เพื่อรับมือกับสงคราม 4G งานนี้ทรูเลยต้องขยายแขนขาและช่องทางให้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของดีลใหญ่แห่งวงการไอทีที่โอเปอเรเตอร์อย่าง “ทรู” ได้ผนึก “คอมเซเว่น” เพิ่มช่องทางขายและบริการรวดเดียว 300 แห่ง และขยายตลาด “เครื่องพ่วงซิม”
โดยทรูจะนำเอาความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารรีเทลของคอมเซเว่นมาช่วยบริหารจัดการขายสินค้าและบริการ เหมือนเป็นการเอาต์ซอสให้ คอมเซเว่นเข้ามาช่วยจัดการร้านทรูช้อป ในเบื้องต้น จะเริ่มต้นที่ 10 สาขา จากนั้นค่อยขยายไป 166 สาขา ที่เป็นสาขาในห้างบิ๊กซี และเทสโก้โลตัส ภายใน 1 ปี ในอนาคตอาจจะมีการขยายไปครอบคลุมทรูช้อปกว่า 500 สาขา แต่ยังอยู่ในแผนต่อไป
ในขณะที่คอมเซเว่นเองก็ต้องการได้ระบบการจัดการหลังบ้าน หรือเซอร์วิสต่างๆ ของทรูเข้ามาเติมเต็ม จะมีการปรับใช้กับร้านขายปลีกภายใต้คอมเซเว่น เช่น Banana IT และอื่นๆ กว่า 300 สาขา
ส่วนทรูเอง จะมีสินค้าไปวางขายในคอมเซเว่นมากขึ้นเช่นกัน รวมไปถึงบริการจ่ายบิล เปลี่ยนซิมต่างๆ ด้วย ทางพนักงานของคอมเซเว่นก็มีการเชียร์บริการของทรูมากกว่าโอเปอเรเตอร์ค่ายอื่น ทางคอมเซเว่นก็มีสินค้า และบริการที่หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน
เท่ากับว่า ทรูจะมี “ช่องทางขาย” สินค้าและบริการรวดเดียว 300 แห่ง จากที่มีทรูช้อปอยู่แล้ว 500 สาขา รวมแล้ว 800 สาขา ซึ่งทรูช้อปเองก็จะนำโนว์ฮาวค้าปลีกไอทีของคอมเซเว่นมาช่วยเติมเต็มให้กับทรูช้อปมากขึ้น
นอกจากนี้นัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการร่วมมือกันในครั้งนี้ก็คือกลยุทธ์ “การขายเครื่องพ่วงซิม” ที่ทั้งทรูและคอมเซเว่นจะร่วมมือการผลักดันให้เพิ่มสัดส่วนมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่ซื้อจากร้านคอมเซเว่นที่ซื้อเครื่องพร้อมซิมเลยมีเพียง 10-15% เท่านั้น ซึ่งคอมเซเว่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มให้ได้ 30% ภายในปีนี้
สุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลยุทธ์การขายเครื่องพร้อมซิมจะเป็นประโยชน์มากต่อธุรกิจ ซึ่งถ้าดูจากต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว เกินกว่า 50% จะมีการขายเครื่องพร้อมซิม แต่จะมีการติดสัญญาต่างๆ แต่ในไทยพฤติกรรมยังไม่เป็นอย่างนั้น เพราะคนไทยยังกังวลเรื่องติดสัญญาการใช้ หรือใช้ไม่ครบกำหนด ทำให้มียอดจำหน่ายพร้อมซิมมีเพียง 10-15% เท่านั้น ส่วนของทางโอเปอเรเตอร์มีสัดส่วน 30% ที่จำหน่ายเครื่องพร้อมซิม ซึ่งกลยุทธ์นี้จะช่วยสร้างโอกาส และการเติบโตได้อีกเยอะ”
จากความร่วมมือนี้ คอมเซเว่นได้ตั้งเป้ารายได้ 17,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตราว 20% จาก 14,000 ล้านบาท
ได้สิทธิ์สั่งซื้อไอโฟนจากแอปเปิลเริ่ม เม.ย. นี้
ทั้งนี้เกิดจากที่ทางคอมเซเว่นเองเพิ่งได้สิทธิ์ในการสั่งสินค้าในส่วนของไอโฟนโดยตรงจากแอปเปิล เริ่มมีผลเมื่อเดือนเมษายน จากเดิมที่ต้องสั่งซื้อผ่านทางโอเปอเรเตอร์ในประเทศไทย แต่สินค้าอื่นๆ อย่างไอแพด หรอแอคเซสซอรี่อื่นๆ ได้สั่งซื้อตรงมานานแล้ว ทำให้ต่อไปคอมเซเว่นจะมีกำไรเพิ่มมากขึ้น จึงต้องเร่งการขายเครื่องพ่วงกับซิม