เจาะกลยุทธ์ “เอไอเอส” ส่ง ZEED SIM” เจาะกลุ่ม Gen Y เน้นใช้ดาต้า

ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการแข่งขันของโอเปอเรเตอร์จะมุ่งไปในเรื่องของดีไวซ์ และแพ็กเกจรายเดือนในระบบโพสท์เพด แต่ว่าระบบเติมเงินหรือพรีเพดก็ยังคงกินตลาดใหญ่อยู่ เพราะยังมีกลุ่มผู้ใช้ที่คำนึงเรื่องราคาอยู่ ทางโอเปอเรเตอร์จึงต้องสร้างสีสันด้วยการออกโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับเอไอเอสที่มีระบบพรีเพดในแบรนด์ “วัน-ทู-คอล” ที่ทำตลาดมา 17 ปีแล้ว ได้วางจุดยืนเป็นแบรนด์ที่วัยรุ่นกว่าระบบโพสท์เพด และเจาะกลุ่มวันรุ่นมากขึ้น เอไอเอสมีฐานลูกค้ารวมทั้งหมด 38 ล้านราย เป็นระบบพรีเพด 33 ล้านราย และเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้งานราว 7-8 ล้านราย

เอไอเอสใช้กลยุทธ์ในการเจาะเซ็กเมนต์ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละกลุ่ม ปัจจุบันมี 3 กลุ่มด้วยกัน 1. Traveller sim สำหรับนักท่องเที่ยว 2. Hello Asia Sim สำหรับคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เช่น พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น และ 3. Zeed Sim สำหรับกลุ่มวัยรุ่น  ส่วนที่เหลือเป็นซิมแมสทั่วไปไม่ได้เจาะโปรโมชั่นเฉพาะ

ในปีนี้เอไอเอสได้ได้ปรับจาก Zeed Sim เดิมที่ได้ออกเมื่อปีที่แล้ว เป็น Zeed Sim 4G Youtube ตอบรับพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่เน้นใช้ดาต้าเยอะกว่าการโทร

ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและงานขาย กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “ระบบพรีเพดเป็นตลาดแมสเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในตอนนี้ เซ็กเมนต์หลักของเราก็คือกลุ่มวัยรุ่นที่ถือว่าสร้างรายได้หลักให้กับวัน-ทู-คอล มองว่าการแข่งขันของระบบพรีเพดในปีนี้จะเป็นการแข่งขันแบบผสมผสาน ทั้งการดึงลูกค้าด้วยการใช้ดีไวซ์ และการเจาะเซ็กเมนต์ลงไป”

ใน Zeed Sim ปีนี้เน้นในเรื่องของการใช้ Youtube เพราะด้วยการมาของ 4G จะเป็นตัวกระตุ้นในการใช้ดาต้าในการดูคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ และสตรีมมิ่งต่างๆ พฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นก็ชอบดูยูทิวบ์อยู่แล้วด้วย เป็นการปรับจาก Zeed Sim ในปีที่แล้วที่เน้นในเรื่องของโซเชียลมีเดีย

กลุ่มวัยรุ่นมีการใช้ดาต้าเฉลี่ย 2.1 GB/เดือน มากกว่ากลุ่มบุคคลทั่วไปที่ใช้ 2 GB/เดือน แต่มี ARPU ในการใช้งานน้อยกว่า กลุ่มวัยรุ่นเฉลี่ย 187 บาท/เดือน และคนทั่วไปเฉลี่ย 194 บาท/เดือน

เอไอเอสได้ใช้งบลงทุน 30 ล้านบาทสำหรับการทำตลาดพรีเพดทั้งปี และตั้งเป้ามีลูกค้าใหม่จาก Zeed Sim ในครั้งนี้เพิ่มขึ้นอีก 1.5 ล้านรายภายในสิ้นปี จากปัจจุบันมีอยู่ 2 ล้านราย

และตั้งเป้าลูกค้า 4G จำนวน 10 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีอยู่ 7.3 ล้านราย

ดึง 4 เน็ตไอดอล เป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวแทนวัยรุ่น

ในแคมเปญนี้ได้เปิดตัวพร้อม 4 พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นเน็ตไอดอล ได้แก่ พลอยชมพู-ญานนีน Youtuber ที่โด่งดังจากการร้องเพลง Cover จนได้เป็นศิลปินเต็มตัว ตอนนี้มีคนติดตามในอินตราแกรมกว่า 7 แสนยูสเซอร์, พิมฐา-ฐานิดา เน็ตไอดอลที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ เติบโตจากอินสตราแกรมที่มีผู้ติดตามกว่า 2.1 ล้านยูสเซอร์ ตอนนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ามากมาย, เมฆ-จิรกิตติ์ นักแสดงจากซีรีส์รักนะเป็ดโง่ มีคนติดตามในอินสตาแกรมกว่า 5 แสนยูสเซอร์ และมาร์ค-ธนัท ศิลปินจากค่ายกามิกาเซ่ มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 4 แสนยูสเซอร์

1_ais

สาเหตุที่ในครั้งนี้ได้ใช้พรีเซ็นเตอรืถึง 4 คน เพราะให้ตัวแทนคอนเทนต์ด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น เพื่อเป็นตัวแทนคุยกับคนรุ่นใหม่ การจะพูดคุยกับคนกลุ่มนี้ต้องเข้าใจในพฤติกรรมของเขา เพื่อกระตุ้นการใช้งานของผู้บริโภคให้มากขึ้นด้วย

ยังได้ต่อยอดแคมเปญออนไลน์ “ZEED for YouTuber” ผ่านแนวคิด Now or Never ไม่ทำ ไม่เกิด เป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตนเองชอบ และแจ้งเกิดเป็น YouTuber ให้ส่งผลงานอัดคลิปวิดีโอเข้ามา เพื่อลุ้นไปดูงานที่ออฟฟิศ Google ที่ประเทศสิงคโปร์ และเข้าร่วม YouTube Space Workshop ที่ไทยด้วย

แคมเปญนี้ได้เน้นการสื่อสารบนโลกออนไลน์เป็นหลักถึง 80% เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่ใช้ชีวิตออนไลน์ การทำกิจกรรมต่างๆ ก็ทำผ่านโลกออนไลน์หลัก เช่น ใช้เครื่องมือการสตรีมมิ่งผ่านยูทิวบ์ในการถ่ายทอดสดกิจกรรม

info_ais1