เป็นธรรมดาสำหรับวงการมีเดีย เอเยนซี่ ที่ “ภาพลักษณ์” จะต้องดูดีอยู่เสมอ ภาพลักษณ์ที่ว่าหาได้สะท้อนผ่านเพียงบุคลิกภาพ การแต่งกายของพนักงานเพียงอย่างเดียวไม่ “สำนักงาน” กลายเป็นสถานที่ในการฉายภาพตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังเป็น “แรงดึงดูด” ทำให้พนักงานเกิดความรู้สึก “กระหาย” ในการทำงานอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญไม่แปรเปลี่ยนใจ ย้ายค่ายไปไหน
Initiative (อินนิชิเอทีฟ) มีเดีย เอเยนซี่ อันดับ 2 (วัดจากยอดบิลลิ่ง) ของไทย รู้ซึ้งถึงปัจจัยนี้ดี ดังนั้นงบปรับปรุงสำนักงานกว่า 10 ล้านบาท จากสำนักงานใหญ่จึงถูกอนุมัติและแปรเปลี่ยนให้สำนักงานของ Initiative บนชั้น 28 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ พลิกโฉมจากเดิมไปโดยสิ้นเชิง พร้อมกับเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจต้อนรับลูกค้ารายใหม่ไปในตัว
“หลังการเปลี่ยนแปลงทำให้อัตราของการเทิร์นโอเวอร์เหลือเพียง 6 % จากเดิมสูงถึง 25 % และ มีการตั้งจูเนียรบอร์ด ช่วยดูแลความเป็นไป ตลอดจนทุกข์สุขของพนักงาน ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน” วรรณี รัตนพล ประธานบริหาร บริษัท อินนิชิเอทีฟ จำกัด บอกถึงความเปลี่ยนแปลงด้านบวกที่เกิดขึ้น
โฉมใหม่ของสำนักงาน Initiative ถูกออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด “We connect” ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในสังคมที่ต่างเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา
“เทิร์นโอเวอร์ต่ำแสดงว่าสามารถคอนเนกกับพนักงานได้ ตอนนี้ดีลกับครีเอทีฟ เอเยนซี่ 10 กว่าแห่ง เราทำหน้าที่เหมือนกับเป็น Connector เชื่อมโยงระหว่างคอนซูเมอร์เพื่อให้ทราบว่าเขาเป็นอย่างไร หรือแม้กระทั่งเชื่อมโยงกับสินค้าของลูกค้าทำให้เกิดยอดขายที่ดี เป็นต้น โดยแนวคิดนี้ทางเอเชียแปซิฟิกเสนอให้กับสำนักงานใหญ่ เพื่อรีเฟรชองค์กรทั่วโลก ซึ่งสำนักงานใหญ่ก็อนุมัติเพราะเป็นคอนเซ็ปต์ที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับทุกฝ่าย”
Space ของทุกคน
พื้นที่เท่าเดิมแต่สามารถใช้งานร่วมกันได้มากขึ้น คือผลดีจากการใช้ “Mobile Technology” ซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกๆ พื้นที่ของสำนักงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของพนักงานทุกคนถูกเปลี่ยนเป็นโน้ตบุ๊กทั้งหมด รวมทั้งระบบโทรศัพท์พื้นฐานในสำนักงานของพนักงานแต่ละคนที่สามารถนำติดตัวไปได้ในทุกที่ ซึ่งระบบโทรศัพท์ดังกล่าวยังจะสามารถเชื่อมต่อได้โดยอัตโนมัติไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของแต่ละบุคคลได้ทันที วรรณีบอกเหตุผลที่ยังคงใช้ระบบ IP Phone อยู่ เนื่องจากทางสำนักงานใหญ่ยังไม่เชื่อมั่นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของระบบ Wireless
พื้นที่ของทุกคนถูกถ่ายทอดผ่านแนวคิด “Hot Desking” ถูกนำมาใช้เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถเปลี่ยนมุมหรือตำแหน่งที่นั่งในการทำงานได้อย่างอิสระ หลีกหนีความซ้ำซากจำเจซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการก่อเกิดไอเดียใหม่ๆ นอกจากนี้เหตุผลสำคัญ คือ พนักงานส่วนหนึ่งออกไปพบปะลูกค้าข้างนอกทุกวัน ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีโต๊ะทำงานส่วนตัวให้เปลืองพื้นที่ ขณะเดียวกันหากมีพนักงานใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องจัดหาโต๊ะ เก้าอี้ทำงานเพิ่มเติม
ด้านข้อมูลส่วนกลางจะถูกเก็บไว้ในระบบ LAN ของบริษัท ขณะที่ล็อกเกอร์ส่วนตัวถูกจัดให้สำหรับทุกคน นับเป็น MySpace เล็กๆ ที่ยังคงมีให้อยู่บ้าง ในส่วนห้องทำงานของวรรณีเอง ดูโล่งและโปร่งสบายกว่าเดิม ทั้งนี้งานประดิษฐ์ดอกไม้ดินและงานเขียนภาพที่เธอโปรดปรานยังคงถูกจัดวางไว้เช่นเคย
อย่ากลัว “เทคโนโลยี”
เพราะเหตุที่ว่า Initiative เป็นมีเดีย เอเยนซี่ จึงจำเป็นจะต้องติดตามข่าวสาร เทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา การได้สัมผัสของจริงเพื่อสร้างประสบการณ์ตรงเป็นสิ่งที่วรรณีให้ความสำคัญ เพื่อที่จะได้นำมาช่วยในการวางกลยุทธ์สำหรับลูกค้าได้ และเป็นการเข้าถึงผู้บริโภคโดยแท้จริง
วรรณี เอ่ยถึงรายละเอียดในการออกแบบสำนักงานใหม่ที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และเทรนด์โลกว่า “ปัจจุบันลูกค้าต้องการความ Creativity ค่อนข้างเยอะ พื้นที่แต่ละตารางเมตรถูกออกแบบให้กระตุ้นให้เกิดการใช้ความคิดสร้างสรรค์ จัดมุมเป็นสวนพักผ่อน นั่งเล่น เล่นเกม จัดทำมีเดีย แล็ป มีเกมใหม่ๆ เช่น Wii sports ให้พนักงานได้เล่นคลายเครียด และเรียนรู้นวัตกรรม เพื่อให้คุ้นเคยและไม่กลัวเรื่องของเทคโนโลยี”
Will Sports เกมคอนโซลสุดฮอตจากค่ายนินเทนโด ถูกติดตั้งถึง 2 จุด ในบริเวณใกล้เคียงกับโต๊ะทำงาน
นอกเหนือจากจะเป็นเทรนด์ร้อนที่ต้องรู้แล้ว การได้ทำกิจกรรมร่วมกันของพนักงาน ทั้งตีเทนนิส ชกมวย หรือโยนโบว์ลิ่ง ฯลฯ ก็ทำให้เกิดความใกล้ชิดและกลมเกลียวกันได้
Media Lab ฟังชื่อแล้วอาจดูเหมือนห้องทดลองวิทยาศาสตร์ แต่นี่เป็นห้องแห่งไลฟ์สไตล์ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนตลอดจนลูกค้าก้าวเข้ามาสัมผัสและเรียนรู้โลกแห่งความบันเทิงอันทันสมัย
ภายในห้องแม้จะมีขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยของเด็ดทั้ง Apple TV เกม Playstation 3 ให้เลือกสนุกกัน เพลงใหม่ มิวสิกวิดีโอดัง ซีรี่ส์ฮอต รายการเด็ด มีพร้อมเสิร์ฟที่นี่
The Sims โลกเสมือนจริงที่พนักงานทุกคนต่างได้ก้าวเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง ตั้งแต่การสร้าง Avatar ของตัวเอง เพื่อสกรีนลงด้านหลังเสื้อสีฟ้าของบริษัท ซึ่ง Avatar ต่างสะท้อนถึงความรู้สึกนึกคิดของพนักงานแต่ละคนว่ามองตัวเองในแบบใด
ดีไซน์เรียบ เน้นการใช้งาน
สวนขนาดเล็กบ้างจัดกันเอง บ้างจ้างทีมงานจากนิตยสารบ้านและสวนมาออกแบบ ถูกตกแต่งเรียบง่ายบริเวณริมกระจกบานใหญ่ใกล้กับโซฟารับแขกบนพรมสีฟ้า ให้ความรู้สึกคลายความกระด้างของสำนักงานบนตึกสูงได้เป็นอย่างดี
บนผนังติดตั้งจอ LCD ขนาดใหญ่ ด้านล่างเป็นชั้นวางถ้วยและโล่รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ถัดไปเป็นชั้นวางนิตยสาร
เก้าอี้นั่งเล่นสีสดใส กระตุ้นให้สมองตื่นตัว โต๊ะทำงานสีขาวยาวเหยียดวางพาดอยู่บริเวณส่วนกลาง แม้รูปลักษณ์จะคล้ายโต๊ะในโรงอาหารเชยๆ แต่ก็สามารถรองรับการทำงานได้
ห้องแห่งความลับ
ห้องประชุม 10 กว่าห้อง หรือ Client Room ถูกติดตั้งระบบ Fingerprint Scan เพื่ออนุญาตให้เฉพาะทีมงานที่ดูแลลูกค้าแบรนด์นั้นๆ โดยตรงมีสิทธิ์เข้าได้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มีธุรกิจ “Conflict” กัน อาทิ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และไบโอคอนซูเมอร์ เป็นต้น เพื่อให้ “ความลับ” ยังคงเป็นความลับ แม้จะอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันก็ตาม
“การลงทุนครั้งนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายทำให้การทำงานราบรื่นมากขึ้น”
ปัจจุบัน Initiative มีลูกค้ากว่า 50 ราย กว่า 20 รายเป็นลูกค้ารายใหญ่ อาทิ เซเรบอส (แบรนด์) จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แสนสิริ พลัส ซีพี ฟู้ดส์ ทรู ทรูมูฟ ธนาคารไทยพาณิชย์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ็มเคสุกี้ คอมพิวเตอร์เอเซอร์ โคคา-โคลา และเอสซี จอห์นสัน ทั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ใช้ชื่อว่า Initiative 1-4 และมีผู้บริหารในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการดูแลแต่ละกลุ่ม ขณะที่ลูกค้าใหม่ในปีนี้คือ โอวัลติน ไบโอ คอนซูเมอร์ การบินไทย อินเตอร์เนชั่นแนล และไฟเซอร์ ด้วยลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทำให้จะมีการโปรโมตบุคลากรภายในขึ้นนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการอีกคนหนึ่ง
บรรยากาศ Welcome & Friendly
ในอดีต มีเดีย เอเยนซี่ มักได้รับการกล่าวขานว่านิยมทำตัวอยู่บนหอคอยงาช้าง ให้ความสำคัญเฉพาะกับลูกค้าผู้หว่านเม็ดเงินมาให้เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ไม่ใคร่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อมวลชนมากนัก
ปัจจุบันหลายบริษัท ได้ปรับเปลี่ยนท่าที Initiative ก็เช่นกัน
เครื่องคอมพิวเตอร์จอ LCD 4 เครื่อง ตั้งอยู่บนโต๊ะสูง ทอดตัวยาวถัดจากเคาน์เตอร์ต้อนรับ เพื่อใช้เป็น Press Center ตามเทรนด์ที่พีอาร์เอเยนซี่นิยมเสนอบริการนี้ให้สื่อมวลชน
หลังพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมสำนักงานใหม่อย่างภาคภูมิใจแล้ว วรรณีและทีมงานทุกคนต่างรอคอยต้อนรับ “คนสำคัญ” นั่นคือ บรรดาลูกค้าที่จะเดินทางมาร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้ด้วย แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้ วรรณีคาดว่าจะติดลบประมาณ 2% แต่ initiative ยังยิ้มได้
“เลือกตั้งไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะมันอยู่ปลายปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมา ตอนแรกก็นึกว่าปฏิวัติแล้วจะดี แต่ก็ดีแค่เดือนแรก หลังจากนั้นก็หัวทิ่มไปเรื่อยๆ เหมือนรอปาฏิหาริย์ แต่ Initiative โตเพราะได้ลูกค้าใหม่ ครึ่งปีแรกจึงโต 25% โดยคิดเป็นยอดบิลลิ่งจากลูกค้าใหม่กว่า 500 ล้านบาท”
