นับเป็นงานเทศกาลนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในไทย 2 งาน จาก 2 ค่ายค้าปลีก งานแรก บางกอก เวิลด์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ 2007 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8-26 สิงหาคม ที่สยามพารากอน จากนั้นในวันสุดท้ายของงานแรก ก็เริ่มลั่นกลองเปิดงานเซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2007 แบบไม่ให้คนรักนาฬิกาหรูได้หายใจหายคอกันเลย โดยจัดงานขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม – 18 กันยายน 2550 นอกจากความคึกคักของอีเวนต์ใหญ่ที่สู้กันยิบตาแล้ว ยังมีผลพวงจากเงินบาทแข็งค่ามาร่วมเติมเชื้อเพลิง ส่งผลให้ตลาดนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาทร้อนแรงกว่าที่เคย
คนที่มาร่วมงานและซื้อนาฬิกาเรือนแสนเรือนล้านในปีนี้ ได้รับอานิสงส์จากเรื่องเงินบาทแข็งค่า ที่ทำให้หลายๆ แบรนด์ปรับราคาลดลงอย่างเห็นได้เด่นชัด กว่า 3-5% อาจดูเหมือนน้อย แต่กับนาฬิกาเรือนแสนเรือนล้านและหลายสิบล้าน เมื่อตีเป็นมูลค่าเงินก็นับว่าลดเยอะเอาการ
“แค่เห็นราคา ก็น้ำลายสอ” เศรษฐีหลายคนจึงเกิดการทุ่มเม็ดเงินเพื่อ “ลงทุน” ในนาฬิกาเหล่านี้ ทำให้เฉพาะแบรนด์ CORUM (โฆรุ่ม) ของบริษัท บาชโทลด์ จำกัด เพียงแบรนด์เดียว สร้างยอดจองนาฬิกา CORUM Romulus ได้กว่าจำนวน 50 เรือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภค (ในสถานเศรษฐกิจระดับสูง) ยังมีกำลังซื้อในระดับที่ไม่น่าเป็นกังวล
นาฬิกาเรือนละกว่า 11 ล้านบาท ถูกถือไว้ในมือระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของ สร้อยเพชร เรศานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บาชโทลด์ จำกัด ผู้นำเข้านาฬิกา CORUM จากสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับบอกเล่าถึง “ข้อได้เปรียบ” ของนาฬิกาหรูจากสภาวะเงินบาทแข็งค่าว่า
“ลูกค้าจะได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากมีการปรับลดราคา 3-5% ถ้านาฬิกาเรือนละล้านก็นับว่ามากอยู่ แต่ปกติเราจะมี Fixed Price ทั่วโลก และมีการปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 3-5% ต่อปี แต่ปีนี้สำหรับเราไม่การปรับขึ้น นับได้ว่าราคาล่อใจมาก”
CORUM เองได้ใช้จังหวะดีๆ แบบนี้ เพิ่มสต็อกนาฬิกาด้วยงบกว่า 20 ล้านบาท
ด้านการแข่งขันสร้อยเพชรบอกว่า นาฬิกาหรูยังคงแข่งขันกันสูง ขณะเดียวกันลูกค้าจะมีการตั้งเป้าราคาในใจว่าต้องการนาฬิกาในระดับราคาประมาณเท่าไหร่ และต้องการของแถมที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้ามีพฤติกรรมที่ละเอียดรอบคอบมากขึ้นในการจับจ่ายเม็ดเงินจำนวนมาก และส่วนหนึ่งอยู่ในภาวะ “ต้องเลือก”
“ของราคาเท่ากัน 1 ล้านบาท คนต้องเลือกแล้วว่าจะเอาคอนโด รถ หรือนาฬิกาหรู ถ้าเลือกนาฬิกาหรูนั่นคือการลงทุนอย่างหนึ่ง เพราะสร้างกำไรงาม 10 ปี ผ่านไป ราคาเพิ่มขึ้น 400% ก็มี แต่ต้องเป็นรุ่น Limited Edition รุ่นเดียวในโลกในประเทศ รุ่นที่เป็นทองคำ หรือผสมจุดเด่นต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันในเรือนเดียว เพราะผลิตจำนวนเรือนน้อยและหายาก”
นอกจากนี้ยังเป็นการสะท้อนถึงกระแสความนิยมของนาฬิกาทองคำ นับเป็นการย้อนรอยปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อภาวะวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ซึ่งทำให้ผู้คนให้ความสนใจและเก็บสะสมทองคำมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ราคาของนาฬิกาหรูจะลดลงอย่างน่าถวิลหาแล้ว ในเรื่องของโปรแกรมชำระผ่านบัตรเครดิตก็เอื้ออำนวยให้คนเป็นเจ้าของได้มากขึ้น
“15 ปีก่อน ไม่มีบัตรเครดิตเจ้าไหนยอมให้ผ่อนดอกเบี้ย 0% แต่ 2 ปีมานี้เริ่มให้ผ่อนกันได้ ยิ่งปีนี้ไม่ต้องพูดถึงมีหลายรายเลย ให้ผ่อนดอกเบี้ย 0% 3-6 เดือน”
