีวีที่มีระบุไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ในกรณีที่เอกชนผู้รับยกเลิกใบอนุญาตใช้คลืนความถี่ทีวีดิจิตอลก่อนกำหนดจะต้องถูกยึด “แบงก์การันตี” ตามมูลค่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ตลอดทั้ง 6 ปี
โดยค่าสัมปทานที่ไทยทีวี ต้องจ่ายให้กับกสทช. รวม 2 ช่อง คือ ไทยทีวี และ LOCA รวมเป็นเงิน 1,976.00 ล้านบาท
เท่ากับว่า แม้ว่าจะยกเลิกสัมปทานก็ตาม แต่ไทยทีวี ยังต้องจ่ายค่าสัมปทานเกือบ 2 พันล้านบาท และยังไม่รวมค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีในอัตรา 4% ของรายได้ ที่จะต้องจ่ายให้กับกสทช ในวันที่ 2 มิถุนายน 2558 ที่จะถึงนี้
งานนี้ต้องรอดูว่า เจ๊ติ๋ม จะหาทางออกกับเรื่องนี้อย่างไร ในเมื่อ “ราคา” ค่าเปลี่ยนใจ ไม่ทำทีวีดิจิตอลต่อไป จะต้องจ่ายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท