แฟชั่นต้อนรับโลกร้อน

1.
Eco-design…สวยอิงธรรมชาติ

วงการ “แฟชั่น” นับว่าตื่นตัวตอบรับกระแส “โลกร้อน” ไม่แพ้อุตสาหกรรมอื่นใด หลายบริษัทได้ปรับตัวเป็นพลเมืองโลกที่ดีด้วยการเลือกใช้เนื้อผ้าที่มีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

American Apparel, H&M, Wal-Mart, Target, Barneys New York พร้อมอกพร้อมใจโปรโมตเสื้อผ้าที่จากฝ้ายอินทรีย์

ขณะที่การแสวงหาผ้าชนิดใหม่ๆ เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อมก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลใน www.materialconnextion.com เช่น ผ้าขนสัตว์อินทรีย์ ผ้าจากไม้ไผ่ ผ้าจากข้าวโพด เป็นต้น

โดยผ้าอินทรีย์เกิดขึ้นจากแนวคิดว่าที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผ้าอินทรีย์จึงถือกำเนิดขึ้นจากการไม่ใช้ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์และยาฆ่าแมลงระหว่างการปลูก เพราะการใช้พลังงานในการผลิตปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ทำให้เกิดการแพร่ของก๊าซเรือนกระจก และยาฆ่าแมลงสามารถปนเปื้อน ตกค้างในดินได้ ซึ่งจะไปลดความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า และยังเป็นพิษต่อคนงานที่ใช้มือปั๊มอุปกรณ์ในขณะฉีดพ่นยาฆ่าแมลงอีกด้วย

2.
DIESEL เสือปืนไวกับโฆษณาโลกร้อน

แม้จะมีข้อครหาเกี่ยวกับโฆษณาล่อแหลมส่อไปในทางเซ็กซ์ แต่ DIESEL ก็ทันกระแส ตอบรับสถานการณ์โลกร้อนอย่างทันท่วงที ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแนวจริงจัง แต่ยังคงสไตล์ของแบรนด์แฟชั่นไว้เช่นเดิม นับเป็นแคมเปญโฆษณาที่ร้อนแรงและทำให้ทีมการตลาดและโฆษณาของ DIESEL ได้รับคำชมแบบล้นหลาม ขณะที่อีกขั้วหนึ่งกลับมองว่า DIESEL กำลังเล่นสนุกกับชะตากรรมอันน่ารันทดของโลก

แคมเปญตอบรับโลกร้อน “Global Warming Ready” ของ DIESEL โดยฝีมือของเอเยนซี่ Marcel จากปารีส นี้ เลือกสถานที่ Landmark ของมหานครสำคัญๆ ในการถ่ายทำ อาทิ นิวยอร์ก ลอนดอน ปักกิ่ง เวนิส และปารีส เป็นต้น พร้อมภาพกราฟิกแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงของโลกร้อน เช่น น้ำทะเลท่วมเมือง อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น เป็นต้น

เนื้อหาของแคมเปญสะท้อนถึงว่าแม้โลกร้อนจะส่งผลรุนแรงปานใด แต่แฟชั่นนิสต้าทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของตนเองแต่อย่างใด เพราะได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว mood & tone จึงไม่ได้ออกแนวเคร่งเครียด หรือดรามาจนเกินไป แต่ก็แฝงความรู้สึกตระหนักใน Global Issue นี้ (แม้จะดูเป็นเรื่องที่ “เกินจริง” หากโลกร้อนส่งผลถึงขั้นรุนแรงแล้วจะมีคนมาใส่บิกินีนอนอาบแดดเชิ่ดๆ เริ่ดๆ บนเรือสำราญหรู)

โดยแคมเปญนี้ได้ร่วมกับพันธมิตร www.stopglobalwarming.org ในการให้ข้อมูลข่าวสาร เสนอแนะพฤติกรรมเพื่อช่วยลดโลกร้อน เป็นต้น

3.
แต่งงานหนีโลกร้อน

ท่ามกลางสภาวะโลกร้อนได้ส่งอิทธิพลถึงเทรนด์การแต่งงานของหนุ่มสาวในยุคนี้แล้ว ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา มีตัวอย่างที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อชุดของคู่บ่าวสาวที่จะเลือกชุดที่ทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเลือกสถานที่ในการแต่งงานรวมถึงสถานที่ฮันนีมูน โดยคำนึงถึงปัจจัยเรื่องโลกร้อนเป็นสำคัญ

คู่บ่าวสาวหลีกหนีเมืองร้อนและเมืองที่มีอากาศอบอ้าว เหนียวเหนอะหนะ พวกเขาชื่นชอบที่จะแต่งงานริมชายหาด แต่งงานนอกเขตเมือง

ขณะที่พฤติกรรมคู่บ่าวสาวจะนิยมซื้อชุดแต่งงาน 2 ชุด สำหรับใส่ในพิธีการซึ่งหรูหรา และชุดสำหรับใส่ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนฝูงเพื่อความบางเบาและสะดวกสบาย ทำให้บริษัท Wedding Planner หลายแห่งปรับตัวเพื่อรับพฤติกรรมที่ผันแปรตามสภาพอากาศเช่นนี้

ผ้าไหมคุณภาพดีและซาติน คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับชุดแต่งงานที่บางเบาแต่ยังคงความหรูหราไว้ได้ 4.
Eco-Fashions บนรันเวย์

เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเมื่อ Eco-Fashions จากแบรนด์ Barneys ส่งนายแบบนางแบบขึ้นอวดโฉมคอลเลกชั่นใหม่ที่ดีไซน์เพื่อคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ในงาน New York Fashion Week

ขณะที่ Timberland ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับ Eco-Fashions มาแต่ไหนแต่ไร อีกทั้งยังได้รับรางวัลการันตี Green Award จากนิตยสาร Backpacker มาแล้ว โดย Earthkeepers คอลเลกชั่นสำหรับผู้ชายที่ขึ้นชื่อ ทำจากวัสดุธรรมชาติและสามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์ Eco-Friendly Packaging และสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าดีไซน์สวยๆ ไม่จำเป็นต้องทำลายสิ่งแวดล้อมก็ได้