เรื่องโดย : สโรจ เลาหศิริ – Rabbit’s Tale/ Moonshot Digital
จากคราวที่แล้วที่ผมได้อธิบายไปถึงการทำ Digital Marketing และเกริ่นถึงการทำ Digital Transformation 3 ประการไปแล้ว คงเป็นคำถามในใจหลายๆ เจ้าของกิจการ SMEs ที่วันนี้ เราต่างก็ตื่นตัวและรู้ว่าเราต้องหันมาสนใจการทำการตลาดในยุคดิจิทัล และหลายท่านคงอยากจะเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโมเดลธุรกิจ กระบวนการทำงาน หรือการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์กับลูกค้า เพียงแต่ปัญหาหลายๆ ครั้งที่ต้องคิดกัน คือ ควรจะจ้างเอเจนซี่ หรือ ทำเองดี ?
วันนี้ขอมาลองวิเคราะห์และชี้แจงถึง ข้อดี และ ข้อเสียของการใช้เอเจนซี่ กับการสร้างทีมเอง มีอะไรบ้าง และคำแนะนำว่าเมื่อไหร่ควรจะใช้หรือไม่ใช้
การจ้างดิจิทัลเอเจนซี่เฉพาะทาง จะเหมาะสำหรับกิจการที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในทันที และต้องการ มุมมองจากมืออาชีพที่มองจากมุมด้านนอกและเห็นตลาด หรือผ่านประสบการณ์งานหลายแบบมามากกว่าเรา ดิจิทัลเอเจนซี่มีอยู่หลายแบบ เช่น
Full Service Digital Agency
เอเจนซี่โฆษณาครบวงจร ที่มีตั้งแต่ทีมวางแผนกลยุทธ์ ทีมครีเอทีฟ ทีมมีเดีย ทีมโซเชียลและคอนเทนต์ และมีทีมเซอร์วิสลูกค้า รับทำตั้งแต่การวางแผนและผลิตชิ้นงานออกมา เป็นเอเจนซี่ครบวงจรที่เหมาะสำหรับการทำแคมเปญใหญ่ๆ หรือ การหา Marketing Solution ขององค์กร
Boutique Digital Agency
ดิจิทัลเอเจนซี่ขนาดเล็กถึงกลาง ที่มีความถนัดเฉพาะทางโดยส่วนใหญ่จะเป็นความถนัดสายครีเอทีฟ เป็นที่ปรึกษา หรืออาจจะเป็นแนวดูแลโซเชียลมีเดีย กลุ่มนี้จะมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง แต่ก็จะไม่ได้มีบริการครบทุกด้าน หรือถนัดเฉพาะด้าน โดยอาจจะต้องไปใช้งานซัพพลายเออร์เจ้าอื่นต่อ
Digital Production Agency
เป็นเอเจนซี่ที่เน้นไปในด้านการผลิตชิ้นงาน ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น วิดีโอ หรือคอนเทนต์แบบต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะรับงานต่อจาก เอเจนซี่สองแบบด้านบน
Digital Media Agency
เอเจนซี่กลุ่มนี้จะเน้นการซื้อโฆษณาทางดิจิทัล โดยจะมีความได้เปรียบในด้านของ Economy of scale ที่จะได้ราคาที่ถูกกว่า หรือมีความเชี่ยวชาญในการวางช่องทางสื่อ โดยส่วนใหญ่จะรับชิ้นงานต่อมาจากลูกค้า หรือเอเจนซี่โดยตรงและถนัดไปด้านทางการวางแผนสื่อ เช่น Facebook, Google Display network, AdWords, Programmatic Advertising หรือ อาจจะมีเฉพาะทางไปอีกเช่น Influencer Agency ที่ทำหน้าที่เสมือนนายหน้าติดต่อ influencer ดังๆ ในโลกออนไลน์เพื่อโปรโมตสินค้าให้
Digital PR Agency
เป็นกลุ่มเอเจนซี่ใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมา และพัฒนามาจาก PR เอเจนซี่ โดยเน้นไปเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทกับสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ในยุคดิจิทัล รวมไปถึงดูแลความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับแฟนๆ หรือ ผู้มีอิทธิพลในโลกดิจิทัล เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีในระยะยาว
IT & Technology Agency
เป็นเอเจนซี่ หรือองค์กรที่เชี่ยวชาญในการวางระบบสารสนเทศ หรือการวางกระบวนการทำงาน เซตระบบฐานข้อมูลให้กับองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการปรับเปลี่ยนหรือวางโครงสร้างดิจิทัล เทคโนโลยีที่ใช้ในองค์กร
แล้วข้อดีข้อเสียในการจะจ้างกลุ่มคนเหล่านี้คืออะไรบ้าง ลองมาดูกันนะครับ
ข้อดีในการใช้เอเจนซี่
- มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสายงานเฉพาะทาง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์ได้ทันที
- สามารถเลือกใช้ได้เฉพาะทางตามส่วนขององค์กรที่อยากให้เปลี่ยนแปลง เช่น การตลาด ระบบภายในองค์กร หรือการซื้อสื่อโฆษณา
- เข้าใจเทรนด์การตลาด มีการพัฒนาตัวเองเพื่อให้แข่งขันได้ ซึ่งเป็นผลดีกับองค์กรของเรา
- มีข้อมูลที่เป็นกรณีศึกษา และฐานข้อมูลเกี่ยวกับดิจิทัลเยอะกว่าที่เราสามารถจะเรียนรู้และศึกษาได้
ข้อที่ต้องพิจารณา
- งบประมาณที่เพิ่มขึ้นมา จะไม่เหมาะกับองค์กรที่ไม่พร้อมที่จะลงทุนเปลี่ยนแปลง
- อาจจะไม่ครอบคลุมในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ
- ความเข้าใจธุรกิจและสินค้า ที่อาจจะเขียนคอนเทนต์ได้ดีไม่เท่าเจ้าของธุรกิจเอง หรืออาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันซักระยะหนึ่ง
- ความรวดเร็วในการทำงาน เนื่องจากการทำงานที่ต้องรอคิวการทำงาน มีขั้นตอนในการทำงานและการ approve งานที่มีขั้นตอนหลาย
งบประมาณการลงทุนกับเอเจนซี่มืออาชีพ ที่มีสเกลการลงทุนตั้งแต่หลายแสน ไปจนถึงหลักสิบล้าน ขึ้นอยู่กับโจทย์ที่จะทำ ระยะแรกเราควรจะต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า งบประมาณดังกล่าวจะใช้แก้ปัญหาอะไร และระยะเวลาเท่าไหร่ การใช้งบประมาณที่น้อยเกินไปในการแก้ปัญหาที่ใหญ่ หรือการใช้เอเจนซี่ผิดประเภทแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด (เช่น เอาเอเจนซี่เก่ง Production มาทำ Strategy) จนทำให้ไม่เกิดผลที่ต้องการ เราต้องมีการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอด้วย ถ้าไม่พอเราควรต้องกลับมาตั้งต้นที่โจทย์ของเราว่า ด้วยงบประมาณเท่านี้ เราต้องแก้ที่อะไรก่อน
อย่างไรก็ตาม เราควรจะพิจารณาถึงการให้ความสำคัญกับการลงทุนของการเปลี่ยนแปลงเพื่อการแข่งขันที่ดีขึ้นในอนาคต การสร้างทีมเองอาจจะต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่ง ข้อดีคือความรวดเร็ว เข้าใจธุรกิจของเรา และสามารถกำหนดขอบเขตงานได้อย่างอิสระ ซึ่งในระยะยาวจะดีกว่าแน่นอน เพราะมันคือความสามารถขั้นพื้นฐานที่พนักงานพึงมี แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการฟูมฟักและเรียนรู้กว่าจะทำงานได้เทียบเท่ามืออาชีพ และทันโลกที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว
การจะเลือกเอเจนซี่ก็จะต้องเลือกพิจารณาให้ดี เพราะไม่ใช่ทุกเอเจนซี่ที่จะถนัด หรือมีคุณภาพที่เหมาะสมกับโจทย์ของเรา เลือกมืออาชีพมาทำงานแล้ว เราควรจะให้อิสระในการทำงานและกำหนดโจทย์ทางการตลาดให้ชัดเจน แล้วผลที่ได้ดีก็จะตามมาเอง
สโรจ เลาหศิริ (บี) EXECUTIVE STRATEGIC CREATIVE DIRECTOR |
บริษัท แรบบิทส์ เทลล์ จำกัด และ HEAD OF STRATEGY | บริษัท มูนช็อท ดิจิตอล จำกัด
……………………………………………………………………………………………………………….
สงวนลิขสิทธิ์ทางบทความให้ใช้เผยแพร่ที่นิตยสาร Positioning เท่านั้น