ไม่มีเพลง ไม่มีตลาด

สูตรแบบ Win Win Win กับรูปแบบโฆษณาที่สร้างสรรค์โดยทาวเวอร์ เรคคอร์ด ญี่ปุ่น ที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ สำหรับผู้บริโภค บริษัทที่ร่วมเป็นพันธมิตร และตัวทาวเวอร์ฯ เอง

วิธีการคือทาวเวอร์ฯ จะหาบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเสียงเพลง โดยให้สินค้านั้นโฆษณาในแพ็กเกจของซีดีเพลงที่ทาวเวอร์ฯ จำหน่าย

งานนี้ทาวเวอร์ฯ ยังร่วมกับค่ายเพลงที่ผลิตศิลปิน ที่มีแผนว่าศิลปินนั้นสามารถเชื่อมต่อกับสินค้าที่ต้องการโปรโมตโฆษณาได้ โดยโฆษณาที่ออกมาจะเสนอให้เห็นว่าศิลปินคนนั้นเป็นตัวแทนของแบรนด์ มีสินค้าและศิลปินปรากฏบนแพ็กเกจซีดี ในร้านทาวเวอร์ฯ ในนิตยสารของทาวเวอร์ฯ และร้านค้าปลีกของทาวเวอร์ฯ

อาจมีคำถามว่า แล้วประโยชน์กับลูกค้าคืออะไร คำตอบคือ ในญี่ปุ่นที่การตลาดแข่งขันกันอย่างมีคุณภาพโดยเฉพาะสินค้าที่มีโปรโมชั่นพิเศษ อย่างเช่นเมื่อทาวเวอร์ฯ ออกซีดีที่เป็น Limited Edition เพื่อสนองตอบลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี งานนี้ก็มีการใช้ตัวเลขสำหรับตอบสนองลูกค้าที่ชื่นชอบการสะสมสินค้าต่างๆ

ทาวเวอร์ฯ เริ่มโมเดลใหม่นี้ด้วยการร่วมกับไนกี้ และศิลปิน 6 คนจาก 6 ค่ายเพลง โดยโฆษณาใช้คำว่า My Music, My Force สอดคล้องไปกับสโลแกนของทาวเวอร์ฯ ที่ใช้ว่า No Music, No Life