iPhone นวัตกรรมมือถือสะท้านโลก

iPhone เป็นมือถือไฮเอนด์รุ่นเดียวที่ขายได้เป็นล้านเครื่องในเวลาแค่ 2 เดือนเศษ เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้านวงการมือถือทั่วโลก ดีไซน์แบบiPhone กลายเป็นเทรนด์ดีไซน์ของมือถือไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆ ของมือถือหลายแบรนด์ ระบบจอทัชสกรีนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในมือถือรุ่นใหม่ของทุกค่าย ปีนี้ iPhone จะเริ่มเข้ามาขายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการทุกโอเปอเรเตอร์พยายามที่จะได้สิทธิ์นั้น สิ่งที่ทุกคนเฝ้าคอยคือการที่ iPhone จะมาพร้อมเวอร์ชั่นใหม่หรือใหม่อย่างไร จะสร้างความฮือฮาแค่ไหน ยอดขายกว่า 1 หมื่นเครื่องที่มีอยู่แล้วในไทยจะเพิ่มเป็นเท่าไรเมื่อเปิดขายอย่างเป็นทางการ คำตอบเหล่านี้ได้เห็นกันแน่ๆ ในปีนี้

“iPhone กลายเป็นภาพที่ทุกคนติดตาไปแล้ว แม้จะยังไม่มีขายอย่างเป็นทางการ ผู้บริโภคคนไทยกับตลาดมือถือไม่ธรรมดา ถ้าชอบ ต่อให้ไม่มีขายก็ต้องหามาให้ได้ จะกี่หมื่นก็ซื้อ ถึงได้มี iPhone เป็นหมื่นเครื่องทะลักเข้ามาในตลาดไทย” ปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักการตลาดบริการสื่อสารไร้สาย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) สรุปภาพ iPhone ที่มีต่อผู้บริโภคไทย

โดยปกติในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไทยจะตอบรับบริการและสิ่งใหม่ๆ ได้ง่ายและเร็ว ถ้าเป็นสิ่งที่ใช้งานได้ง่าย หรือคิดออกทันทีว่ามีแล้วจะใช้งานอะไรได้บ้าง และไม่จำเป็นต้องเป็นการใช้เพื่อการดำรงชีวิต แต่ถ้าใช้แล้ว Cool ก็เป็นเหตุผลสนับสนุนที่ดีพอแล้ว
ถ้านึกภาพไม่ออกลองนึกถึงตอนที่อยากกินกาแฟสักแก้ว แต่ความรู้สึกที่สมองสั่งบางทีไม่ใช่กาแฟที่ไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นกาแฟที่ร้านไหนร้านหนึ่ง ถ้าคิดจากเหตุผลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อกาแฟแก้วละร้อยกว่าบาท แต่ทำไมหลายคนยังวนเวียนเข้าไปบ่อยๆ เพราะยอมแลกเปลี่ยนระหว่างราคาที่สูงกับความต้องการบางอย่างนอกเหนือกาแฟ เช่น ที่นั่งคุยสบายๆ หรือบรรยากาศของร้านที่เหมาะกับการผ่อนคลายชั่วขณะ

“ตอนที่เอไอเอสเปิดตัวโมบายอินเทอร์เน็ตกับกูเกิล โดยเซตเป็นเมนูบนมือถือให้ผู้ใช้เข้าอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ก็ทำให้ยอดใช้งานอินเทอร์เน็ตเติบโตทันที แสดงให้เห็นว่าคีย์ที่ผู้บริโภคจะตอบรับบริการสินค้าอะไร หัวใจอยู่ที่ความง่ายในการใช้ ไม่ได้อยู่ที่เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะแค่พลิกนิดเดียวสร้างความแตกต่างที่การใช้งานให้ง่าย ไม่ต้องตีความว่าคืออะไรเท่านี้ก็พอ หรืออาจจะเติมอีกนิดตรงที่ราคาต้องไม่สูงเกินไป”

โมบายอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในมือถือมานาน แต่เมื่อถูกทำให้ง่ายขึ้นก็มีผู้พร้อมจะใช้งานทันที เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ต่างกับที่ iPhone ทำกับตลาดมือถือ ที่ทำให้ทุกอย่างบนมือถือชัดเจนขึ้นทั้งดีไซน์และการใช้งาน ขณะที่ผู้ผลิตมือถือรายอื่นพยายามกันมานาน หลายรายหลงไปกับการแตกเซ็กเมนต์ แต่จริงๆ แล้วเพียงตอบโจทย์ผู้ใช้ให้ตรงจุดให้ได้ เซ็กเมนต์ไหนก็พร้อมจะตอบรับโทรศัพท์ที่มันโดนใจทั้งนั้น

iPhone จึงเป็นสินค้าชั้นเยี่ยมในตลาดที่เจาะตลาดที่แข่งขันสูงได้โดยไม่ต้องสร้างตลาดใหม่ แค่นำโทรศัพท์ที่ทุกคนต้องการจริงๆ มาวางไว้ตรงหน้า ผู้บริโภคก็พร้อมจะหยิบมันทันที

ตอนที่ สตีฟ จ็อบส์ เริ่มต้นพัฒนา iPhone เขาบอกว่า โดยจิตวิทยาไม่มีใครชอบโทรศัพท์ที่ตัวเองใช้อยู่ และมองหาสิ่งที่ดีกว่าเสมอ

เหตุผลนี้คงเหมือนๆ กับที่ผู้ผลิตมือถือหลายรายเคยคิดกัน ทั้งยังเน้นให้มือถือกลายเป็นแฟชั่นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมือถือใหม่เร็วขึ้น

ตัวจ็อบส์เองก็เป็นคนหนึ่งที่คงจะรู้สึกว่ามือถือที่ใช้อยู่ไม่ถูกใจเหมือนผู้ใช้ทั่วไป แต่ในฐานะผู้ใช้ซึ่งมีความสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฮเทคระดับ Perfectionist ทำให้โลกมีโอกาสได้เห็น iPhone จากคำสั่งที่เขาสั่งให้ทีมวิศวกรและดีไซเนอร์ของแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ทุ่มเทการพัฒนาโทรศัพท์มือถือในแบบของแอปเปิลนานกว่า 2 ปี จนโลกได้เห็น iPhone เปิดตัวเป็นทางการครั้งแรกโดยบริษัท Cingular บริษัทในเครือของ AT&T ในอเมริกา เมื่อต้นปี 2550

ก่อนที่ iPhone จะถูกวิเคราะห์โดยละเอียดในเชิงตลาดว่าเพราะอะไรจึงประสบความสำเร็จมากมาย ก็มีผู้บริโภคตอบรับ iPhone พร้อมกันทั่วโลกไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่องหลังเปิดขายได้แค่ 2 เดือนเศษ เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้ผลิตมือถือรายอื่นๆ ต้องสะดุ้งไปตามๆ กัน

อย่างน้อยก็ได้ตระหนักว่า บางทีสิ่งที่พยายามทำกันมาทั้งหมดในตลาดมือถือ ที่มัวแต่ไปแบ่งเซ็กเมนต์ของกลุ่มผู้ใช้ แบ่งระดับการทำงานของเครื่อง เพื่อให้ลูกค้าชั่งใจตัวเองว่าอยากจะใช้มือถือที่เน้นด้านไหนมากกว่ากัน ระหว่าง ถ่ายภาพ ฟังเพลง ฟังวิทยุ ต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้มือถือที่ผู้บริโภคใช้ต้องเก็บความไว้ไม่พอใจไว้บางส่วน อาจจะเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ผิดไป หรืออาจจะไม่เหมาะสมเสียแล้วเมื่อมี iPhone เข้ามาเป็นคู่แข่งเพิ่มขึ้น

เพราะการที่แอปเปิลพัฒนา iPhone โดยไม่แบ่งกลุ่มเป้าหมาย แต่คิดเพียงว่า คนใช้โทรศัพท์ต้องการใช้งานอะไร จากนั้นก็เอามันมารวมกันไว้ และนั่นคือที่สุดของการตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและทำให้ iPhone ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องติดอยู่กับการลังเลของผู้ซื้อ

การที่จ็อบส์เริ่มต้นพัฒนา iPhone โดยใช้มุมมองในฐานะผู้บริโภค ที่ต้องการโทรศัพท์ที่ถูกใจดีไซน์สวย ใช้งานง่าย และมีแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ชอบให้เลือกใช้ ทำให้ iPhone สามารถ Associate ได้กับลูกค้าทุกกลุ่ม และกลายเป็นความสำเร็จที่ผู้บริโภคพอใจที่จะเป็นผู้ช่วยแพร่ข่าวต่อด้วยความภูมิใจ

ถ้าไม่เชื่อลองนึกดูว่า ข่าวเกี่ยวกับ iPhone ที่ผ่านตาคุณในรอบปีที่ผ่านมา มีกี่ข่าวที่ออกมาจากแอปเปิลโดยตรง ส่วนใหญ่เป็นข่าวที่เกิดจากปรากฏการณ์และการวิเคราะห์ในวงการธุรกิจในมุมต่างๆ ล้วนๆ รวมทั้งการคาดเดาและเสียงสะท้อนจากผู้เกี่ยวข้องในวงการ
ข่าวจริง ๆ ที่แอปเปิลเผยแพร่จากบริษัทโดยตรงนับชิ้นได้เลย ครั้งแรกประกาศเปิดตัว iPhone ครั้งที่สองประกาศลดราคาจาก 499 เหรียญ เหลือ 399 เหรียญ และอีกครั้งหนึ่งเมื่อตอนประกาศคืนเงิน 100 เหรียญให้กับคนที่ซื้อ iPhone ไปในราคาเปิดตัว
iPhone Effect

การตั้งรับของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายในไทยต่อการปรากฏตัวของ iPhone คือการที่ทุกคนพยายามจะได้สิทธิ์ในการขาย iPhone เพราะโดยหน้าที่ของผู้ให้บริการที่ดี อะไรที่ลูกค้าต้องการผู้ให้บริการก็ต้องนำเข้ามาขายให้ได้ แม้ว่าความต้องการจะซาลงไปบ้าง แต่ด้วยประสบการณ์ทำตลาดมือถือกันมานาน ทุกฝ่ายเชื่อว่า iPhone จะต้องมาพร้อมกับเวอร์ชั่นใหม่ และจะสร้างความน่าตื่นเต้นในตลาดได้ไม่แพ้การเปิดตัวรุ่นแรก

“เอไอเอสก็คุยกับแอปเปิลไทยแลนด์ ขณะที่แอปเปิลในต่างประเทศทางกรุ๊ปก็คุยอยู่ แต่สิ่งที่เราเตรียมตัวตั้งแต่ปีที่แล้วคือการศึกษาตัว iPhone เพราะต่อให้ลูกค้าไม่ซื้อกับเรา แต่เวลามีปัญหาเขาก็จะมาหาเรา ที่ผ่านมาเอไอเอสใช้ทีมฟิวเจอร์แล็ปที่สยามพารากอนเป็นตัวซัพพอร์ต ถ้าลูกค้าซื้อ iPhone มาใช้แล้วมีปัญหาเราก็จะให้ไปที่นั่น เราตั้งทีมซัพพอร์ตไว้จุดเดียวเพราะเทคโนโลยีช่วงแรกถ่ายทอดยาก โดยเราจะช่วยได้ในเรื่องของซอฟต์แวร์” ปรัธนาเล่าถึงผลกระทบจาก iPhone ที่ผ่านมา และความพยายามของเอไอเอสในการเป็น Authorize dealer ของ iPhone

จากการสอบถามผู้ใช้ ราคา iPhone ที่จำหน่ายในตลาดเครื่องหิ้วมีตั้งแต่ 25,000 บาท ในช่วงแรกๆ จนเหลือประมาณ 17,000 บาทในปัจจุบัน

“ราคาก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูให้เหมาะสม เพราะการเป็นตัวแทนจำหน่ายต้องบวกค่าประกันที่ทำให้ตัวเครื่องแพงขึ้น ถ้าคิดแล้วไม่ต่างจากราคาที่ลูกค้าซื้อได้จากตลาดเครื่องหิ้วก็ต้องพิจารณาให้ดีๆ”

ขณะที่สิ่งที่หลายคนเห็นตรงกันก็คือ ความตื่นเต้นของมือถือใหม่ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Interface ซึ่งเมื่อผ่านไประยะหนึ่งความฮือฮาจะน้อยลง ยิ่งคนไทยซึ่งชอบตามกระแสและชอบความทันสมัยจะรู้สึกเชยได้ง่ายมาก การทำตลาดมือถือที่เปิดตัวมาแล้ว 1 ปีเต็มๆ จึงถือเป็นเรื่องท้าทายมาก แต่ถ้าทันสมัยทันกันกับตลาดโลก สำหรับคนไทย แพงแค่ไนก็ซื้อ ขอแค่ทันสมัยทันกัน

มือถือรุ่นไฮเอนด์ของทั้งโนเกีย โมโตโรล่า ซัมซุง และแบรนด์อื่นๆ ปัจจุบันแทบจะต้องเปิดตัวพร้อมๆ กันกับตลาดโลก เต็มที่ก็ดีเลย์ไม่เกิน 3 เดือน ถ้านานกว่านั้นความต้องการจะถูกแบ่งไปที่มือถือรุ่นใหม่ที่ไล่เปิดตัวมาติดๆ ทันที

การเป็นมือถือที่ขายดีติดต่อกันนานเป็นปี ก็เป็นปรากฏการณ์ใหม่อีกเรื่องของ iPhone เพราะที่ผ่านมาต่อให้เป็นมือถือยี่ห้อดัง รุ่นฮิตแค่ไหน ก็ยากมากที่จะทำตลาดเป็นปี ฉะนั้นจึงเป็นที่คาดการณ์กันว่าปีนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ iPhone จะต้องส่งรุ่นใหม่ตามมา เพราะอย่างน้อยการพัฒนาเรื่องเมมโมรี่ที่มักจะเพิ่มกันทีเป็นสองเท่าตลอดเวลาก็ทำให้เมมโมรี่ในเครื่องรุ่นเก่าด้อยลงไปทันที และการมีเมมโมรีเพิ่มขึ้นฟังก์ชันข้างในก็ต้องพัฒนาตามกันไป

สำหรับผลกระทบของ iPhone กับผู้ผลิตมือถือโดยตรง ที่ผ่านมาก็ไม่มีรายได้ออกมายอมรับตรงๆ แต่ก็สร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการมือถือ
ผลกระทบโดยรวม ทำให้ผู้ผลิตมือถือตื่นตัวมากขึ้น

มือถือทุกค่ายในอดีต โนเกียนอกจากเป็นเจ้าตลาดยังเป็นคนที่ออกมือถือรุ่นใหม่มากที่สุด มีกิจกรรมการตลาดมากที่สุด และหวือหวาที่สุดในมุมมองของผู้บริโภค แต่ปีที่ผ่านมาต้องถือว่าโนเกียไม่ได้ครองตำแหน่งแล้ว แม้ว่าโนเกียจะมีมือถือ N 70 ของตระกูล N Series ที่ขายเป็นล้านเครื่องซึ่งเป็นยอดขายเฉพาะตลาดไทย แต่ก็ถือเป็นโทรศัพท์รุ่นกลางๆ และทุกคนต่างกำลังรอดูว่าปีหน้าโนเกียน่าจะมีมือถือในกลุ่มไฮเอนด์ที่ออกมาสร้างความฮือฮาสู้กับ iPhone ได้

“ผลที่จะเกิดกับผู้ผลิตมือถือ ผมคิดว่าน่าจะทำให้เขามองเรื่อง Integrated solution มากขึ้น วันนี้โนเกียประกาศวิสัยทัศน์ว่าเขาจะเป็นอินเทอร์เน็ตคอมปะนี เพราะกำไรมือถือต่ำ เขากำลังจะหา Value Chain จากการผสมสิ่งเหล่านี้เข้าไปเพื่อเพิ่มรายได้จากส่วนอื่น เป็นแนวทางเดียวกับแอปเปิลที่ไม่ได้มีกำไรจากมือถืออย่างเดียว แต่มีทั้งรายได้จากข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องเพลง ภาพธุรกิจแบบนี้จะทำให้ผู้ผลิตสามารถคงกำไรต่อเนื่องได้” ปรัธนาให้ความเห็น

อีกผลกระทบที่เห็นได้ชัด ได้แก่เรื่องของรูปทรงดีไซน์

ตอนที่สตีฟ จ็อบส์ พัฒนาไอพอด รูปทรงของไอพอดก็กลายเป็นแบบมาตรฐานของเอ็มพี 3 และเอ็มพี 4 จากสีขาว สีดำ นาโน และรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นอย่างไอพอด U2 การเดินเกมพัฒนา iPhone ก็เป็นที่คาดหมายว่าอาจจะไปในรูปแบบเดียวกันก็ได้ เพราะ ณ ตอนนี้แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่า iPhone รุ่นต่อไปจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็เริ่มมีเครื่องต้นแบบของ iPhone นาโนให้เห็นทางอินเทอร์เน็ตบ้างแล้ว และที่ชัดเจนที่สุดก็คือการที่ผู้ผลิตมือถือหลายค่ายเริ่มปรับดีไซน์ไปเป็นพี่เป็นน้องกับ iPhone อย่างพร้อมเพียงกัน

จุดเด่นหนึ่งของ iPhone คือหน้าจอกว้างสีสดใส สั่งงานด้วยระบบทัชสกรีน ทำให้ผู้ใช้สามารถโหมดหน้าจอให้เป็นโทรศัพท์ วิดีโอ หน้าจออินเทอร์เน็ต ได้เพียงปลายนิ้ว ซึ่งจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จุดเด่นนี้ก็ทำให้มือถือหลายแบรนด์ อาทิ LG KU990 Viewty Armani Phone ของซัมซุง HTC Touch โนเกีย S60 ก็ออมมาภายใต้รูปทรงเรียบสนิท มีแต่หน้าจอเพื่อรองรับระบบ Touch ด้วยกันทั้งสิ้น

ส่วนในแง่ของการพัฒนา iPhone เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ผลิตมือถือรายเล็กๆ ได้ดีทีเดียว กรณีที่สามารถออกสินค้ามาแล้วสามารถเอาชนะโนเกียได้ในแง่ของการสร้างปรากฏการณ์ และยอดขายเฉพาะรุ่น ทำให้มีกำลังใจที่จะพัฒนาสินค้าตัวเองต่อไป ทั้งยังทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และตลาดก็จะแอคทีฟขึ้นตามไปด้วย

เป้าหมายยอดขาย iPhone

แอปเปิลเล็งยอดขายภายใน 1 ปี ไว้ที่ 10 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 1% ของตลาดมือถือโลกจำนวน 1 พันล้านเครื่อง และน้อยมากเมื่อเทียบกับไอพอดที่มียอดขายกว่า 100 ล้านเครื่อง

อาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด

“การเปิดตัว iPhone ในปีนี้ ทำให้หลายค่ายเริ่มปรับดีไซน์ แต่ iPhone เป็นโทรศัพท์ไฮเอนด์ ซึ่งมีสัดส่วนในตลาดไม่มาก ผลกระทบที่เห็นชัดก็คือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดมือถือ ในเชิงทิศทางของการออกแบบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งซัมซุงก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติม เราก็จะต้องหากลยุทธ์ คิดมุก หรือสินค้าอะไรต่างๆ มาตอบโต้ หรือสร้างจุดแข็งของเราเอง อย่างตอนนี้หน้าจอเรียบก็เป็นเทรนด์ แต่เทรนด์มีขึ้นมีลง เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะสินค้าเล็กมันเปลี่ยนเร็ว”

ศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอ กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด

“การมาของ iPhone ในตลาดไทยจะพลิกโฉมการใช้โทรศัพท์มือถือของไทย และจะทำให้โมเดลธุรกิจของทรูฯ เรื่อง Convergence เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะ iPhone จะทำให้ลูกค้าสามารถใช้ Content ได้อย่างหลากหลาย สะดวกมากยิ่งขึ้น แน่นอนกลุ่มทรูฯ ได้ศึกษาคุณสมบัติของเครื่อง iPhone อย่างละเอียด เพื่อเตรียม Application ให้พร้อมกับความต้องการของผู้ใช้บริการมากที่สุด”

ปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักการตลาดบริการสื่อสารไร้สาย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส)

ถ้ามาเดี่ยวไม่ฮือฮา แต่ส่วนของเอไอเอสก็เดินหน้าเต็มที่ที่จะเอา iPhone มาให้บริการแก่ลูกค้า ข้อแรกลูกค้าไฮเอนด์อย่างไรก็แฮปปี้ที่เรามีสินค้ามาบริการ แล้ววัตถุประสงค์ของเอไอเอสก็คือเมนเทนลูกค้าไฮเอนด์ให้มากที่สุด ต้องทรีตในสิ่งที่เราสามารถทำได้ สองตัว iPhone ไดร์ฟดาต้ายูสเซสมาก เนื่องจากกดใช้ง่าย กดปุ๊บดาต้าวิ่งเลย เหมือนที่เราพยายามทำ ทำให้คนที่ไม่ค่อยใช้ดาต้ากลับช็อกเพราะดาต้าบิลสูงจนหน้าตกใจ มันง่ายต่อการเข้าถึง ก็ดับเบิล ทริปเปิลอาร์ปู้ตัวดาต้าขึ้นมา

อุณา ตัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด

“กระแส iPhone ในไทยไม่กระทบกับการทำตลาดโนเกียในไทย เพราะในแผนการวางตลาดโนเกียเตรียมทุกรุ่นที่ตอบสนองกับทุก Segment ตั้งแต่ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรก ลูกค้าระดับกลาง และลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยีสูง ซึ่งกลุ่มลูกค้าเดียวกับ iPhone โนเกียมี N Series ที่ตอบสนองความต้องการใช้งาน ทั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและความบันเทิง ซึ่งใน N Series ยังตอบสนองอีกหลาย Segment ตั้งแต่ระดับราคาไม่ถึงหมื่น จน 2 หมื่นกว่าบาท”

วรรณี รัตนพล กรรมการผู้จัดการ อินนิชิเอทีฟ มีเดีย

“การที่คนใช้เอสเอ็มเอสลดลง ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น แม้กระทั่งบนมือถือแทนที่จะเอสเอ็มเอสก็คุยเอ็มกันแล้ว สื่อคอนเวอร์เจนท์เข้ามราวกัน ฉะนั้นมือถือรอ iPhone มาทุกอย่างก็จบ”

วรรณีบอกว่าเทรนด์เมืองนอกเดี๋ยวนี้มาเร็วไม่ต้องรอกันเป็นสิบปีเหมือนสมัยก่อน คงจะเหมือนกับที่คนไทยอยากได้ iPhone ก็สามารถหาซื้อกันได้โดยไม่ต้องรอนับเขา ส่วนการส่งต่อ (Forward) เอสเอ็มเอสจาก iPhone ไม่ได้ นั่นก็คงเป็นเพราะสตีฟ จ็อบส์มองออกตั้งแต่แรกแล้วว่า คนใช้มือถือก็จะเปลี่ยนมาใช้เอ็มแทน SMS ที่เป็นแค่การสื่อสารทางเดียว

ในฐานะมีเดียเอเยนซี่ วรรณีบอกด้วยว่า ปัจจุบันไม่ว่าจะไปฟังสัมมนาเกี่ยวกับโมบายมาร์เก็ตติ้งที่ไหน ทุกที่มักจะต้องยกกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จของการทำตลาดผ่านมือถือของแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งเธอเชื่อว่า ภาพการทำโฆษณาผ่านมือถือจะยิ่งชัดขึ้นเมื่อมี iPhone

“มือถือจะเป็นทุกอย่าง ต่อเชื่อมกับทุกสิ่ง ทีวีที่คุณมีก็อาจจะจำกัดความแค่เป็นเครื่องทีวี แต่ถ้ามี iPhone คุณก็สามารถดูหนังบนมือถือได้เลย”

แบบนี้ ดูเหมือน iPhone จะไม่ได้สร้างผลกระทบแค่ตลาดมือถือเสียแล้ว

ไมค์เคิล พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลูฟรีเวย์ ประเทศไทย จำกัด

“iPhone ยังไม่เข้าตลาดไทย แต่หลายคนมีครอบครองแล้ว สิ่งที่เห็น iPhone เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค เหมือนผู้บริโภคมีคอมพิวเตอร์บนมือถือกำลังเร็ว ทำให้คนเห็นเว็บไซต์บนมือถือเร็วขึ้นกว่าเดิม อยาก Subscribe หรือตั้ง RSS บนมือถือ คลิกนิดเดียวก็เข้าดิจิตอลคอนเทนต์ได้เลย เปลี่ยนจากการใช้มือถือเดิม ที่อ่านยากเข้ายาก iPhone ทำให้การเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือง่ายขึ้น เป็นภาพที่ทำให้สินค้าที่สนใจโฆษณาบนมือถือมีตัวอย่างและเห็นภาพชัดเจน”

50% ของผู้ซื้อ iPhone เป็นผู้ตัดสินใจเปลี่ยนมือถือจากยี่ห้อเดิม
35% ซื้อ iPhone ที่ราคาเฉลี่ย 167 เหรียญสหรัฐ เพื่อไม่ต้องติดอยู่กับเงื่อนไขการทำสัญญากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
90% ของผู้เป็นเจ้าของ iPhone บอกว่า “พอใจที่สุด” หรือไม่ก็ “พอใจมาก” กับ iPhone ที่ซื้อมา
85% ของผู้ใช้ iPhone บอกว่าเต็มใจอย่างมากถึงมากที่สุดที่จะแนะนำ iPhone ให้กับคนอื่น
3 ใน 10 ของผู้ซื้อ iPhone กลายเป็นลูกค้ารายใหม่ของสินค้าอื่นของแอปเปิลคอมพิวเตอร์
ในจำนวนนี้ 40% เลือกซื้อไอพอดเป็นสินค้าตัวแรก

ที่มา: http://ilounge.com,2007. สำรวจโดย Interpret of Santa Monica, CA

iPhone Debate
(ที่มา: http://www.mrpalm.com/list3.php?cont_id=520 ยกเว้นข้อ 10)
1. iPhone ไม่รองรับพวกโปรแกรม Office ต่างๆ ที่เราใช้งานกันอยู่
ตอบ…รองรับได้แน่นอนเพราะรันบน โอเอสสิบ…
2. iPhone ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
ตอบ…เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ครับแต่ต้องยุ่งยากหน่อย
3. iPhone ไม่สามารถเชื่อมต่อ GPS
ตอบ…ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับจีพีเอส
4. iPhone ไม่รองรับ 3G หากต้องการนำไปใช้ในต่างประเทศ
ตอบ…นำไปใช้ในต่างประเทศได้ เพราะใช้ ควอดแบนด์ และเอดจ
5. iPhone ไม่มี Stylus
ตอบ…ตาจ๊อบเขาไม่ใช้นี้ เพราะเขาบอกว่ายุ่งยากใช้นิ้วมือง่ายกว่า และเป็นเทคนิคใหม่ของเขาด้วย (ขอเติมว่าไม่ต้องดีไซน์ที่จัดเก็บ ไม่ต้องกลัวทำสไตลัสหาย)
6. iPhone หากมีแป้นพิมพ์ Keyboard ภาษาไทยในอนาคต อาจจะจิ้มลำบากสำหรับคนนิ้วใหญ่ๆ
ตอบ…คงต้องออกแบบโปรแกรมสำหรับการพิมพ์ไทย คิดว่าไม่น่าลำบากอะไร
7. iPhone อาจจะถูก Lock EMEI เครื่องหากเป็นเครื่องที่จำหน่ายใน USA
ตอบ…อาจจะ
8. iPhone ไม่มี Expand memory สำหรับการเชื่อมต่อ Card ภายนอก
ตอบ…คงไม่จำเป็นเพราะสี่ กิ๊ก และ แปดกิ๊ก ก็มากพอแล้ว…ใช้ให้หมดแล้วกัน
9. iPhone อาจจะไม่สามารถลงโปรแกรมเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ตามใจชอบเหมือน PDA phone
ตอบ…รันบนแมคโอเอสสิบ…เหนือกว่าวินโดวส์มาก…
10. และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เกี่ยวกับ iPhone สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักการตลาด ไม่ใช่ข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้น แต่อยู่ที่การโต้แย้งที่เกิดขึ้น รวมถึงการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับ iPhone เกิดขึ้นโดยผู้บริโภค ส่วนข่าวที่มาจาก iPhone จริงๆ นับชิ้นกันได้เลย ครั้งแรกตอนเปิดตัว ครั้งที่สองตอนประกาศลดจาก 599 เหรียญ เหลือ 399 เหรียญ และอีกครั้งคือการประกาศคืนเงิน 100 เหรียญให้กับคนที่ซื้อไปก่อน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมาก ได้ทั้งความประทับจากลูกค้า และทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้ทดลองสินค้าตัวอื่นๆ ของแอปเปิล เพราะเงินที่คืนต้องไปรับคืนเป็นสินค้าที่เลือกได้ไม่เกินมูลค่าจากร้านแอปเปิล

5 สิ่งสำคัญของ iPhone
นิตยสารไทม์ ยกย่องให้ iPhone เป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี 2007 โดยมีองค์ประกอบ 5 ข้อที่โดดเด่น ดังนี้
1. รูปลักษณ์สวย
บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ไม่ค่อนสนใจเรื่องการออกแบบอย่างจริงจัง แต่แอปเปิลมองว่าการออกแบบที่ดีสำคัญพอกับการมีเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ เพราะต่อให้มีคุณสมบัติเป็นเลิศแต่ใช้แล้วไม่เท่ ก็ทำให้ผู้ใช้ลดความสนใจในตัวสินค้าได้ง่าย ๆ
2. ไวต่อการสัมผัส
ทัชสกรีน หรือหน้าจอแบบสัมผัส ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อม iPhone แต่ iPhone คิดวิธีการจัดการกับหน้าจอสัมผัสได้ถูกใจผู้ใช้ และทำให้การจัดการข้อมูลบนเครื่องได้ด้วยนิ้วมือ โดยการพัฒนาระบบสัมผัสเป็นประเด็นหลักที่วิศวกรของแอปเปิลเชื่อว่าจะเป็นวิถีที่คนเราจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์
3. iPhone ช่วยพัฒนาวงการมือถือ
การพัฒนา iPhone ไม่เหมือนการผลิตคอมพิวเตอร์ที่แอปเปิลพัฒนาทุกอย่างเอง แต่ครั้งนี้ แอปเปิลทำข้อตกลงกับ AT&T ให้รับภาระสร้าง iPhone โดยปราศจากขอบเขตต่างจากเดิมที่เจ้าของมือถือแบรนด์อื่นมักจะหาคนขอบบอกว่าอะไรทำได้หรือห้ามทำ ซึ่งนี่จะเป็นแนวทางให้วงการมือถือพัฒนาดีขึ้น
4. iPhone เป็นฮาร์ดแวร์
iPhone เหมือนคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่มากกว่าเป็นแค่โทรศัพท์มือถือ ทำให้คนดูคอนเทนต์บนคอมพิวเตอร์ได้ทุกเวลาที่ต้องการ และทำให้ข้อมูลถูกใช้ได้เมื่อต้องการจริงๆ เช่น การดูแผนที่ของกูเกิลบนมือถือ ซึ่งใช้ประโยชน์ได้มากกว่าดูผ่านจอคอมพิวเตอร์ เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการแผนที่ระหว่างเดินทางมากกว่า ตอนอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน
5. iPhone เป็นแค่บนเริ่มต้นของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
หรือที่บางคนบอกว่าเป็นแค่เงา ส่วนนี้เป็นการตีความจากพื้นที่เหลือบนหน้าจอ iPhone ซึ่งเชื่อว่าความสามารถของ iPhone จะถูกต่อเติมได้อีกไม่สิ้นสุดใน iPhone รุ่นต่อๆ ไป