ทำเลที่ใช่ ทั้งอยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า

ย้อนเวลากลับไปในวัยเรียน เราทุ่มเทอย่างหนักเพื่อมุ่งหวังเข้าสู่สถานศึกษาที่ดีและมีชื่อเสียง ทั้งติวเข้ม และอ่านหนังสือ นั่นเพราะเราเชื่อว่า การได้ศึกษาเรียนรู้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่รายรอบไปด้วยผู้คนและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ จะช่วยให้เรามีโอกาสได้พบเจอสิ่งที่ดีในชีวิตได้โดยง่าย #การเลือกที่อยู่อาศัยก็เช่นกัน

แสนสิริได้เริ่มต้นพัฒนาพื้นที่ย่านอ่อนนุช ภายใต้ชื่อโปรเจคท์ T77 มาเพื่อสร้างชุมชนที่รายล้อมไปด้วยสิ่งที่ดีสำหรับการพักอาศัยของคนเมือง ที่มีทั้งความปลอดภัย เป็นส่วนตัว และยังสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้ในเวลาเดียวกัน บนพื้นที่ที่ถือเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับคนทำงาน นักเรียนนักศึกษา รองรับการเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกง่ายดาย

20160711-sansiri-02

โปรเจคท์ T77 ของแสนสิริ เริ่มต้นจาการค่อยๆ สร้างที่อยู่อาศัยทีละแห่ง แล้วขยายจนกลายเป็นเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งขึ้นมา มีโครงการคอนโดมิเนียม, ทาวน์เฮาส์, อพาร์ตเมนต์, คอมมูนิตี้มอลล์ รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติอย่าง Bangkok Prep ทั้งหมดนี้สร้างอยู่บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ เพียบพร้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยแบบครบวงจร ซึ่งจุดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของชุมชนแห่งนี้ก็คือ HABITO คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกที่แสนสิริสร้างมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในโครงการนี้นี่เอง

20160711-sansiri-03

HABITO – The Heart of Good Living

Habito สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 4 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร ออกแบบโดย Winkreative แบรนด์ดิ้งและดีไซน์เอเจนซี่ชั้นนำที่ดูแลแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย เช่น Lexus, Stella McCartney และ Swiss International Airlines ภายในได้รวบรวมร้านอาหาร ร้านค้า คาเฟ่ ธนาคาร สถานออกกำลังกายไว้มากมาย แต่สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างให้กับคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้ก็คือ HABBA-TO co-working space ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการทำงานพบปะพูดคุยเพื่อบรรยากาศในการสร้างสรรค์ผลงานของเหล่าสตาร์ทอัพและฟรีแลนซ์

20160711-sansiri-04

ปัจจุบันภายในโครงการ T77 มีผู้อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติอย่างแถบฮ่องกงและสิงคโปร์รวมแล้วกว่า 400 ยูนิต สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ในการเข้าพักอาศัยของพื้นที่ย่านนี้ว่ายังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สัดส่วนผู้เช่าคอนโดมิเนียมชาวต่างชาติแบ่งตามพื้นที่

จากการสำรวจจำนวนกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติจากโครงการคอนโดมิเนียมของ บจก.พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าผู้เช่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่กว่า 90% นิยมเช่าคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอย่างทำเลถนนสุขุมวิท และโซนศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวก อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน ทั้งนี้ พบว่าผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น 53% รองลงมาเป็นชาวอังกฤษ 7% ชาวอเมริกันและชาวเกาหลีในสัดส่วน 6% เท่ากัน

20160711-sansiri-05

ทำเลสุขุมวิทชั้นในมีชาวต่างชาตินิยมเช่าคอนโดมิเนียมมากที่สุด ตั้งแต่ ซ.สุขุมวิท 23 จนถึง ซ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ส่วนแบ่ง 55% โดยส่วนมากเป็นชาวญี่ปุ่นระดับผู้บริหาร หรือกลุ่มแรงงานต่างชาติรายได้สูงที่นิยมพักอาศัยบริเวณนี้ เพราะอยู่ใกล้อาคารสำนักงานที่เป็นของบริษัทญี่ปุ่น

ทำเลที่น่าจับตาอย่างบริเวณสุขุมวิท-อ่อนนุช หรือตั้งแต่ ซ.สุขุมวิท 71 จนถึง ซ.สุขุมวิท 77 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 14% เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นสถานีปลายทางสุดท้ายของรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งราคาค่าเช่าเมื่อเทียบกันแล้วก็ถูกกว่าอย่างพื้นที่ด้านในอีกด้วย

ล่าสุดทางแสนสิริได้ริเริ่มโปรเจคท์ใหม่เพื่อพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการที่พักท่ามกลางธรรมชาติ นั่นก็คือโครงการ MORI HAUS ที่ต่อยอดมาจากโครงการ HASU HAUS นั่นเอง

20160711-sansiri-06

MORI HAUS – The Tree of Life

คอนโดฯ low- rise ความสูงเพียง 7 ชั้น จากแสนสิริ ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตในแบบ “URBAN SLOW LIVING” ที่ไม่รวดเร็วและเนิบช้าจนเกินไป โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่ผสานระหว่างสีสันการใช้ชีวิตแบบชาวเมือง และชีวิตการพักผ่อนส่วนตัวท่ามกลางทำเลสะดวกสบาย ที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “เรียบง่าย” และ “งดงาม” ในขณะเดียวกัน

20160711-sansiri-07

อาคารทั้งสองของโครงการ เปรียบเสมือนหมู่บ้านขนาดเล็กที่ล้อมรอบป่าและสายน้ำที่สงบ ห้องพักฝั่งด้านในพร้อมระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารเข้าสู่ธรรมชาติ ในขณะที่ห้องพักฝั่งด้านนอกสามารถเข้าถึงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น จากพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้นบนระเบียงของตนเอง และพิเศษด้วยห้องพักที่มีระเบียงแบบสองชั้น หรือแบบเปิดโล่ง ให้เลือกใช้ชีวิตตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละบุคคล

20160711-sansiri-08

โถงต้อนรับ และห้องออกกำลังกาย ตั้งอยู่ในอาคารส่วนกลางที่ถูกออกแบบให้ซ่อนอยู่ในความสมบูรณ์ของป่า สร้างความกลมกลืนและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของกิจกรรมภายในและภายนอกอาคาร นอกจากนี้ พื้นที่เปิดส่วนดาดฟ้าของอาคาร สามารถนั่งชมทัศนียภาพของสระว่ายน้ำ ปกคลุมด้วยร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ที่ส่องลอดลงมายังห้องออกกำลังกาย

โมริ เฮ้าส์ เปิดให้เยี่ยมชม ห้องตัวอย่าง พร้อมเปิดจองครั้งแรก ที่ Mori Gallery ชั้น 3 Habito Mall ในวันที่ 6 -7 สิงหาคมนี้

สนใจคลิกดูรายละเอียดเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่ www.sansiri.com/condominium/mori-haus/th/