คอมพิวเตอร์พีซีถึงขาลง แต่เติบโตในกลุ่ม “เกมเมอร์”

ตลาดคอมพิวเตอร์ PC อยู่ในสถานการณ์หดตัวมาในช่วง 4-5 ปีนี้แล้ว เนื่องจากหลายปัจจัยในส่วนของตัวสินค้าเองที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้อุปกรณ์เสียยากขึ้น ทำให้เกิดความถี่ในการเปลี่ยนน้อยลงจากเดิมที่ 1-2 ปีต้องซื้อเครื่องใหม่ เป็น 3-4 ปีถึงทำการเปลี่ยน

หรือแม้แต่การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอย่างเช่นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต สามารถทำงานทดแทนกันได้ ซึ่งมีการคาดการณ์โดย IDC ถึงตลาดคอมพิวเตอร์พีซีในปีนี้ จะมีจำนวนการขาย 2.38 ล้านเครื่อง ลดลง 6% แบ่งเป็นคอมพิวเตอร์ Desktop 1.24 ล้านเครื่อง (ลดลง 2%) และโน้ตบุ๊ก 1.14 ล้านเครื่อง (ลดลง 12%) หรือคิดเป็นมูลค่า 52,000 ล้านบาท เติบโต 6.4% จากมี 2558 ที่มียอดการขายจำนวน 2.55 ล้านเครื่อง มูลค่า 49,000 ล้านบาท

สิ่งที่ IDC เริ่มเห็นในตลาดก็คือผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีเริ่มหายไปจากตลาด บางรายอาจจะไม่หายไป แต่เริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเสริมธุรกิจอื่นเข้ามา อย่างเช่น SVOA และ Supreme ที่ผันตัวเองจากผู้ผลิต เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งใน 2 ปีข้างหน้านี้อาจจะมีผู้เล่นรายใหญ่หายไปจากตลาดอีก 2 แบรนด์ อาจจะเป็นในรูปแบบของการซื้อกิจการ หรือการควบรวมกิจการ

ชัยกร จิววุฒิพงศ์ นักวิเคราะห์ตลาดไคลเอนด์ดีไวซ์ ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าตลาดจะลดลงแค่ไหน แต่เครื่องพีซีจะไม่หายไปจากตลาดแน่นอน เพราะยังมีบางกลุ่มที่ต้องใช้งานอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มองค์กร และกลุ่มเกมเมอร์ ถึงแม้จำนวนยอดขายจะลดลง แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นทั้งนี้เพราะว่าราคาต่อเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น กลุ่มคนผู้ใช้ต้องการได้สเปกเครื่องที่แรงขึ้น”

โดยที่กลุ่ม “เกมเมอร์” จะกลายเป็นตลาดใหญ่สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์พีซีในอนาคต เพราะยังคงเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเล่นเกม มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้มียอดขายสำหรับโน้ตบุ๊กในกลุ่มเกมเมอร์ 50,000 เครื่อง มีการเติบโตหลายเท่าจากปี 2013 ที่มียอดจำหน่าย 13,000 เครื่อง

แต่โอกาสของคอมพิวเตอร์พีซีก็ยังมีมากอยู่ โดยที่เทรนด์ของตลาดจะเป็นการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ แบบเดสก์ท็อปจะเป็นในแบบ All in one มากขึ้น มีขนาดเล็กลง ดีไซน์สวยขึ้น ส่วนโน้ตบุ๊กจะเป็นการถอดหน้าจอได้ หรือหมุนหน้าจอได้ ผู้ผลิตต้องใส่นวัตกรรมใหม่ๆ เข้าไป เพื่อให้คอมพิวเตอร์พีซียังมีบทบาทอยู่