ลูกค้าโกลาหล หลัง Ensogo ปิดตัวเงียบ ไร้คำชี้แจง

สะเทือนหนัก ลูกค้าโกลาหล Ensogo ปิดกิจการกระทันหัน ไม่บอกล่วงหน้า ไร้คำชี้แจง รวมตัวตั้งเพจรวมผู้ได้รับผลกระทบ ensogo” ขณะที่ร้านค้า เจ้าของสินค้า ตกชะตากรรมเดียวกัน

หลังจากที่เว็บดีล Ensogo ได้ตัดสินใจปิดกิจการกระทันหันในอาเชียนรวมทั้งในระเทศไทยโดยไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าล่วงหน้าได้สร้างความโกลาหลให้กับลูกค้าที่ซื้อดีลหรือคูปองไปแล้วจะยังคงนำไปใช้บริการในร้านค้าต่างๆได้หรือไม่

จนถึงเวลานี้ ลูกค้ายังไม่ได้รับคำตอบหรือความชัดเจนจากทาง Ensogo ว่าจะได้รับเงินคืน หรือยังคงนำไปใช้บริการจากร้านค้า โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ ได้หรือไม่ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ทั้งทางโทรศัพท์ เฟซบุ๊กของ Ensogo

1_ensogo

นอกจากจะมีตั้งกระทู้ขึ้นใน Pantip แล้ว ว่าดีลที่สั่งไว้ สินค้าที่เอาไปเคลมจะได้รับคืนหรือไม่ล่าสุดยังได้มีการรวมตัวกันตั้งเฟซบุ๊กเพจรวมผู้ได้รับผลกระทบensogo หรือ facebook/SosadEnsogo” ขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าต่างๆว่าดีลที่ลูกค้าซื้อไปนั้นสามารถนำไปใช้ในร้านค้าหรือสถานบริการใดบ้างและควรแก้ไขปัญหากันอย่างไร

2_ensogo

แอดมินของเพจ ระบุว่า เพจนี้ถูกขึ้นเพื่อรวมกลุ่มผู้ซื้อดีลที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อดีล แล้ว ณ.วันนี้ทราบว่า ไม่สามารถใช้ดีลนั้นๆได้ เลยถือว่าเป็นการรวมตัวกันเผื่ออนาคตเกิดการได้รับผลกระทบ แอดมินไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียง หรือให้ร้ายทาง Ensogo ใดๆ ต้องการรอการประสานการดูแล หรือชี้แจงสถานะความเชื่อมั่นของ Ensogo ตลอดเวลา แต่หากไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ หรือ ได้รับการยืนยันว่ามีการผิดเงื่อนไขการบริการที่เคยให้ไว้ในเงื่อนไขดีลที่จำหน่าย ทางแอดมินจะขอใช้เพจเล็กๆที่สร้างนี้ เป็นการรวมตัวเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบ ที่เราๆ และลูกเพจได้รับผลกระทบต่อไป

ปรากฎว่าทางเพจ ได้รวบรวมร้านหลายแห่งที่แจ้งในเฟซบุ๊กว่า ไม่สามารถใช้บริการ จนกว่าจะมีประกาศ และได้รับติดต่อจากทาง Ensogo ประเทศไทย

ร้านฮาร์ดร็อกคาเฟ่ ได้แจ้งผ่านเพจว่างดรับคูปองทุกชนิดจากเว็บไซต์ ensogo.co.th ตั้งแต่เวลานี้เป็นไป เนื่องจากไม่สามารถเข้าระบบ Merchant ของ Ensogo ได้ และทางเรายังไม่สามารถติดต่อ Ensogo ได้เลยตั้งแต่ที่มีข่าวออกมาว่า Ensogo ได้ปิดกิจการแล้ว

3_ensogo

เช่น โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กเพจว่าโรงแรมขออนุญาตงดรับ vocher ของ Ensogo ชั่วคราว จนกว่าจะมีการชี้แจงจาก Ensogo นะคะ เนื่องจากทาง Ensogo ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเรื่องการปิดตัว รวมถึงไม่มีการชี้แจงใดๆทั้งสิ้น

4_ensogo

เช่นเดียวกับโรงแรม โนโวเทล บางนา ได้แจ้งว่า คูปอง บุพเฟ่ต์นานาชาติ ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ที่ร่วมกับ Ensogo ไม่สามารถรับคูปองได้ จนกว่าจะมีประกาศและติดต่อจากทาง Ensogo ประเทศไทย

6_ensogo

ร้าน Galleria Ten Bangkok ชี้แจงว่าสำหรับลูกค้าที่ซื้อดีลของ Ensogo โปรโมชั่นบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นของโรงแรมฯ ว่าไม่สามารถนำคูปองมาใช้ได้ มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (21 มิถุนายน) เนื่องจาก Ensogo ได้ปิดตัวลงไปเมื่อบ่ายวันนี้

7_ensogo

ส่วนทางด้าน ร้านเบเกอรี่ดังจากอังกฤษ PAUL ประเทศไทย แจ้งในเพจว่า ลูกค้ายังคงใช้คูปอง Ensogo ได้ปกติ  จากการที่ Paul Thailand ได้ทำกิจกรรมขายคูปอง Set Menu ลด 33% ร่วมกับบริษัท Ensogo ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 

ลูกค้าคงจะได้ทราบข่าวแล้วว่า ทาง Ensogo ได้ปิดบริษัท และยกเลิกการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งส่งผลกระทบเสียหายไปสู่คุณลูกค้าในวงกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นรายได้ที่ Ensogo เก็บเงินไปจากลูกค้าที่ซื้อดีลไปนั้น ก็ยังมิได้มีการจ่ายคืนกลับมาให้ Paul Thailand ใดๆ ทั้งสิ้น”

ร้านพอล ยังแจ้งด้วยว่า ให้ลูกค้าโทรไปยังสาขาเพื่อตรวจสอบจำนวนลูกค้าก่อนใช้บริการ โดยลูกค้าจะยังคงใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม นี้

8_ensogo

ในขณะที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ซีนีม่า ร้านพิซซ่า คอมปานี ยังคงให้ลูกค้าใช้ดีลได้ตามปกติ

ลูกค้า/ร้านค้า ชะตากรรมเดียวกัน

ไม่เพียงลูกค้าที่ต้องผจญคำถามที่ไร้คำตอบในขณะนี้ แต่ผู้ค้าที่เป็นเจ้าของสินค้า และบริการ ซึ่งจำหน่ายดีลผ่าน Ensogo จำนวนไม่น้อยก็ตกในชะตากรรมเดียวกัน ส่วนใหญ่ “https://www.facebook.com/EnsogoTH” แสดงความกังวลว่า อาจไม่ได้รับเงินจาก Ensogo ทั้งที่จัดส่งสินค้า หรือให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว เบื้องต้นพบผู้ค้าในสิงคโปร์ และมาเลเซียล้วนตกที่นั่งเดียวกัน และเริ่มร้องเรียนต่อสื่อมวลชนมานานหลายเดือนแล้วว่า ได้รับเงินจาก Ensogo ล่าช้าเกินจะรับไหว แถมบริษัทยังเงียบเป็นเป่าสากอยู่นานกว่าจะยอมชี้แจง

 

ต้องรีบระงับ?

ในขณะที่ยังไม่มีแถลงการณ์ที่ชัดเจนจาก Ensogo ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับดีลที่ลูกค้าซื้อไปแล้วยังไม่ได้ใช้งานในขณะนี้ หลายเสียงแนะนำให้ผู้ที่เพิ่งจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือการโอนเงินชำระค่าดีล ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั้น เพื่อขอระงับการเรียกเก็บ หรือขอเรียกเงินคืน ซึ่งอาจสามารถทำได้ เพราะสถานะการของผู้ให้บริการนั้นไม่น่าเชื่อถือ 

แต่กรณีของผู้ที่ซื้อดีลไปเป็นเวลานานแล้ว การระงับการจ่ายเงินย่อมไม่สามารถทำได้ สิ่งที่หลายคนเลือกทำขณะนี้ คือ การตรวจสอบกับผู้ให้บริการสินค้า หรือบริการนั้นโดยตรง ซึ่งคำตอบที่ได้ยังหลากหลาย และไร้ข้อสรุป เนื่องจากบางแห่งยังเปิดให้บริการตามดีล Ensogo ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่บางรายปฏิเสธ และบางรายระบุว่า จะให้คำตอบได้เมื่อผ่านการประชุมผู้บริหารอย่างเป็นทางการ

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร้านค้า หรือสถานบริการปฏิเสธให้บริการตามเงื่อนไขในดีลของ Ensogo คือ ความล่าช้าของการรับเงินจาก Ensogo ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาเดียวกับที่ผู้ค้าในสิงคโปร์ และมาเลเซียพบ ทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่เพียงขาดสภาพคล่อง แต่ยังรู้สึกไม่พอใจ เพราะไม่ได้รับคำชี้แจงจาก Ensogo จากทุกช่องทาง

ไม่เพียงกรณีการปิดบริการ และสาขาสำนักงานของ Ensogo ที่ผู้ค้า และผู้จัดการโรงแรมหลายแห่งในสิงคโปร์ และมาเลเซีย ระบุว่า ไม่ได้รับแจ้งข้อมูลมาก่อน แต่ยังมีการหยุดเสนอดีลโดยที่ไม่แจ้งแก่ผู้ค้าล่วงหน้า สร้างความงงงวยให้กับผู้ค้าเจ้าของสินค้า และบริการเหล่านี้ที่ยังไม่ได้รับเงินใดๆ จาก Ensogo แม้ว่าจะให้บริการลูกค้าไปแล้วเรียบร้อย

ตัวอย่างเช่น ออเดรย์ เฉิน ผู้ค้ากระเป๋าวัย 23 ปีที่ระบุว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากวางจำหน่ายกระเป๋ากับ Ensogo นาน 2 เดือนครึ่ง กระเป๋าของเธอถูกปลดออกจากรายการสินค้าบน Ensogo สิงคโปร์ ในขณะนั้น Ensogo ค้างชำระเงินให้เธอมูลค่า 300 เหรียญสหรัฐ และไม่ตอบกลับอีเมล หรือให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ ทุกอย่างยังไร้การตอบสนองเมื่อเธอบุกไปทวงถามถึงสำนักงาน ก่อนจะลงมือโพสต์บนเฟซบุ๊ก ในที่สุดเธอจึงได้รับเงินคืนในวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

กรณีนี้สะท้อนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ค้าไทยอาจจะต้องรอเวลานานกว่าจะได้รับเงินที่ Ensogo ค้างชำระอยู่ ปัญหานี้เองที่ทำให้ลูกค้า ซึ่งเป็นผู้บริโภคตาดำที่ซื้อดีลไปอาจไม่สามารถใช้ดีลได้

อัพเดทค่ะ ร้านนะราทิพย์ เงิน ใช้ไม่ได้แล้วนะคะ โทรไปหาเจ้าของร้านมา เราว่าเราแย่แล้ว เจ้าของโดนเยอะกว่ามาก คูปอง 500 กว่าใบยังไม่ได้เงินเลยหนึ่งในความเห็นที่ถูกโพสต์บนเพจเฟซบุ๊กของ Ensogo ระบุ

แนะลูกค้าอดทนรอชี้แจง

นอกจากผู้ค้าที่ต้องรอเงิน ลูกค้า Ensogo ในไทยอาจต้องอดทนรอการชี้แจงจาก Ensogo ด้วย จุดนี้มีความเป็นไปได้ที่ Ensogo จะเดินตามนโยบายเยียวยาที่กรุ้ปปอน (Groupon) คู่แข่งบริการดีล ซึ่งปิดตัวไปก่อนหน้านี้เคยแจ้งกับลูกค้า ขณะเดียวกัน ก็อาจจะโฉดกว่าด้วยการกระทำที่ไม่เป็นธรรมเท่า

การตัดสินใจปิดกิจการในประเทศไทยของ Groupon ครั้งนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2558 โดยวันดังกล่าวเป็นวันที่กรุ้ปปอนประเทศไทยหยุดเสนอดีลในเว็บไซต์แล้ว กรุ้ปปอนใช้วิธีแบ่งส่วนการชี้แจงข้อมูลต่อลูกค้าเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนผู้ซื้อเวาเชอร์ (voucher) ในประเทศ และท่องเที่ยว (Local&Getaways Vouncher) และส่วนผู้ซื้อสินค้า

Groupon ระบุในครั้งนั้นว่า ลูกค้าที่ซื้อ voucher สำหรับบริการในประเทศ หรือท่องเที่ยว ซึ่งยังไม่ได้นำไปใช้ และยังคงมีผลสมบูรณ์อยู่ โดย voucher ดังกล่าวจะยังคงมีผลสมบูรณ์จนถึงวันที่กำหนดไว้ แต่หากใครประสงค์ขอรับเงินคืนตามราคาใน voucher ก็สามารถทำได้ด้วยการส่งอีเมลที่ [email protected] ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2558

สำหรับผู้ซื้อสินค้า รายการสินค้าที่สั่งซื้อไว้จะได้รับการดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์ แต่หากไม่ได้รับสินค้าตามระยะที่ระบุในดีล สามารถติดต่อที่ [email protected] ก่อน 31 ตุลาคม 2558 หรือ 1 เดือนหลังการประกาศปิดกิจการ

กรอบเวลา 1 เดือนถูกกำหนดไว้สำหรับผู้ต้องการคืนสินค้า และการขอความช่วยเหลือใดเพิ่มเติม ทั้งหมดนี้ Groupon เผื่อเวลาไว้อีก 3 เดือน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกรุ้ปปอนประเทศไทยได้จนถึง 31 ธันวาคม 2558

หาก Ensogo เลือกเดินตามบรรทัดฐานของ Groupon เงื่อนไขเหล่านี้อาจถูกประกาศเพื่อให้ลูกค้า Ensogo มั่นใจว่า ยังสามารถติดตามขอความช่วยเหลือจาก Ensogo ได้อยู่ แต่หากไม่ ผู้บริโภคอาจต้องทนรับสภาพ เพราะข้อจำกัดด้านกฎหมายที่ยังมีช่องโหว่

อาจฟ้องไม่ได้?

อีกปัญหาที่ยังรอความกระจ่าง คือ ใครควรรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจาก Ensogo เป็นผู้ประกอบการค้าดีลรายวัน หรือ Daily deal รูปแบบอีคอมเมิร์ซหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ประเภทนี้จะไม่ได้ขายสินค้าเอง แต่จำหน่ายคูปองโปรโมชันลดราคาพิเศษสำหรับสินค้า บริการ ท่องเที่ยว และร้านอาหาร โดยวางหมากดึงดูดนักชอปด้วยกรอบเวลาที่บีบให้ต้องตัดสินใจซื้อภายในช่วงเวลาจำกัด (เช่น 24 หรือ 72 ชั่วโมง) ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าได้เลือกโปรโมชันที่พึงพอใจ พร้อมกับร้านค้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ร้านโดยไม่ต้องลงทุนสูงเพื่อลงโฆษณา ขณะที่ตัวกลางอย่าง Ensogo ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายคูปอง

อย่างไรก็ตาม ปัญหากลับเกิดขึ้นเมื่อร้านค้าเริ่มรู้สึกถึงความไม่คุ้มค่ากับการให้ส่วนลดในดีล รวมถึงการไม่พอใจกับความล่าช้าในการรับเงินจากเว็บไซต์ผู้ขายดีล เมื่อร้านลดคุณภาพบริการลง ผู้บริโภคจึงไม่พอใจ และไม่ซื้อดีลอย่างเคย ซึ่งเว็บไซต์ผู้ขายดีลจึงได้รับผลกระทบอย่างเป็นลูกโซ่

ประเด็นนี้เองที่ทำให้ผู้บริโภคหลายคนไม่เข้าใจว่า หากซื้อคูปองมาแล้ว ผู้ใช้เป็นเจ้าหนี้ใครระหว่าง Ensogo หรือร้านค้าที่มีชื่อติดในดีล การหาผู้รับผิดนี้จะพิสูจน์อย่างไรหากระบบปิดไป และไม่สามารถดึงข้อมูลเพิ่ม ทั้งหมดนี้มีความเป็นไปได้ว่า ร้านค้าส่วนใหญ่อาจหยุดรับดีล เพราะไม่อยากเป็นเจ้าหนี้เพิ่ม

สรุปแล้ว ผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย คือ ผู้บริโภคที่ซื้อดีล Ensogo และร้านค้าที่เข้าร่วมทำสัญญากับ Ensogo และตัว Ensogo เองจะต้องทำการบ้านอย่างหนักกับการตรวจดูสัญญาระหว่าง Ensogo ที่ทำไว้กับทุกคน โดยเฉพาะประเด็นว่า Ensogo มีหน้าที่ หรือบทบาทอย่างไรในสัญญาขายดีลนี้ สัญญาที่หลายคนไม่เคยเห็นนี้เองที่ทำให้ไม่มีใครกล้าฟันธงว่า ความรับผิดของปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นเช่นไร

ทั้งหมดทั้งมวลจะชัดเจนขึ้นแน่นอนเมื่อ Ensogo แถลงอย่างเป็นทางการ.