เสียวหมี่ (Xiaomi) ผู้ผลิตสินค้าไอที รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ 120,000 คันได้ภายในปีนี้ หลังจากลูกค้าชาวจีนมีกระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ของบริษัทดีกว่าคาด และบริษัทเตรียมขยายศูนย์บริการทั่วประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น
Xiaomi ผู้ผลิตสินค้าไอทีรวมถึงผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่างรถยนต์ไฟฟ้า ได้คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ 120,000 คัน มากกว่าคาดการณ์เดิมที่ 100,000 คัน และโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากนี้
สาเหตุสำคัญมาจาก ผลตอบรับที่ดีจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ที่บริษัทได้เริ่มส่งมอบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทมีผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวจีน โดยยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ของบริษัทมียอดจองบนช่องทางออนไลน์ 88,898 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งลูกค้าจองดังกล่าวทำให้ลูกค้าต้องรอรับรถอย่างน้อย 5-7 เดือน
ล่าสุดบริษัทได้เปิดเผยว่าบริษัทสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 จำนวนมากกว่า 100,000 คันจะส่งมอบได้ภายในปีนี้ โดยข้อมูลล่าสุดในวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วมากถึง 10,000 คันแล้ว
Lei Jun ซึ่งเป็น CEO ของ Xiaomi ได้เคยกล่าวว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ทำกับบริษัท และเขาเองพยายามในสิ่งนี้ ขณะเดียวกันบริษัทเองได้วางเป้าว่าจะติดอยู่ใน 1 ใน 5 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ให้ได้ในระยะยาว
นอกจากนี้แผนการของ Xiaomi จะมีการเปิดโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทให้ได้ 219 สาขาทั่วประเทศจีนภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุง 143 เมืองทั่วประเทศจีนภายในปี 2024 นี้ จากเดิมที่มี 86 เมือง
ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทในไตรมาส 1 ของปี 2024 บริษัทมียอดขายสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาด 13.8% และยอดขายนั้นเติบโตมากถึง 33.3% โดยการเติบโตหลักๆ มาจากอาเซียน ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่แอฟริกา
อย่างไรก็ดีสำหรับรายได้ของ Xiaomi นั้นรายได้หลักยังคงมาจากการเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทที่กำลังวางจำหน่ายในช่วงเวลานี้ยังถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก และ CEO ของ Xiaomi ได้กล่าวว่าบริษัทจะแยกรายได้ในส่วนรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทให้กับนักลงทุนได้ทราบถึงข้อมูลด้วย
ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 75,500 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 27% และบริษัทมีกำไรทั้งสิ้น 2,300 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 11,661 ล้านบาท