เมื่อเบอร์ 2 เทคโอเวอร์เบอร์ 1

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่ผู้นำธุรกิจจะถูกซื้อหุ้นโดยผู้ตามที่เป็นเบอร์ 2 แต่ก็เป็นไปได้แล้วสำหรับ CRC ที่ตัดสินใจซื้อหุ้น “แม็คโคร ออฟฟิศ เซ็นเตอร์” จาก “สยาม แม็คโคร” ซึ่งถือหุ้นในบริษัทย่อย คือ แม็คโคร ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ 99.99%

ผลจากการซื้อครั้งนี้ ส่งผลให้ ออฟฟิศ ดีโป้ 1 ในหน่วยธุรกิจของ CRC เปลี่ยนสถานะจากเบอร์ 2 กลายเป็นผู้ครองบัลลังก์เพียงพริบตา และช่วยทำให้หน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุดของ CRC (มียอดขายคิดเป็น 1.4% จาก ยอดขาย CRC 75,000 ล้านบาท) มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ในระดับโกลบอล ออฟฟิศ ดีโป้ เป็นบริษัทด้านออฟฟิศ ซัพพลายรายใหญ่ที่สุดในโลก

ขณะเดียวกันก็เพิ่มจำนวนสาขาอีกกว่าเท่าตัวจากเดิมออฟฟิศ ดีโป้มี 19 สาขา จะเพิ่มเป็น 35 สาขา ซึ่งผลจากการดีลธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้ไม่มีแม็คโคร ออฟฟิศ เซ็นเตอร์อีกต่อไป โดยผู้บริโภคจะเห็นเป็นรูปธรรมแบบเบ็ดเสร็จภายใน 4-6 เดือนนับจากวันที่มีการลงนามสัญญา (28 พฤษภาคม 2551) ไอเวอร์ มอร์ตัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอก

ด้าน สุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม แม็คโคร จำกัด (มหาชน) บอกว่า สาเหตุที่สยามแม็คโครขายออฟฟิศ เซ็นเตอร์ทิ้ง ทั้งๆ ที่เป็นผู้นำตลาดออฟฟิศ ซัพพลาย ในช่องทางโมเดิร์นเทรดอยู่แล้วนั้น ก็เพื่อที่จะได้โฟกัส Core Business ซึ่งเป็นรูปแบบ Cash & Carry ค้าส่งและบริการตนเอง อีกทั้งเน้นผู้ประกอบการอาหารเป็นหลัก ขณะที่ออฟฟิศ ซัพพลายเป็นค้าปลีกแบบ Category Killer และให้บริการ Delivery ด้วย ซึ่งมีรูปแบบการบริหารงานที่แตกต่างกัน

“เมื่อไม่มีออฟฟิศ เซ็นเตอร์ จะทำให้แม็คโครมี Positioning ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเราบุกมาทาง HORECA อย่างเต็มตัว เนื่องจากเฉพาะอาหารแห้งบวกกับอาหารสดคิดเป็นยอดขาย 85% ของแม็คโครทั้งหมด”

ออฟฟิศ ดีโป้ มีส่วนแบ่งการตลาด 6% ปีที่ผ่านมามียอดขาย 1,100 ล้านบาท และออฟฟิศ เซ็นเตอร์มียอดขาย 1,495 ล้านบาท เมื่อควบรวมแล้วจะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 14%

ผลจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้ออฟฟิศ ดีโป้ มี Price Position ดีขึ้น และการทำโปรโมชั่นหลากหลายและมีความแข็งแกร่ง รวมถึงมี Penetratation มากขึ้นจากจำนวนสาขาที่
เพิ่มขึ้นด้วย

www.officedepot.co.th

Did you know?

ในตลาดออฟฟิศ ซัพพลาย ช่องทาง Direct Sale ผ่านคอลเซ็นเตอร์ แฟกซ์และอินเทอร์เน็ต กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40% ในอีก 3 ปี ขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ 20%

ช่องทางจัดจำหน่ายของออฟฟิศ ซัพพลาย
ในตลาดมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท
Modern Trade 25%
Traditional Trade 75%