“มานิต อุดมคุณธรรม” ผู้บริหาร “โฮมโปร” แจงขายหุ้นโฮมโปรโดยนำเงินไปลงทุนในธุรกิจครอบครัว สร้างอสังหาริมทรัพย์โครงการ “สวอนเลค เขาใหญ่” แต่ยังหุ้นถือ อันดับ 5 อยู่อีก 310.99 ล้านหุ้น ยังนั่งแท่นผู้บริหารโฮมโปรต่อ
มานิต อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการบริหารบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า ที่มีกระแสข่าวถึงการขายหุ้นโฮมโปรของตนนั้น เหตุผลที่ขายเนื่องจากนำเงินไปลงทุนในการสร้างอสังหาริมทรัพย์โครงการ “สวอนเลค เขาใหญ่” ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ทั้งนี้เพื่อลดภาระการใช้เงินกู้ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อโครงการ
สำหรับโครงการ Mega Project “สวอนเลค เขาใหญ่” Swan Lake มีเนื้อที่ทั้งหมด 200 ไร่ โดยในเฟสแรกได้ทำโครงการคอนโดพักตากอากาศ Low Riseบนพื้นที่กว่า 68 ไร่ มีอาคารทั้งหมด 4 อาคาร สูง 4-5 ชั้น จำนวน 59 ยูนิต โดยที่ตั้งโครงการ ตั้งอยู่บนถนนสายท่ามะปรางค์ – หนองคุ้ม (ถนนทางหลวงชนบท นม.3502) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และมีจุดเด่นของโครงการนี้คือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาค่อนข้างจัดเต็ม ซึ่งจัดให้มีสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 50,000 ต้น ขุดทะเลสาบ 7 แห่ง ทำน้ำตกอีก 4 แห่ง และลู่วิ่งหรือเลนจักรยานยาว 5 กิโลเมตร
มานิต กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ “สวอนเลค เขาใหญ่” มีห้องชุดขนาด 90-358 ตร.ม.จำนวน2-3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์และเพนต์เฮาส์เฉลี่ย ตร.ม.ละ 1.3 แสนบาท หรือ 11-30 กว่าล้านบาท โดยการออกแบบตั้งใจมากที่อยากให้เจ้าของห้องทุกคนได้สัมผัสธรรมชาติจริง ๆ ไม่อยากให้เปิดแอร์ ด้วยดีไซน์ทำเป็นซิงเกิลคอร์ริดอร์ เปิดหน้าต่างด้านหน้า-หลังลมพัดถึงกันหมด ใช้วัสดุพรีเมียมบำรุงรักษาง่าย และคิดว่า 3 ปีน่าจะปิดการขายได้
“ทั้งนี้ ปัจจุบันตนเองได้ถือหุ้นใน “โฮมโปร” ที่สัดส่วนถือหุ้น 310.99 ล้านหุ้น และยังคงเป็นผู้บริหารโฮมโปรอยู่ในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการของบริษัทฯ โดยมีอันดับสัดส่วนในการถือหุ้นอยู่ในอันดับที่ 5 คงเดิม การขายหุ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นที่ผมถือครอบครองอยู่ และยังคงมีความเชื่อมั่นในการบริหารของโฮมโปร ที่จะคงความเป็นหนึ่งของธุรกิจ Home Solution Living Experience ในประเทศไทยและภูมิภาคเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายมานิต กล่าวในที่สุด
สำหรับรายนามผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันปิดสมุดทะเบียน วันที่ 20 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 13,151,315,446 บาท เรียกชำระแล้ว 13,151,198,025 บาท
