อูเบอร์ (Uber) ผู้ให้บริการแท็กซี่ออนไลน์สัญชาติสหรัฐอเมริกาประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์วอลโว่ (Volvo) เตรียมเปิดให้บริการรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Self-driving cars) แก่ผู้ใช้บริการแล้วในเมืองพิทส์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ในอีกไม่กี่สับดาห์นี้แล้ว
การประกาศดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการเทคโนโลยีไม่น้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่รถประเภทนี้จะได้ออกให้บริการอย่างจริงจังนั่นเอง โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กยังรายงานด้วยว่า ในช่วงแรก จะมีคนขับพร้อมผู้สังเกตการณ์นั่งไปด้วยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เข้าควบคุมรถแทนระบบอัตโนมัติได้
โฆษกหญิงของอูเบอร์เผยด้วยว่า การเปิดให้บริการคาดว่าจะเริ่มได้ในย่านดาวน์ทาวน์ของพิทส์เบิร์ก (ศูนย์วิจัยด้าน Self-driving Car ของอูเบอร์ตั้งอยู่ที่นี่) ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ได้จากแอปของอูเบอร์ในสมาร์ทโฟน จากนั้นระบบจะทำการสุ่ม (Random) เลือกรถให้ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นคาดว่าจะไม่ต้องเสีย (ในช่วงเวลาดังกล่าว) และผู้ใช้มีสิทธิเลือกได้ว่าจะขึ้นไปทดลองนั่งหรือไม่ขึ้น แต่ถ้าเลือกรถอูเบอร์แบบธรรมดา เรทค่าบริการมาตรฐานนั้นจะอยู่ที่ 1.30 เหรียญสหรัฐต่อไมล์
อย่างไรก็ดี มีความขัดแย้งกันในด้านข้อมูลปรากฏอยู่พอสมควร โดยรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างว่า รถที่จะนำมาให้บริการนั้นน่าจะเป็น Volvo XC90 ขณะที่สำนักข่าวเอพีอ้างว่าเป็น Ford Fusion
ด้านค่ายวอลโว่ ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า มีการจับมือร่วมกันระหว่างอูเบอร์กับวอลโว่จริง และทางวิศวกรของทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาโดยเพิ่มเติมระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติลงในรถยนต์วอลโว่ด้วย
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยด้วยว่า ดีลที่อูเบอร์ทำกับวอลโว่นั้น อูเบอร์ก็มีแผนจะจับมือกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นด้วยเช่นกัน
ส่วนซีอีโอของอูเบอร์อย่าง Travis Kalanick นั้นก็เคยแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้เช่นกัน โดยเขามองว่า อนาคตของอูเบอร์คือ การให้บริการแบบไร้คนขับ ซึ่งเมื่อเป็นรถแบบไร้คนขับที่ไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งให้คนขับแล้ว อัตราค่าบริการก็จะถูกลงกว่านี้ได้อีกมาก และทำให้ผู้คนในยุคต่อไปมองไม่เห็นความจำเป็นของการมีรถอีกเลย
ที่มา: http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000082837
