แอลจี+ฟูแล่ม ยุทธการกินรวบทั้งลอนดอน

นี่ก็เป็นครั้งแรกของแบรนด์เกาหลีเช่นกัน เมื่อ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เข้าเป็นผู้สนับสนุนให้กับทีมฟูลแล่ม (Fulham Football Club) เมื่อต้นฤดูกาลปี 2005 โดยเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการทั้งในส่วนโทรศัพท์มือถือและคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์

การเข้าไปสปอนเซอร์ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกของแอลจี ก็ไม่ต่างจากเป้าหมายของแบรนด์อื่นๆ ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ที่ได้มา ใช้ในการส่งเสริมกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับลูกค้าทั่วโลก

ความสัมพันธ์ของแอลจีกับทีมฟูลแล่ม ไม่ได้มองแค่ประโยชน์ที่ได้รับจากทีมฟุตบอลเท่านั้น แต่มองลึกไปถึงธุรกิจของประธานสโมสร โมฮัมเหม็ด อัลฟาเยด (Mohammed Al Fayed) ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า Harrods ห้างสรรพสินค้าชื่อดังและเก่าแก่ของเกาะอังกฤษ

ไม่ใช่เฉพาะคนในอังกฤษเท่านั้นที่นิยมไปแฮร์รอด แต่นักท่องเที่ยวจากที่อื่นๆ จำนวนไม่น้อยก็กำหนดให้ห้างแฮร์รอดเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ต้องไปเยือนเมื่อไปอังกฤษด้วยเช่นกัน

ประโยชน์เพิ่มเติมจากการสนับสนุนทีมฟูลแล่มครั้งนี้ ทำให้แอลจีได้รับพื้นที่แสดงสินค้าเป็นพิเศษในห้างแห่งนี้

แอลจีใช้พื้นที่ดังกล่าวสร้างเป็น i-Gallery เพื่อแสดงอนาคตของเทคโนโลยีที่จะทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคดีขึ้น เน้นรูปการจัดแสดงเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและจินตนาการ เพื่อให้ผู้บริโภคมองเห็นอนาคตของโลกดิจิตอลและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของแอลจี

เมื่อสิทธิประโยชน์ที่ได้มากกว่าในสนาม ทำให้แอลจีตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์หลักของทีมอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2007 ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน โดยสัญญามีผลในวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป

เมื่อสัญญาขยายเวลาเพิ่มขึ้น พื้นที่สำหรับสินค้าแอลจีในห้างแฮร์รอดก็เติบโตตาม แฮร์รอดจัดพื้นที่เพิ่ม ให้กับ i-Gallery ของแอลจี ซึ่งเลือกใช้พื้นที่จัดแสดงความต่อเนื่องด้านจอภาพ และเปิดตัว LG i-Gallery อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

การจัด Visibility ทั้งหมดในแฮร์รอด ล้วนสะท้อนให้เห็นกลยุทธ์ของแอลจีในการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งที่เกี่ยวกับแบรนด์ เพื่อทำให้ผู้คนมองเห็นแบรนด์แอลจีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเป็นระบบ

นอกจากพื้นที่แสดงสินค้าแอลจีในห้างแฮร์รอด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แอลจีเช่าพื้นที่บริเวณวงเวียนพิคคาดีลลี่ ในลอนดอน ติดตั้งจอแอลอีดี เพื่อเป็นการโฆษณาแบรนด์กลางกรุงลอนดอนอีกจุดหนึ่งด้วย โดย Mr. Brian Na ประธานแอลจี อีเลคทรอนิคส์ อังกฤษ ถึงกับออกปากว่า

แบรนด์แอลจีที่ปรากฏในห้างแฮร์รอดและที่วงเวียนพิคคาดีลลี่ เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามถึงสองเม็ดที่จะส่งให้แบรนด์แอลจีมีโพรไฟล์ที่สูงขึ้นในสายตาผู้บริโภค

ส่วนเป้าหมายการสปอนเซอร์ทีม แอลจีก็คาดหวังเช่นกันว่าโลโก้แอลจีที่ปรากฏบนเสื้อและในเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ก็จะเป็นอีกส่วนสำคัญในการเพิ่มโพรไฟล์ของแบรนด์และเพิ่มการรับรู้ในผลิตภัณฑ์ของแอลจีทั่วเกาะอังกฤษและทั่วโลกด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากความพยายามใช้กลยุทธ์เพื่อการสร้างแบรนด์ในด้านอื่นๆ อาทิเช่น การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่มีดีไซน์แตกต่างอย่าง Shine โทรศัพท์มือถือที่ร่วมออกแบบกับ Prada ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้แบรนด์แอลจีเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาอยู่แล้ว

LG LED Screen ในวงเวียน Piccadilly

วงเวียน Piccadilly หรือ Piccadilly Circus เป็นจุดที่แอลจีเลือกติดตั้งจอแอลอีดีขนาดยักษ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ในลอนดอน ด้วยเหตุผลว่าวงเวียนแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กหนึ่งของลอนดอน ที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงแห่งอื่นในเมือง ทั้ง Leicester Square, Covent Garden และTrafalgar Square ทั้งยังอยู่ใกล้ย่านช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิง

แอลจีได้สิทธิ์ในการติดตั้งจอแอลอีดีเป็นเวลา 7 ปี จากการเจรจาของสตาร์คอม มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ของอังกฤษ ตลอด 7 ปี จะเป็นช่วงที่คนอังกฤษและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมหาศาลได้สัมผัสกับแบรนด์แอลจีจากวงเวียนแห่งนี้ โดยมีสถิติว่า คนที่ผ่านไปมาในวงเวียนพิคาดิลลี่ มีจำนวนประมาณ 1.1 ล้านคนต่อสัปดาห์

ตัวจอเชื่อมต่อข้อมูลด้วยระบบบรอดแบนด์เอดีเอสแอล แบบไร้สาย ทำให้แอลจีสามารถอัพโหลดข้อมูลต่างๆ บนจอได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพช็อตเด็ดจากการแข่งขันพรีเมียร์ลีก โฆษณา หัวข้อข่าว รายงานข่าว ข้อมูลท่องเที่ยว และพยากรณ์อากาศ สลับไปกับโลโก้ของแอลจี

LG i-Gallery ในห้าง Harrods

คือสิทธิพิเศษที่แอลจีได้รับนอกเหนือจากการสิทธิ์ที่ได้ติดโลโก้บนอกเสื้อทีมฟูลแล่ม เป็นการจัดแสดงสินค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ LG eye เพื่อสร้างประสบการณ์กับสินค้าจอภาพของแอลจี อาทิ พลาสม่าทีวี ที่นำมาโชว์นับ 10 รุ่น ไฮไลต์ที่จอพลาสม่าทองขนาด 71นิ้ว โทรศัพท์มือถือติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล จอแอลซีดีขนาด 15 นี้วที่มีระบบไร้สายสมบูรณ์แบบ ไปจนถึงเครื่องดูดฝุ่นล้ำยุค

นอกจากนี้ห้างแฮร์รอดยังเปลี่ยนโปสเตอร์โฆษณาแบบเดิมๆ มาเป็นโฆษณาแบบอินเตอร์แอคทีฟผ่านจอภาพขนาดใหญ่ของแอลจีทั่วบริเวณห้างอีกด้วย

i-Gallery ยังเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญของแอลจีที่ต้องการทำให้บริษัทเป็นท็อป 3 ของบริษัทคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ภายในปี 2010 ที่ประกาศวิชั่นมาเมื่อปี 2005