เดือดแน่ ! “เทสโก้ โลตัส” ชู 3 กลยุทธ์ปี 59 สู้ศึกรีเทล ขยายเพิ่มอีก 65 สาขาเน้น “ไซส์เล็ก”

ท่ามกลางการแข่งขันของวงการค้าปลีกที่ดุเดือดมากขึ้นทุกปี อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคู่แข่งรายสำคัญอย่าง “บิ๊กซี” ที่ได้เข้ามาอยู่ในอณาจักรของเสี่ยเจริญ แห่งไทยเบฟเข้าแล้ว ยิ่งกระตุ้นการแข่งขันให้ร้อนระอุมากยิ่งขึ้น 

แถมยังมีกระแสข่าวมาแล้วว่า บิ๊กซี เตรียมขยายสาขาไซส์เล็ก รวมถึงการขายแฟรนไชส์ ให้ผู้สนใจลงทุนด้วย

“เทสโก้ โลตัส” ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่แห่งวงการค้าปลีกในบ้านเราจึงต้องรุกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยที่ในปี 2558 เทสโก้ โลตัสได้เปิดเผยว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่แข็งแกร่งมากที่สุดตั้งแต่ทำตลาดในประเทศไทยมา 22 ปี มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น มีจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 2 ล้านคน (นับจากจำนวนคลับการ์ด) เป็น 15 ล้านคน/สัปดาห์ ทั้งนี้เพราะการอัดงบลงทุน และอัดแคมเปญโปรโมชั่นตลอดทั้งปี

ทำให้ในปีนี้เทสโก้ โลตัสเดินหน้าลงทุนไม่น้อยกว่าปีก่อน ทั้งในเรื่องการขยายสาขา และเรื่องแคมเปญลดราคา เพราะห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตปัจจัยเรื่องราคายังเป็นสิ่งสำคัญ

ไฮไลท์ในลงทุนในปีมีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ

1. ขยายสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 65 สาขา (ไม่เปิดเผยงบลงทุน) โดยที่เน้นในร้านค้าขนาดเล็ก หรือโลตัส เอ็กซ์เพรส เพราะเซ็กเมนต์ร้านสะดวกซื้อยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขยายไฮเปอร์มาร์เก็ต จะเน้นที่ทำเลต่างจังหวัด หรือเป็นเมืองรองที่ในพื้นที่ยังไม่มีห้างค้าปลีกเปิด

รวมไปถึงการปรับปรุงสาขาเดิมอีก 18 สาขา จากปีที่แล้วปรับปรุงไป 14 สาขา เน้นเพิ่มส่วนของร้านค้า ร้านอาหาร หรือสวนสนุกเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า ซึ่งบางพื้นที่อาจจะมีการปรับเป็นโมเดลพลัสมอลล์ก็ได้ ถ้ามีพื้นที่ใหญ่มากพอ

2. ลงทุนด้านแคมเปญลดราคาสินค้า ได้ทำการปรับลดโครงสร้างราคาสินค้าแบบถาวรมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในสินค้า 3 กลุ่มด้วยกัน คือ อาหารสดถูกกว่าคู่แข่ง 25% สินค้าแม่และเด็กถูกลง 10% และขนมขบเคี้ยวถูกลง 10% ในปีนี้ได้สานต่อการปรับโครงสร้างราคา แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นสินค้ากลุ่มไหน

3.โครงการรับซื้อผลิตผลจากเกษตรกรโดยตรง ในปีนี้จะรับซื้อเพิ่มเป็น 150,000 ตัน จากเดิม 100,000 ตัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตร และให้เทสโก้เองได้มีสินค้าที่สดใหม่มากขึ้น

มร. จอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “ภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงสร้างความท้าทายให้ตลาดอยู่ แต่ในปีที่แล้วก็ทำให้เรามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ก็มีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆ กำลังซื้อค่อยกลับมาอย่างช้าๆ”

ส่วนกรณีที่บิ๊กซีเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่มบีเจซีของเสี่ยเจริญนั้น จอห์นได้ให้ความเห็นว่าคู่แข่งเพิ่งเริ่มการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ทำให้ยังไม่เห็นอะไรมาก ต้องคอยดูต่อไปเรื่อยๆ ก่อน แต่เทสโก้เองก็ต้องทำกลยุทธ์ของตัวเองให้ดีที่สุด

Open_lotus2