จากประเทศที่เคยยิ่งใหญ่ในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันโด่งดัง มาในวันนี้ ฟินแลนด์ กำลังเผชิญต่อปัญหาการว่างงานที่สูงมากถึง 9 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมไอทีเสียเป็นส่วนใหญ่ แถมมีรายงานด้วยว่า รัฐบาลของฟินแลนด์ไม่พอใจไมโครซอฟท์ (Microsoft) อย่างมากที่ตัดสินใจยุติการทำธุรกิจสมาร์ทโฟน และปลดพนักงานออกโดยไม่ให้ความช่วยเหลือแก่อดีตพนักงานอย่างเพียงพอ
โดยในปัจจุบัน รัฐบาลฟินแลนด์ กำลังประสบปัญหาอย่างมากต่อการหางานที่เหมาะสมให้อดีตนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของโนเกียหลายพันคนที่กำลังว่างงานเหล่านั้น เนื่องจากทักษะที่พวกเขามีไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไปสำหรับการทำงานในยุคที่สตาร์ทอัปเฟื่องฟูเป็นดอกเห็ด
กระทั่งบริษัทผู้พัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถือของคนฟินแลนด์ด้วยกันเองอย่าง Supercell ที่สามารถสร้างมูลค่าแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็นผลสำเร็จ และมีพนักงานเพียง 180 ชีวิต ก็ยังไม่มีตำแหน่งให้อดีตพนักงานโนเกียเข้าร่วมทีมด้วยแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีทักษะตามที่บริษัทต้องการ
โดย Ilkka Paananen ซีอีโอ ของ Supercell เผยว่า การต้องจ้างคนที่ไม่ตรงต่อความต้องการของบริษัทจะนำมาซึ่งความเสี่ยงอย่างมาก
การตัดสินใจถอนตัวจากธุรกิจผลิตโทรศัพท์มือถือ และการขาดตำแหน่งงานรองรับคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อัตราการว่างงานของฟินแลนด์ทุกวันนี้สูงถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไมโครซอฟท์ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลฟินแลนด์อย่างมาก และรัฐบาลได้มีคำสั่งให้ไมโครซอฟท์หางานให้แก่ผู้ที่ถูกเลิกจ้าง หรือช่วยเหลือคนเหล่านั้นในการสร้างธุรกิจของตนเองแทน
ผลก็คือ โนเกีย และไมโครซอฟท์ได้เพิ่มการอบรมลงไปในโปรแกรมสำหรับผู้ถูกเลิกจ้าง โดยมีภาครัฐร่วมสนับสนุนเงินบางส่วน
โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ฟินแลนด์ระบุว่า ในอุตสาหกรรมไอทีของฟินแลนด์นั้นมีความต้องการโปรแกรมเมอร์สูงถึง 7,000 ตำแหน่ง แต่ส่วนมากเป็นสตาร์ทอัปขนาดเล็กซึ่งต้องการคนที่มีทักษะเฉพาะด้าน และสามารถเริ่มงานได้เลยโดยที่ไม่ต้องส่งไปฝึกอบรมก่อน ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติที่อดีตพนักงานโนเกียมีแต่อย่างใด อีกทั้งการทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้หลายคนไม่สามารถปรับตัวได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจสตาร์ทอัปด้วย
ผลก็คือ สตาร์ทอัปในฟินแลนด์จึงให้ความสนใจต่อกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามากกว่าจะมองไปที่อดีตพนักงานโนเกีย แต่นักศึกษาจบใหม่เหล่านั้นก็มักได้ข้อเสนอดีๆ จากซิลิคอน วัลเลย์ เยอรมนี หรือสิงคโปร์แย่งตัวไปทำงานอีกต่อหนึ่ง ทำให้ปัญหาขาดแคลนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในฟินแลนด์ยังคงดำเนินต่อไปไม่มีวันจบสิ้น
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000059676
