ไอดีซีเผยตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังโตต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ (21 ตุลาคม 2547) – จากการสำรวจล่าสุดของตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยช่วงไตรมาส สองของปี 2547 โดยบริษัท ไอดีซี (ประเทศไทย) พบว่า ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยมาจากการแข่งขันทางด้านราคาและความนิยมเึครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เพิ่มสูงในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป (consumer) ไอดีซีคาดการณ์ว่ายอดส่งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 214,000 เครื่องในปี พ.ศ. 2546 เป็น 352,000 เครื่องในปีพ.ศ. 2551 โดยมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 10.4

นายวสุพจน์ กิตติทรัพย์กุล นักวิเคราะอาวุโสตลาดฮาร์ดแวร์ บริษัท ไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผู้ใช้งานใน ตลาดประเทศไทยให้การตอบรับและเข้าใจถึงประโยชน์ที่สำคัญของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในแง่ของความคล่องตัวใน การพกพาและสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังถูกผลักดัน ด้วยราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยภายในหนึ่งปีที่ผ่านมามีการปรับราคาของคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กให้ต่ำลงอย่างเห็น ได้ชัด ไอดีซีได้ทำการสำรวจราคาตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและแบ่งราคาเป็น 3 ระดับ คือ 1) ราคาที่ต่ำกว่า 40,000 บาท 2) ราคาตั้งแต่ 40,000 ถึง 60,000 บาท และ 3) ราคาสูงกว่า 60,000 บาท ซึ่งผลการสำรวจชี้ว่าสัดส่วนของ ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ราคาต่ำกว่า 40,000 บาท มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 40 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2546 เป็นร้อยละ 60 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างปีต่อปี ในขณะที่สัดส่วนตลาด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทีราคาสูงกว่า 60,000 บาทกลับลดลงจากร้อยละ 31 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2546 เป็นร้อยละ 18 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2547 จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดได้รับรู้ถึงการปรับราคาที่ต่ำลงนี้ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เริ่มที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้นในตลาดขนาดใหญ่ และมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก (mass market) จากที่เคยเป็น มีส่วนแบ่งต่ำมากในตลาดนี้ และด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สายของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจึงเป็นอีก หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ได้รับความนิยม”

ยอดขายรวมของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในไตรมาสที่สองของปี 2547 มีอัตราการเติบโตราวร้อยละ 16 เมื่อเปรียบ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วโดยตลาดผู้ใช้งานทั่วไป (consumer) มีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 35 ขณะที่ตลาดองค์กร (commercial) อยู่ในภาวะทรงตัวและกลับมียอดขายลดลงเล็กน้อย

นายวสุพจน์กล่าวเสริม “เนื่องจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมีราคาที่จูงใจในการซื้อมากขึ้น จึงทำให้ผู้ใช้งานทั่วไป หันมาเลือกใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ และเพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ ผู้ค้าไอทีต่างก็ออกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดเพื่อรองรับ ความต้้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งาน ไม่ใช่แค่คุณสมบัติเฉพาะของเครื่อง เช่น ความเร็วของซีพียู หรือขนาด ของจอภาพ เท่านั้น แต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ยังได้ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามอีกด้วย “

ตรงกันข้ามกับตลาดผู้ใช้งานทั่วไป ตลาดองค์กรกลับมีอัตราการเติบโตที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจาก ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ถูกกว่า ค่าบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กก็มีราคาสูงกว่า หรือแม้แต่ปัญหาเรื่องความปลอดภัยระหว่างการเชื่อมต่อแบบไร้สาย นอกจากนี้ ปัจจุบันผู้ค้าไอทีรายหลัก ๆ ต่างก็ให้ความสนใจตลาดผู้ใช้งานทั่วไปมากกว่าโดยสังเกตได้จาก การออกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ ในตลาดนี้เป็นจำนวนมาก

แนวโน้มตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในปี 2548 – ไอดีซีคาดว่าจะมีความแตกต่างจากปี 2547 ที่การแข่งขัน ด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ใีนปี 2548 ความคุ้มค่าที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะสามารถให้ประโยชน์กับผู้ใช้งาน จะเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนด้านคุณสมบัติเฉพาะของเครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กก็ต้องถูกออกแบบให้ตอบสนอง ความสะดวกสบายในการใช้งานที่แตกต่างของผู้ใช้งานมากขึ้น หรือแม้แต่มีแอพพลิเคชั่นที่เหมาะสมให้กับ ผู้ใช้งานกลุ่มต่าง ๆ ตัวอย่างที่สามารถพบเห็นได้ในตลาด เช่น มีจอกว้างขนาดใหญ่สำหรับรองรับดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือจอกว้างขนาดเล็กสำหรับกลุ่มที่่ต้องการความคล่องตัว นอกจากด้านตัวผลิตภัณฑ์แล้ว การให้บริการและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ก็จะเป็นส่วนผลักดันที่สำคัญในการสร้างความแตกต่างใน การแข่งขันให้กับผู้ค้าแต่ละราย และเนื่องจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังแสดงถึงสถานะทางสังคมของผู้ใช้งาน ดังนั้น กิจกรรมการสร้างแบรนด์จึงเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ผู้ค้าไอทีไม่ควรมองข้าม ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ในข้างต้นรวมทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้ไอทีของภาครัฐตั้งแต่ปี 2545 จะส่งเสริมให้ตลาด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันใกล้

เกี่ยวกับ ไอดีซี

ไอดีซี เป็นบริษัทที่ปรึกษาและให้ข้อมูลการตลาดชั้นนำในอุตสาหกรรมไอทีและโทรคมนาคม ไอดีซีวิเคราะห์และ คาดการณ์กระแสเทคโนโลยี เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจจากข้อมูลและกลยุทธ์ ในเรื่องการจัดซื้อไอทีและกลยุทธ์ ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์กว่า 700 คนของไอดีซีใน 50 ประเทศได้ใช้ทักษะความรู้และความเข้าใจ อย่างแท้จริงในตลาดไอทีเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เสริมแรงด้วยทีมบริหารของไอดีซีซึ่งมีประสบการณ์และเป็นที่ นับถือในอุตสาหกรรมมากกว่า 40 ปี ทำให้ผู้บริหารและผู้จัดการด้านไอทีให้ความไว้วางใจในการให้คำปรึกษาของไอดีซี ที่ช่วยให้องค์กรของเขาประสบความสำเร็จ ไอดีซีเป็นบริษัทสาขาของไอดีจี ซึ่งเป็นบริษัทสื่อเทคโนโลยีงานวิจัยและ จัดงานชั้นนำของโลก ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.idc.com

IDC’s Asia/Pacific IT InfrastructureVision Conference

9 พฤศจิกายน 2547 เวลา 8:30 น. – 4:30 น.
โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ

จากการวิจัยล่าสุดของ IDC ในตลาดภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิก (รวมถึงตลาดในญี่ปุ่น) พบว่า ค่าใช้จ่ายในการลงทุน ทางด้าน IT ของแต่ละองค์กรในภูิมิภาคเอเชีย แปซิฟิกจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 5.5% ในปี 2547 หากเปรียบ เทียบกับปี 2546 คิดเป็นมูลค่า 184.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนมากเป็นค่าใช้จ่ายด้าน Infrastructure ผู้บริหาร ระดับสูงด้านไอทีจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าองค์กรต้องการอะไร ต้องลงทุน IT ด้านใด แต่ละส่วนมีความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกันอย่างไรจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่ากับการลงทุนดังกล่าว มากที่สุด

รับฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญของ IDC และบุคลากรในแวดวงไอที ซึ่งจะทำให้้เข้าใจประเด็นต่าง ๆ ทางด้าน IT Infrastructure มากขึ้น พร้อมกับได้รับข้อมูลในการวางแผน และตัดสินใจ เลือกใช้ IT Infrastructure รวมทั้งยัง สามารถสอบถามข้อสงสัย ต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ

ไอดีซี (ประเทศไทย) ใคร่ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการดังกล่าว สามารถดูราย ละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ http://www.idc.com.sg/thailand/infrastructure2004/default.htm