ตลาดแท็บเล็ตเป็นตลาดที่น่าเป็นห่วงมากกว่าตลาดอื่นมากที่สุด เพราะในปีนี้ IDC คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนยอดขาย 850,000 เครื่อง มีอัตราลดลงถึง 40% หรือมีมูลค่า 7,400 ล้านบาท ลดลง 37% จากปี 2558 มีจำนวน 1.4 ล้านเครื่อง มูลค่า 11,000 ล้านบาท
ตลาดแท็บเล็ตเคยขึ้นสู่จุดพีคที่สุดเมื่อปี 2557 ที่มีจำนวนยอดขายถึง 3.15 ล้านเครื่อง แล้วก็ค่อยๆ ตกลงมาเรื่อยๆ ทุกปี ซึ่งปัญหาหลักที่ให้แท็บเล็ตค่อยๆ ลดความนิยมก็เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถใช้ดูหนังฟังเพลงได้ และเทคโนโลยีก็ก้าวหน้า สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ทุกอย่าง
และยิ่งในตอนนี้ก็มีเทรนด์ของโน้ตบุ๊กแบบถอดจอได้ หรือแบบไฮบริดก็สามารถใช้แทนแท็บเล็ตได้เช่นกัน ทำให้แท็บเล็ตถึงกับตกที่นั่งลำบาก ตลาดมีการติดลบอย่างต่อเนื่อง
ณัฐชนน บุญสอน นักวิเคราะห์ตลาดไคลเอนด์ดีไวซ์ ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “แท็บเล็ตเป็นเทรนด์ที่ตกเหมือนกันทั่วโลก เพราะด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์พีซี ทำให้สามารถทำงานได้มากกว่าแท็บเล็ต และใช้งานสะดวกกว่า ทำให้หลายคนเลือกใช้ไม่สมาร์ทโฟน หรือไม่ก็คอมพิวเตอร์ไปเลยมากกว่า”
แต่เทรนด์ของแท็บเล็ตก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ 1.หน้าจอส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ 7 นิ้ว ไม่ใหญ่ ไม่เล็กไปกว่านี้ 2.ในสิ้นปีนี้แท็บเล็ตจะรองรับ 4G และไวไฟได้ และ 3.ตลาดมีการตกเหมือนกันทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย