“ศิริมีเดีย” ผันตัวสู่บริษัทรับเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ยุคดิจิตอล หวังร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ Adobe Marketing Cloud แพลตฟอร์ม ดิจิตอล มาร์เกตติ้งครบวงจร และ Elastic Path แพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซระดับโลก หวังช่วยองค์กรไทยปรับตัวสู่ยุคดิจิตอล โดยเฉพาะใน 6 อุตสาหกรรมหลัก การเงิน สื่อ บันเทิง ภาครัฐ ค้าปลีก ท่องเที่ยว และสุขภาพ
นายสุปรีย์ ทองเพชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิริมีเดีย จำกัด กล่าวย้อนถึ การตั้งบริษัทศิริมีเดียว่า เกิดจากความต้องการเปลี่ยนผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ให้มาอยู่ในยุคของดิจิตอล ในรูปแบบของดิจิตอล แมกกาซีน เพื่อให้ตอบรับต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคเปลี่ยนผ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์เข้าสู่สื่อดิจิตอล
“สิ่งที่ศิริมีเดียทำ คือ การส่งผ่านความเชื่อที่ว่า Interactive Media ต่างหากที่จะได้รับความนิยมในสื่อดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงมาจากสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบเดิมๆ ไม่ใช่เพียงแค่การแปลงนิตยสารมาเป็นอีบุ๊ก ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ การสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่จะมาพิสูจน์ความเชื่อของศิริมีเดียว่าถือเป็นต้นแบบของสื่อดิจิตอลยุคใหม่”
ที่ผ่านมา ศิริมีเดีย มีการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่าง Maggy ที่มีความสามารถในการแปลงไฟล์พีดีเอฟเป็นรูปแบบของดิจิตอล คอนเทนต์ที่น่าสนใจ และจะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เข้ามาอ่านคอนเทนต์แต่ละประเภทว่าสนใจคอนเทนต์ประเภทไหนมากที่สุด จากนั้นเลือกนำเสนอสิ่งที่ผู้อ่านสนใจ ดังนั้น จึงถือเป็นอีกช่องทางในการสื่อสารคอนเทนต์ของสำนักพิมพ์ไปยังผู้บริโภค
ปัจจุบัน ศิริมีเดีย ให้บริการทั้งหมด 4 สาขา คือ ในประเทศไทยในภูมิภาคยุโรปที่เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ โดยเริ่มจากการเป็นบริษัทที่รับแปลงสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อดิจิตอลเพราะเห็นถึงโอกาสในการเติบโตในยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์เริ่มไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาแอปพลิเคชันไปแล้วกว่า 80 แอปพลิเคชัน มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 5 แสนครั้ง
ทั้งนี้ ศิริมีเดีย ให้บริการแปลงคอนเทนต์ที่นิ่งๆ ให้เป็นคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหว สร้าง EPUB ที่เป็นไฟล์หนังสือดิจิตอล ทำอินเทอร์ แอ็กทีฟ แมกกาซีน จนปัจจุบันเริ่มหันมาให้บริการดิจิตอล มาร์เกตติ้ง ที่เรียกว่า Digital Transformation Service เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กรให้ขึ้นไปทำธุรกิจบนระบบดิจิตอล 100% ให้ได้โดยไม่จำกัดอยู่แค่สื่อสิ่งพิมพ์ แต่รวมไปถึงบริษัทที่ต้องการเปลี่ยนจากรูปแบบการขายเดิมๆ มาทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม ดิจิตอล
“คอนเทนต์มีความสำคัญมากเพียงแต่ต้องมีการเก็บข้อมูลของผู้อ่านเพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดในธุรกิจสื่อ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุเพื่อมาคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย ให้เหมาะสมต่อโฆษณา ดังนั้น การมาของแพลตฟอร์ม ดิจิตอลที่สมบูรณ์จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ดีมากยิ่งขึ้น”
โดย 6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องมีการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอลก่อนใครคงหนีไม่พ้น กลุ่มการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิง ภาครัฐ อุตสาหกรรมค้าปลีกการท่องเที่ยว และสุขภาพเพียงแต่ที่จะเห็นได้ชัดเจนมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมค้าปลีกที่สามารถมีช่องทางอีคอมเมิร์ซในการจำหน่ายสินค้าได้ทันที
ทั้งนี้ ข้อมูลจากไอดีซี ระบุว่า ในปี 2017 องค์กรกว่า 50% ในประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงขึ้นไปอยู่บนโลกดิจิตอล ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่แค่การนำระบบเดิมที่ใช้งานขึ้นไปอยู่บนโลกดิจิตอล แต่ต้องมีการเปลี่ยนทั้งแนวคิดในการทำงาน และการนำเทคโนโลยีมาใช้
จากการที่ ศิริมีเดีย ร่วมมือกับทาง Adobe Marketing Cloud เป็นรายแรกในประเทศไทยทำให้มีเครื่องมือมากมายที่จะมาช่วยองค์กรในการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อนำมาทำตลาดในรูปแบบดิจิตอลภายใต้แนวคิดการตลาดรูปแบบใหม่คือ การเจาะเฉพาะลูกค้าแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้นด้วยการนำข้อมูลของลูกค้าแต่ละรายมาประมวลผลเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงความต้องการมากที่สุด
ประกอบกับการเป็นพาร์ตเนอร์กับ Elastic Path ที่เป็นผู้นำในระบบอีคอมเมิร์ซที่มีบริษัทในหลายอุตสาหกรรมเลือกใช้งาน เพราะมีความโดดเด่นตรงที่สามารถกำหนดเงื่อนไขในการสร้างส่วนลดเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า มีการเรียนรู้ผู้ใช้งานเพื่อนำเสนอส่วนลดให้เฉพาะราย หรือการทำ Personalized E-Commerce
เนื่องจากในปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยสูงถึง 2.4 แสนล้านบาท และมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องสูงถึง 15-20% ดังนั้น การที่จะแข่งขันในธุรกิจนี้ได้ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซต้องมีความแตกต่างจากผู้ให้บริการในปัจจุบัน ซึ่งการทำการตลาดเฉพาะบุคคลน่าจะตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุดในยุคนี้
“การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอลด้วยระบบเหล่านี้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพื่อให้แต่ละองค์กรได้ระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์ แต่ที่สำคัญคือ เป็นการลงทุนเพื่อการแข่งขันในอนาคตโดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มียักษ์ใหญ่จากจีน อย่างอาลีบาบา เริ่มเข้ามาในตลาดประเทศไทย”
นายสุปรีย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การแข่งขันในยุคดิจิตอลจะอยู่ที่ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลังเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลให้เหมาะสมแต่ละบุคคลได้มากกว่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการในการทำ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น การนำเทคโนโลยีมาช่วยก็จะทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000048641