ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หากงานนี้ขอโม้ว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่มีแฟนคลับโอเมก้า ”มากที่สุด” แห่งหนึ่งในโลก กระทั่งได้รับเกียรติให้จัดงานสำคัญๆ ของโอเมก้าในช่วงปีนี้อย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวหนังสือ “A Journey Through Time” เป็นหนังสือรวบรวมวิวัฒนาการของนาฬิกาโอเมก้าตลอด 150 ปี โดยที่โอเมก้าเลือกประเทศไทยเป็นที่เปิดตัว ”ที่แรกของโลก” หรือการรวบรวมนาฬิกาชุด “Museum Collection” ได้ ”ครบ” ทั้ง 7 เรือน เพื่อมอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าชาวไทยในการได้เป็นเจ้าของ โดยเปิดจำหน่ายเป็น ”เซตแรกและเซตเดียว” ในโลก
รวมถึงการส่งตรง ”นาฬิกาหายาก” จำนวน 12 เรือน จาก ”พิพิธภัณฑ์โอเมก้า” ซึ่งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาจัดแสดงให้แก่สาวกชาวไทยได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ เป็นเพียงประเทศเดียวอีกเช่นกันที่ได้รับโอกาสพิเศษเช่นนี้
งานนี้โอเมก้าพุ่งเป้าไปที่กลุ่ม ”นักสะสม” โอเมก้าชาวไทย ซึ่งมีฐานข้อมูลที่รวบรวมได้อยู่กว่า 50,000 ราย (มีการเข้ามา Re-check เฉลี่ย 600 เรือนต่อปี) นอกจากนี้ ในหนังสือยังมีการรวบรวมภาพลูกค้ากิตติมศักดิ์มากมาย อาทิ องค์สันตะปาปา ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้ หรือแม้แต่นักร้องวงเดอะบีทเทิลส์ ขณะเดียวกันทางโอเมก้าได้รวบรวมภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนโอเมก้า สวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1960 มาลงตีพิมพ์ในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มนี้ด้วย
ทั้งนี้ เหตุที่เมืองไทยมีลูกค้าโอเมก้ามากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโอเมก้านับว่าเป็นนาฬิกาหรู ”แบรนด์แรกๆ” ที่เข้ามาในตลาดเมืองไทย โดยนับเวลาย้อนไปไม่ต่ำกว่า 50 ปี ขณะเดียวกัน ไม่ว่าเศรษฐี ผู้ดีเก่า หรือเถ้าแก่น้อยในเวลานั้น ต่างก็เติบโตมาพร้อมๆ กับแบรนด์ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความหรูหราในการแสดงซึ่งฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างโอเมก้า
ปัจจุบัน โอเมก้าก็ยังคงได้รับความนิยมจากชาวไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงปีนี้เศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่ผลประกอบการของโอเมก้ากลับโตขึ้น 40% โดยมีรุ่น “Hour Vision” ซึ่งราคาสูงถึง 452,000 บาท เป็นตัวทำตลาด
Did u know?
โอเมก้า เป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวที่ถูกนำไปใช้ในอวกาศ และการสำรวจดวงจันทร์ทั้ง 6 ครั้ง นาซ่าจึงประกาศให้รุ่น “Speedmaster Professional” เป็นนาฬิกาคู่กายนักสำรวจอวกาศ