หลังจากมีข่าวลือมานานว่า เสี่ยวหมี่ (Xiaomi) แบรนด์สมาร์ทโฟนดาวรุ่งจีนจะหันมาเปิดตัวคอมพิวเตอร์วางตักอย่างจริงจัง ล่าสุด คอมพ์พกพารุ่นแรกของเสี่ยวหมี่ถูกเปิดตัวแล้วในรูปร่างที่มองเหมือนแมคบุ๊กแอร์ (Macbook Air) ดุจพี่น้องแม่เดียวกัน โดยวางจำหน่ายในราคากระชากใจ 750 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 26,000 บาท
ไม่เพียงหน้าตาที่เหมือน แต่ชื่อรุ่นที่เสี่ยวหมี่ตั้งว่า “หมี่ โน้ตบุ๊กแอร์” (Mi Notebook Air) ยังมีความคล้ายคลึงกับคอมพ์วางตักของแอปเปิลด้วย โดย Mi Notebook Air มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows 10) มีให้เลือก 2 ขนาด คือ รุ่น 13.3 นิ้ว และรุ่นเล็กกว่า 12.5 นิ้ว
ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ 1080p สุดบาง มาพร้อมกล้องเว็บแคม 1 ล้านพิกเซล คีย์บอร์ดมีไฟด้านล่าง ใช้พอร์ต USB Type-C ตัวเครื่องมีให้เลือกสีทอง และเงิน ไม่มีสัญลักษณ์ หรือโลโก้ใดอยู่ด้านนอก
คอมพ์พกพารุ่นท็อปที่มีคุณสมบัติสูงสุดในรุ่น ถูกกำหนดราคาไว้ที่ 4,999 หยวน เท่านั้น ซึ่งเทียบเท่ากับ 2.6 หมื่นบาท ถือว่าต่ำกว่ารุ่นเริ่มต้นของแมคบุ๊กทั้งตระกูล
เครื่องรุ่นท็อปหน้าจอ 13.3 นิ้ว ของเสี่ยวหมี่มีความหนา 14.8 มม. หนัก 1.28 กิโลกรัม ภายในใช้ชิป Intel Core i5-6200U ตระกูล Skylake-U ที่ความเร็ว 2.3 GHz ถึง 2.7 GHz กราฟฟิกการ์ด NVIDIA GeForce 940MX GPU (พร้อม 1 GB GDDR5 RAM) ทั้งหมดนี้เสี่ยวหมี่การันตีว่าบาง และเบากว่า MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว
สำหรับรุ่น 12.5 นิ้ว เสี่ยวหมี่ ระบุว่า เครื่องมีความหนา 12.9 มม. หนัก 1.07 กิโลกรัมเท่านั้น ภายในใช้ชิป Intel Core M3 CPU ไม่มี GPU แยกต่างหาก หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB เก็บข้อมูลบน SSD ขนาด 128 GB
แทนที่จะให้ USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต เสี่ยวหมี่ลดลงเหลือ 1 ในเครื่องรุ่น 12 นิ้ว โดยยังคงพอร์ต HDMI ไว้ ราคาจำหน่ายคือ 3,499 หยวน หรือประมาณ 18,000 บาท
Mi Notebook Air มีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายในจีนช่วงวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ยังไม่มีข้อมูลการวางจำหน่ายในระดับโลก
ไม่เพียงคอมพิวเตอร์วางตัก เสี่ยวหมี่ ยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาปังรุ่นใหม่อย่าง “เรดหมี่โปร” (Redmi Pro) บนจุดขายเป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Redmi รุ่นแรกที่มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมกล้องหลัง 2 ตัว โดยตัวหนึ่งเป็นกล้อง Sony IM258 ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และอีกตัวเป็นกล้องซัมซุง 5 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ภาพมืออาชีพสไตล์กล้องใหญ่ DSLR
เครื่องเคราเหนือชั้นทำให้ Redmi Pro ถูกกำหนดราคาไว้ที่เริ่มต้น 225 เหรียญสหรัฐ สูงกว่า Redmi รุ่นปกติที่มักเริ่มที่ 150 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ทำให้สินค้ากลุ่ม Redmi เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของเสี่ยวหมี่ ด้วยยอดขายเกิน 110 ล้านเครื่อง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000074961