นับเป็นสองอีเวนต์ที่ยิ่งใหญ่ ในภาคธุรกิจเอกชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษาในปีนี้ โดยทั้งสองแคมเปญมีการจัดงานที่คล้ายคลึงกันคือ มีการแปรอักษรถวายพระพร หากจะมีความแตกต่างกันก็ตรงที่งานหนึ่งใช้คน กับอีกงานหนึ่งใช้รถยนต์ และหากมองลึกลงไปแล้ว แคมเปญดังกล่าวสามารถสร้างแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ
รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อหลวง
กลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป จัดทำโครงการ “รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อหลวง” เป็นโครงการที่มุ่งรณรงค์ให้คนไทยมีความตื่นตัวและตั้งใจที่จะทำความดีเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็นการถวายเป็นของขวัญในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยกิจกรรมต่างๆ มีการกำหนดระยะเวลา 80 วันก่อนถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550
ไฮไลต์ของการเปิดโครงการครั้งนี้ คือ การนำพนักงานในเครือถึง 450 คน มาจัดขบวนแถวแปรอักษรข้อความ “ทรงพระเจริญ” หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมมีการร้องเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน”
งานนี้นอกจากเป็นการร่วมถวายพระพรแล้ว โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ CSR (Corporate Social Relationship หรือ “กิจกรรมเพื่อสังคม” ซึ่งเซ็นทรัลกรุ๊ปได้วางงบไว้ถึง 50 ล้านบาท จัดกิจกรรมเพื่อพ่อหลวงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี 2551 โดยโครงการที่จะเริ่มขึ้นต่อไป คือ โครงการ “80 ปี สามัคคีเพื่อพ่อและแผ่นดิน” รณรงค์ให้คนไทยสามัคคีกัน โรบินสันจัดโครงการ “แต้ม 80 ฝันให้ 80 โรงเรียน” เป็นต้น
มินิ LONG LIVE THE KING
มินิ ไทยแลนด์ ค่ายรถยนต์ที่ขอร่วมถวายพระพร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมฉลองพระชนมพรรษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ด้วยจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก โดยการนำรถมินิ 444 คัน แปรอักษรคำว่า “LONG LIVE THE KING” ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การจัดอีเวนต์ครั้งนี้ นับเป็นการรวมใจของพลพรรคคนรักมินิในเมืองไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ด้วยการแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ในฐานะลูกของแผ่นดินแก่พ่อหลวงของเรา พร้อมทั้งการสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ บันทึกโดยกินเนสบุ๊ก ออฟ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness Book of World Records) ประเภท การต่อขบวนรถยนต์มินิที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
กล่าวกันว่ากิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะจัดงานเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่แล้ว นับเป็น “อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง” ที่มินิได้สร้างแบรนด์สู่สื่อระดับโลกได้อย่างน่าสนใจ เพราะการให้ กินเนสบุ๊ก ออฟ เวิลด์ เรคคอร์ด มาจดบันทึกเป็นสถิติโลก ถือเป็นการสร้างแบรนด์สู่ระดับโลก ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้
