ซัมซุง เชื่อตลาดโทรศัพท์มือถือครึ่งปีหลังยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่มี จอขนาดใหญ่เกิน 5.5 นิ้ว เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกเรื่องของเทคโนโลยี ส่วนกรณีเลื่อนวันรับเครื่องเป็นผลจากการผลิตที่กระทบทั่วโลก พร้อมประกาศวันวางจำหน่ายจริง 9 ก.ย. ทั่วประเทศ
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดโทรศั พท์ครึ่งปีหลังว่า จะมีการแข่งขันกันสูงเช่นเดิม แต่ว่าตลาดจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ เติบโตราว 2-3% โดยมีปัจจัยบวกหลายๆอย่างที่ นำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำธุรกรรมออนไลน์ และตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโต
‘ปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่อยู่ ในตลาดกว่า 60% เป็นเครื่องที่รองรับ 4G แล้ว ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การแข่งขันของโอเปอเรเตอร์ก็จะมาช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนแบรนด์มือถือแต่ละรายก็แข่งขันกันสูงจากนวัตกรรมที่ หลากหลาย ทำให้ตลาดมีความคึกคัก’
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะมีแบรนด์หลักอยู่ 3 แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันเกิน 70% ทำให้แบรนด์ที่เหลือต่างต้องแข่งขันกัน เพราะอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ เป็นหนึ่งในไม่กี่อุตสาหกรรมที่ ยังมีอัตราการเติบโตในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
โดยล่าสุดซัมซุง ได้มีการเปิดตัว Galaxy Note 7 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมให้ข้อมูลว่าปัจจุบันเครื่องขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วขึ้นไป มีสัดส่วนเป็น 35% ของปริมาณสมาร์ทโฟนที่ถูกขายไปทั่วโลก แต่ถ้าคิดเป็นในแง่ของมูลค่าจะสูงถึง 50% นอกจากนี้ยังพบว่า 59% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ใช้ เวลาไปกับแอปพลิเคชันทางธุรกิจและการเงิน ,32% ใช้เวลาไปกับการเล่นเกมและ 20% ใช้งานเพื่อความบันเทิง
ทั้งนี้ Galaxy Note 7 จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศในวันที่ 9 กันยายน 2559 ในราคา 28,900 บาท มีให้เลือกในช่วงแรกเฉพาะ สีดำ สีทอง และสีเงิน ส่วนสีน้ำเงิน กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการนำเข้ามาจำหน่าย แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการทำแคมเปญเอ็กซ์คลูซีฟกับโอเปอเรเตอร์รายใดรายหนึ่ง เนื่องจากเชื่อว่าลูกค้าหลายๆรายอยากได้สีน้ำเงินมาใช้งาน
ขณะที่ในส่วนของการเลื่อนวันรับเครื่องให้แก่ลูกค้าที่ จองในระหว่างวันที่ 5 – 14 สิงหาคม จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 19-21 สิงหาคม เป็น 2-4 กันยายน 2559 เกิดขึ้นจากการที่กำลังในการผลิตไม่เพียงพอ จากผลการตอบรับของ Note 7 ที่ในประเทศไทย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ เปิดจอง Galaxy S7 มียอดจองเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 30% และผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก
‘ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงการทำงานเพื่อให้สามารถนำสินค้าเข้ามาทันที่กำหนดไว้ และแน่นอนว่าถ้าสามารถนำเข้ามาได้ก่อน ก็พร้อมที่จะประกาศเลื่อนวันรับให้เร็วขึ้น แต่ตามกำหนดที่ต้นเดือนกันยายนถือเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุดว่าจะสามารถนำสินค้าเข้ามาได้ทันแน่นอน’
สำหรับจุดเด่นที่ซัมซุง ชูขึ้นมาใน Galaxy Note 7 หลักๆจะประกอบไปด้วยปากกา S-Pen ที่เพิ่มความสามารถมากขึ้น ระบบ iris สแกนม่านตา กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 และกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์ เดียวกับ Galaxy S7 ซึ่งถือเป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่ ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในตลาดในช่วงเวลานี้
‘Note 7 ถือเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่ใช้ ระบบสแกนม่านตามาใช้งานเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันสมาร์ทโฟนกลายเป็นที่เก็บข้อมูลที่มี ความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร การใช้งานธุรกรรมทางการเงิน ข้อมูลทางธุรกิจต่างๆ ทำให้เชื่อว่าการเสริมในส่วนนี้เข้ามา จากเดิมที่ใช้เพียงลายนิ้วมือจะเข้ามาช่วยเพิ่ มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น’
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000082296