ดูเหมือนเจ้าพ่อแห่งวงการอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon จะยังไม่พึงพอใจกับอิทธิพลยิ่งใหญ่ที่ตนเองมีอยู่ในขณะนี้ บริษัทจึงวางแผนออกผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ผ้าอ้อมเด็ก และผงซักฟอกของตัวเองออกมา
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับห้างค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่จะผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของตนเองขึ้นมา แต่ Amazon ไม่ใช่ห้างค้าปลีก ดังนั้นการเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของ Amazon รวมทั้งคู่แข่งอื่นๆ ด้วย
บริษัทจะเริ่มจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของตนเองให้กับสมาชิกกลุ่ม Prime Member ก่อนเป็นกลุ่มแรกภายใต้ชื่อแบรนด์ Happy Belly และ Mama Bear ตามรายงานจาก Wall Street Journal
ปัจจุบัน Amazon มีสินค้าประเภทอุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สำนักงาน และแม้แต่เสื้อผ้าภายใต้ชื่อแบรนด์ต่างๆ จำหน่ายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้บริษัทขยายเข้าสู่ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค
หลายคนอาจมองว่า “สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ หรือ Private Label” นั้นไม่ใช่ของใหม่ เพราะห้างค้าปลีกหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ มีสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของตัวเองกันเกือบหมด แต่ความเคลื่อนไหวของ Amazon ต่างออกไป เพราะต่อไปการเติบโตด้านค้าปลีกจะไปขยายตัวผ่านการค้าขายออนไลน์ และปัจจุบัน Amazon ครองตลาดออนไลน์ โดยการขยายตัวของอี-คอมเมิร์ชในสหรัฐกว่าครึ่งมาจาก Amazon
ดังนั้น การที่ Amazon ก้าวสู่ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคจะยิ่งทำให้บริษัทใช้อำนาจบีบซัพพลายเออร์ โดยอาจเก็บพื้นที่การวางสินค้าที่ดีภายในเว็บไซต์ไว้สำหรับสินค้าของตนเอง รวมถึงอาจใช้กลยุทธ์การตัดราคาคู่แข่งด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ Jeff Bezos อยากทำแต่ทำไม่สำเร็จมาตลอด สินค้าแบรนด์นั้นปกติแล้วจะมีสัดส่วนกำไรที่สูงเนื่องจากไม่ต้องเสียงบประมาณในการโฆษณาหรือทำการตลาดสินค้า
ลองคิดถึงความเสียหายที่ Amazon สร้างไว้กับคู่แข่งในธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรน้อย แล้วจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อบริษัทเริ่มทำกำไรจากสินค้าอย่างซีเรียลและสบู่
การขยับตัวในครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมอิทธิพลของระบบสมาชิก Amazon Prime ซึ่งเป็นโปรแกรมสมาชิกราคา 99 เหรียญต่อปีเพื่อรับสิทธิจัดส่งสินค้าฟรีตลอดปี ซึ่งระบบนี้ช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกของ Amazon
ลูกค้าที่เป็นสมาชิกแบบไพรม์ใช้เวลาบน Amazon มากกว่าคนที่ไม่ใช่สมาชิกและมีความจงรักภักดีมากกว่าด้วย เมื่อ Amazon มอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกในการซื้อสินค้าพิเศษนี้ ก็จะยิ่งทำให้สมาชิกภักดีต่อแบรนด์ยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม การกระโดดเข้าสู่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นมีความเสี่ยง และปัจจุบันสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของ Amazon ก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่หลายรายการ รวมถึงผ้าอ้อมสำเร็จรูป Element ที่ถูกเรียกคืนเนื่องจากปัญหาด้านความผิดพลาดในการผลิตหลังเปิดตัวสินค้าได้ไม่นาน
แต่ตอนนี้เมื่อ Amazon หันมาขายสินค้าที่เป็นของกินอย่างอาหารและเครื่องดื่ม ความรู้สึกแง่ลบต่อสินค้า หรือปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ จะทำให้ชื่อเสียงที่ดีที่แบรนด์สั่งสมมาถูกทำลายลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม Amazon มีข้อมูลของผู้บริโภคอยู่ในมือมากมาย บริษัทน่าจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้เพื่อให้สินค้าใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
ที่มา http://www.recode.net/2016/5/15/11680080/amazon-happy-belly-mama-bear-private-label