โฆษณาโทรทัศน์ค่ายประกันชีวิต 2 ค่ายช่วงนี้ ฝ่าสายฝนช่วงรอยต่อฤดูกันถี่ยิบ แถมยังเชือดเฉือนกันน่าดู ระหว่างค่ายใหญ่ของฝรั่ง กับค่ายไทยดูแลไทยเจ้าประจำ
ค่ายหลังนั้น เน้นโฆษณาเก่าปนใหม่ออกมาถึง 3 เรื่อง 3 สาระ เน้นไปที่การดูแลชีวิตคนไทยอย่างทุ่มเทถึงที่สุด เรียกว่ากะสร้างความประทับใจระดับน้ำตาซึมกันเลย เป็นพล็อตเรื่องที่คนไทยซึมซับได้ง่าย ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าประเภทน้ำตาท่วมจอกันเลย
ส่วนค่ายแรกนั้น เปลี่ยนแนวคิดใหม่ เพราะดูเหมือนว่าเรื่องการดูแลกันที่เคยทำกันมายาวนานถูกคู่แข่งดักทางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงหันมาเน้นเรื่องนามธรรมเชิงสัญญะมากขึ้น ถือว่าฉีกแนวกันไปอีกแบบ
ที่สำคัญสร้างความประทับใจกับมุมมองใหม่ได้เก๋ไก๋ไม่เบาทีเดียว
เอไอเอ ค่ายประกันชีวิตเจ้าของส่วนแบ่งการตลาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ความที่เป็นบริษัทฝรั่งทั้งแท่ง ทำกำไรไปปีละหลาย ดังนั้น จึงพยายามเลี่ยงไม่พูดเรื่องชาตินิยมให้วุ่นวายมากนัก เพราะมันเป็นของแสลง จึงต้องหลบเลี่ยงไปเน้นทางด้านอื่นๆแทน
ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่ล่าสุด หันมาเน้นการดูแลที่มากกว่าชีวิตของลูกค้าตามธรรมดา หากหยิบเอาความฝัน (หรือความใฝ่ฝัน ซึ่งยากจะแบ่งเส้นกั้นออกจากกันได้ง่ายๆ) มาเล่นกันให้ยาวไกลไปเลยทีเดียว
ดูแล้วนึกถึงบทกวีสวยๆ หรือเนื้อเพลงเพราะๆ เกี่ยวกับความฝันอันบรรเจิด
พูดถึงความฝันแล้ว นักจิตวิทยาบอกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจินตนาการ ซึ่งถือว่าเป็นความจำเป็นของชีวิตคนร่วมสมัยอย่างมาก โดยเฉพาะชนชั้นกลาง เพราะคนที่ขาดความฝันนั้น ชีวิตมักจะจืดชืด และเต็มไปด้วยความแห้งแล้งในความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติรอบด้าน
ฝันให้ไกล เพราะโอกาสที่จะไขว่คว้าให้เป็นจริงนั้นไม่มากนัก หากฝันใกล้เกิน แรงทุ่มเทเพื่อคว้าความฝันก็จะหดสั้นตามไปด้วย…ส่วนจะไปให้ถึงหรือไม่นั้น สุดแท้แต่ความสามารถของแต่ละบุคคล
เหมือนเพลง Impossible Dreams ในละครเรื่อง Man of La Mancha (ที่คณะละครค่ายแกรมมี่นำมาปัดฝุ่นลงโรงในกรุงเทพฯ ยามนี้ใหม่นั่นแหละ) ที่มีเนื้อความกินใจอย่างยิ่งอย่างเช่น
To dream…the impossible dream…
To fight…the unbeatable foe…
To bear…with unbearable sorrow…
To run…where the brave dare not go…
To right…the unrightable wrong…
To love…pure and chaste from afar…
To try…when your arms are too weary…
To reach…the unreachable star…
…….
And the world will be better for this:
That one man, scorned and covered with scars,
Still strove, with his last ounce of courage,
To reach…the unreachable star…
กินใจลึกซึ่งเช่นนี้นี่เอง ความฝัน (แม้จะว่างเปล่า) จึงมีความหมาย และสร้างคุณค่าให้กับความหมายของการเป็นมนุษย์อย่างยิ่งยวด
สาระของภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ (ดูเผินๆ ทีแรกนึกว่าเป็นโฆษณาขาย
โทรศัพท์ของค่ายมือถือเสียอีก) ที่ว่าด้วยความฝันที่หลากหลาย ความฝันที่หลุดลอยความฝันที่มากเกินไป ความฝันที่ถูกทิ้งเพราะต้องดูแลหรือรักษาความฝันอื่นๆ หรือ ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง…ฯลฯ…แต่ทุกฝันจำเป็นต้องได้รับการดูแล จึงช่วยเสริมจินตนาการให้คำว่า “การดูแลกัน” มีความประทับใจมากกว่าแค่ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า กับตัวแทนขายประกันชีวิตตามปกติที่เห็นดาษดื่น และจำเจ
ถือเป็นงานโฆษณาที่ฉีกแนวซ้ำซากของค่ายเอไอเอ จากของเดิมๆ ที่คุ้นเคย และทำให้สามารถหลบฉากการโจมตีของแนวคิดโฆษณาชาตินิยมของบริษัทท้องถิ่นที่จับจุดอ่อนของการเป็นบริษัทต่างชาติมาสร้างจุดขายได้อย่างแนบเนียนไร้รอยตะเข็บอย่างมาก
ถือเป็นนวัตกรรมแห่งเดือนทางด้านแนวคิดสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้าของธุรกิจการเงินที่สร้างจินตนาการเชิงบวกได้ล้ำลึกและกว้างไกล ก้าวข้ามขอบพรมแดนแห่งอคติแห่งธุรกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ใช่แล้ว…การมีความฝันมิใช่ และไม่อาจถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยในโลกอันแห้งแล้งใบนี้ ดังบทเพลงอันเปี่ยมด้วยกวีของนานา มัสคูรี อันตราตรึงดังข้างล่างนี้
…Life is too short to live in anger
Ca’t stand these negative vibes
Life is too short too short to live with danger
Please help me God to survive…
Client : AIA
Product : AIA Corporate
Medium : TVC 60/30 sec
Title : Dream Protector
Date : May 16,08
On-air : April 28,08
Executive Creative Dir. : ประกิต กอบกิจวัฒนา
Creative Group Head, Copywriter : จารุนันทน์ ทรัพย์สารสิน
Art Director : บุญช่วย ติรวิบูลสิน
Film Producer : สุมิตรา ษีษุภรัตน์
Film Director : สิริ อำนวยพุทธเมศ
Production House : Amano
Advertising Concept :
“ทุกความฝัน ต้องการการดูแล เอไอเอ พร้อมใส่ใจดูแลทุกความฝันที่ฝากไว้กับเราอย่างดีที่สุด อุ่นใจได้ว่าทุกความฝันจะเป็นจริงได้เสมอ”