รอยเตอร์ – บริษัท โคคา-โคลา ระงับการผลิตเครื่องดื่ม “โค้ก” ในเวเนซุเอลาชั่วคราว เนื่องจากเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำตาล โฆษกหญิงของบริษัทซอฟต์ดริงก์รายใหญ่ของโลกแถลงวานนี้ (23 พ.ค.)
เศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึงวิกฤตขาดแคลนอาหาร ไฟฟ้าดับ และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงลิ่วเป็นอันดับ 1 ของโลก กระตุ้นให้ชาวเวเนซุเอลาออกมาแสดงพลังประท้วงรัฐบาล และเกิดการปล้นชิงทรัพย์สินบ่อยครั้ง
เคร์รี เทรสเลอร์ โฆษหญิงของโคคา-โคลา ให้สัมภาษณ์ทางอีเมลว่า บริษัทจะงดผลิตเครื่องดื่มผสมน้ำตาลทุกชนิด ส่วนเครื่องดื่มไดเอต เช่น โค้กไลท์ หรือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลอื่นๆ จะยังคงผลิตตามปกติ
“บริษัทซัปพลายเออร์น้ำตาลในเวเนซุเอลาแจ้งมาว่า พวกเขาต้องปิดกิจการชั่วคราว เพราะขาดแคลนวัตถุดิบ” เทรสเลอร์กล่าวเสริม
โคคา-โคลา เฟมซา เอสเอบี ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุขวดโค้กรายใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา และมีโรงงานถึง 4 แห่งในเวเนซุเอลา แถลงด้วยว่า บริษัทหวังว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลในเวเนซุเอลาจะฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ “ในระยะเวลาอันใกล้”
บริษัทแห่งนี้เป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง โคคา-โคลา กับ เฟมซา ของเม็กซิโก และมีรายได้จากการจำหน่ายโค้กในเวเนซุเอลาราว 7%
ผลผลิตอ้อยในเวเนซุเอลาลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น มาตรการควบคุมราคาสินค้า ต้นทุนการผลิตที่สูง ความขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ข้อจำกัดในกฎหมายแรงงาน และความขาดแคลนวัตถุดิบพื้นฐาน เช่น ปุ๋ย
เกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่หันไปเพาะปลูกพืชชนิดอื่นๆ ที่ไม่มีการควบคุมราคา ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้ผลกำไรมากขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่า ผลผลิตอ้อยในเวเนซุเอลาคาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 430,000 ตันในช่วงปี 2016/17 ลดลงจากระดับ 450,000 ตันในปีที่แล้ว และรัฐบาลจะต้องนำเข้าน้ำตาลดิบและน้ำตาลทรายจากต่างประเทศราว 850,000 ตัน
ที่มา: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000051882