ธนาคารกรุงศรีอยุธยายุคใหม่ ขอเป็นแบงก์สบายๆ ไม่แก่และเครียดเหมือนแต่ก่อน นำเสนอบริการ SMS Banking ให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลบัญชีและการเงินได้เพียงปลายนิ้วกดโทรศัพท์มือถือ
นี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแบงก์กรุงศรีฯ ที่มุ่งมั่นชนะใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่กำลังเติบโต หลังจากกลุ่ม GE ก้าวเข้ามาถือหุ้นใหญ่เมื่อกลางปีที่แล้ว ก็เริ่มปรับภาพลักษณ์ให้สมัยใหม่ งานเปิดตัวบริการ SMS Banking ในคอนเซ็ปต์ “สบาย…เงินทำอะไรก็รู้” ก็เลยต้องทำเก๋ทั้งอวดโฆษณาทีวีตัวใหม่ (TVC) ใช้ธีม “สบายๆ” พร้อมแจกโน้ตเพลงที่เป็นสื่อช่วยให้ใครๆ ก็ตามที่ได้ยินจะรู้สึกสบายและจดจำโฆษณาแบงก์กรุงศรีฯ โฉมใหม่ไปในตัว
รอยย์ กุนารา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ลูกค้าบุคคล มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้มีโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา จึงเป็นเครื่องมือช่วยให้ธนาคารเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ผนวกกับผลการวิจัยลูกค้า (C-Trans) ที่ให้ข้อมูลว่า SMS Banking จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจ เพราะสะดวกสบายและมั่นคง เพราะรู้ความเคลื่อนไหวในบัญชีได้ตลอดเวลา ตราบเท่าที่มีโทรศัพท์มือถือที่ส่งแมสเสจออกไป ส่วนธนาคารก็มั่นใจในการออกบริการใหม่แก่ลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวันดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมธุรกรรมทางการเงิน 10 รายการผ่าน SMS ของโทรศัพท์ทุกเครือข่าย เช่น แจ้งข้อมูลการเคลื่อนไหวทางการเงิน การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ฯลฯ
แม้การให้บริการส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือไม่ใช่เรื่องใหม่ ธนาคารกสิกรไทยบุกเบิกมาแล้วจาก “Balance Change Alert” แต่เมื่อมาทีหลัง ก็ต้องมีอะไร “ล้ำหน้า” กว่า ขณะที่กสิกรไทยทำได้เพียงความเคลื่อนไหวในบัญชีและการใช้บัตรเครดิต แบงก์กรุงศรีฯ ให้บริการ เช่น ตรวจสอบรายการเดินบัญชี 3 รายการล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ย ซึ่งรายการเหล่านี้คนที่ไม่ใช่ลูกค้าธนาคารก็ขอข้อมูลได้ เพียงส่ง SMS
แม้จะได้ส่วนแบ่งจากค่ายมือถือที่ลูกค้าส่งออกไป แต่ก็เพียงเล็กน้อย เพราะธนาคารต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่งแมจเสจข้อมูลกลับไปหาลูกค้า ทว่าสิ่งที่แบงก์กรุงศรีฯ อยากได้มากที่สุดก็คือ “ใจ” ของลูกค้า นอกจากนี้ยังหวังจะได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เพราะบริการ SMS Banking บางรายการไม่ได้จำกัดเพียงลูกค้าธนาคารเท่านั้น
Did you know?
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศประมาณ 2,600 เครื่อง