ร้านขนมดัง “อาฟเตอร์ ยู” ยื่นเข้าตลาดหุ้น ระดมเงิน เปิดสาขา 25-30 แห่ง ปี ’61

อาฟเตอร์ยูร้านขนมหวานยอดฮิต ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุน ด้วยการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) นำเงินใช้หนี้ ขยายสาขา 25-30 แห่ง ปี 2561

  • เสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป หรือ IPO จำนวน 240 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของหุ้นสามัญ ราคาพาร์หุ้นละ 0.10 บาท
  • หุ้น IPO ที่ขาย แบ่งเป็นขายให้ประชาชน 236,500,000 หุ้น โดยให้รวมถึงการเสนอขายให้แก่ นายธีรพงษ์ จันศิริ และนายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ผู้ให้กู้ของบริษัทฯ และ/หรือบุคคลอื่นที่นายธีรพงษ์ จันศิริ และนายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ มอบสิทธิให้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญากู้เงิน
  • หุ้นสามัญเพิ่มทุน 1,500,000 หุ้น เสนอขายกรรมการของบริษัทฯ ราคาเดียวกับประชาชน
  • หุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,000,000 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทฯ

ขายหุ้นเอาเงินไปทำอะไร

  • ใช้ขยายธุรกิจ เช่น ขยายสาขาในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดตามแผนงานที่ได้ตั้งไว้
  • ขยายกำลังการผลิต พร้อมกับขยายสายการผลิตในกลุ่มขนมหวาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • ลดต้นทุนการผลิตโดยนำเครื่องจักรและอุปกรณ์มาใช้ในโรงงานผลิตแห่งใหม่มากขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการผลิตสินค้า ติดตั้งและปรับปรุงระบบไอทีและบัญชี
  • สร้างศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน และศูนย์กระจายสินค้า
  • ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

อาฟเตอร์ ยู มีธุรกิจอะไรบ้าง

  • ร้านขนมหวานอาฟเตอร์ยู และร้านเมโกร และบริการจัดงานนอกสถานที่ และรับจ้างผลิต
  • ปัจจุบันอาฟเตอร์ ยู มี 16-17 สาขา เฉลี่ยเปิดเพิ่มปีละ 3-5 สาขา ใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 3 ล้านบาท 
  • ขนมที่ทำขึ้น 80% จะทำมาจากระบบครัวกลาง และอีก 20% จะทำที่หน้าร้าน
  • มีบริษัทย่อย คือ บริษัท ออรั่ม แอนด์ ออรั่ม จำกัด ดำเนินธุรกิจซื้อขาย นำเข้าวัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการผลิต

แผนธุรกิจ 1-3 ปี

  1. ขยายสาขาร้านขนมหวานทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ และมีกำลังซื้อสูง รวมทั้งสิ้น 25-30 สาขา ภายในปี 2561
  2. ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และขยายสายผลิตภัณฑ์สินค้า รวมถึงการขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่นในภูมิภาค โดยสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัทฯ ในอนาคต มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ
  3. ก่อสร้างสำนักงานใหม่ และศูนย์กระจายสินค้า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจขนมหวานและเบเกอรี่แบบครบวงจร โดยมีแผนที่จะก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่ที่เขตสวนหลวง ใช้เป็นทั้งสถานฝึกอบรมพนักงาน และศูนย์กระจายสินค้า คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้าง 60-70 ล้านบาท สร้างเสร็จ มิ.ย. 2560
  4. ลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการผลิตในโรงงานผลิต ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งใช้งบประมาณลงทุนก่อสร้างไปแล้ว 160 ล้านบาท

รายได้

ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2559 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2559)

  • มีสินทรัพย์รวม 386 ล้านบาท หนี้สินรวม 299.4 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 86.6 ล้านบาท
  • รายได้รวม 138.8 ล้านบาท และกำไร 26.1 ล้านบาท

ก่อนขายหุ้น

ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 56 ล้านบาท แบ่งเป็น 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.1 บาท

หลังขายหุ้น

จะมีทุนจดทะเบียน และเรียกชำระแล้ว 80 ล้านบาท แบ่งเป็น 800 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.1 บาท

สัดส่วนถือหุ้น

  • ก่อนขายหุ้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กลุ่ม น.ส.กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ถือหุ้น 55%, นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ ถือหุ้น 252 ล้านหุ้น คิดเป็น 45% (ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559)
  • หลังขายหุ้น น.ส.กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 38.5% นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ 31.5%

1_after_you_new