กูเกิล (Google) เผยแผนลงสู้ศึกตลาด Ride-sharing service ในซานฟรานซิสโกแล้ว หลังปล่อยให้เจ้าตลาดอย่างอูเบอร์ (Uber) และลิฟต์ (Lyft) ครองความสำเร็จมาช้านาน
โดยบริการแท็กซี่ของกูเกิลนั้นจะให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Waze ซึ่งนอกจากจะใช้เรียกรถแท็กซี่แล้ว ยังสามารถแสดงสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ได้ด้วย
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กูเกิลมีการทดสอบการใช้ Waze App ในการเรียกรถแท็กซี่ย่านสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่แคลิฟอร์เนีย และภายในปลายปีนี้คาดว่าจะสามารถขยายไปสู่ย่านเบย์แอเรียทั้งหมดได้ ซึ่งหากแผนการณ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ มีความเป็นไปได้ว่ากูเกิลจะขยายบริการไปยังเมืองอื่น ๆ ด้วย โดยจุดเด่นของบริการจากแอป Waze คือราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งที่ 54 เซนต์ต่อไมล์ และไม่คิดค่าธรรมเนียมในการจองนั่นเอง
เหตุที่โมเดลของ Waze คิดค่าราคาถูกกว่าคู่แข่งอย่างอูเบอร์และลิฟต์ได้นั้น อาจมาจากโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างกัน โดย Waze เน้นไปที่การหาคนที่จะไปทางเดียวกัน นั่งไปด้วยกัน และให้ผู้โดยสารช่วยจ่ายค่าน้ำมัน (รวมค่าบำรุงรักษา) ให้กับเจ้าของรถยนต์คันนั้น ๆ ขณะที่โมเดลธุรกิจของอูเบอร์ และลิฟต์ เน้นไปที่การให้เจ้าของรถนำรถออกมาขับให้บริการลูกค้าสร้างรายได้
ซึ่งหากจะแข่งขันด้านราคา อูเบอร์ก็มีการออกมาประกาศเปิดตัวรถแบบไร้คนขับให้บริการในพิทส์เบิร์ก สหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งอูเบอร์มองว่า รถในลักษณะดังกล่าวจะช่วยประหยัดเงินให้ผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้น อูเบอร์ยังเริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์แผนที่ของตัวเองขึ้นใช้งานด้วย
จากการเติบโตของตลาด Ride-Sharing ดังที่กล่าวมา ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของทั้งอูเบอร์ และลิฟต์ น่าจะแตะพันล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว แต่จุดหนึ่งของทั้งคู่ที่เหมือนกันก็คือเป็นบริษัทที่ยังไม่สามารถทำกำไรได้ในขณะนี้นั่นเอง
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000087584