ที่จริงแล้วทาง IDC ได้คาดการณ์ตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ไว้แล้วว่า อาจจะทรงๆ ก็คือไม่มีการเติบโต และไม่ลดลง เพราะผู้บริโภคคนไทยได้ผ่านจุดการซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรกกันมาแล้ว แต่ทว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ยังคงเติบโตอยู่ได้นั้นเป็นแรงกระเพื่อมของการแข่งขันทางฝั่งโอเปอเรเตอร์ ที่หลังจากการประมูล4Gก็ยังคงใช้กลยุทธ์ดึงลูกค้าย้ายค่าย เปิดเบอร์ใหม่ และดันลูกค้าเปลี่ยนจาก 2G เป็น 3G อยู่
ทำให้ได้เห็นสงครามของโอเปอร์เรเตอร์ในการชิงลูกค้าด้วยการ “แจกเครื่อง” ทั้งฟีเจอร์โฟน และสมาร์ทโฟน ทำให้มีการคาดการณ์ตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้มีจำนวนการขาย 23 ล้านเครื่อง หรือมูลค่า 137,000 ล้านบาท เติบโต 4% จากปี 2558 มีจำนวน 22 ล้านเครื่อง มูลค่า 131,000 ล้านบาท
ส่วนตลาดฟีเจอร์โฟน ก็มีการเติบโตเช่นกัน มีจำนวน 11 ล้านเครื่อง หรือมูลค่า 8,600 ล้านบาท จากปี 2558 ที่มีจำนวน 8 ล้านเครื่อง สาเหตุที่ฟีเจอร์โฟนมีการเติบโตเพราะมีราคาถูก เอามาใช้เป็นตัวช่วยในการย่ายค่ายได้ และตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนได้
ณัฐชนน บุญสอน นักวิเคราะห์ตลาดไคลเอนด์ดีไวซ์ ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มมีการทรงตัวแล้ว เติบโตช้าลง เพราะผู้บริโภคมีใช้กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเทรนด์ผู้บริโภคจะซื้อเครื่องที่มีราคาแพงขึ้น เพราหลายคนอาจจะซื้อเครื่องแรกในราคาถูก แต่อยากได้เครื่องต่อไปที่มีสเป็คดีขึ้น ราคาสูงขึ้น”
มีการคาดการณ์เทรนด์ของสมาร์ทโฟนไว้ 3 ข้อด้วยกัน 1.ในสิ้นปี 2559 จะมีสมาร์ทโฟน 4G ไล่ทันสมาร์ทโฟน 3G แล้ว 2.หน้าจอสมาร์ทโฟนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ที่ 5-5.5 นิ้ว และ 3.ผู้บริโภคซื้อสมาร์ทโฟนในราคาสูงขึ้น โดยที่ปี 2558-2559 มีการซื้อเฉลี่ยที่ 5,900 บาท ในปี 2560 จะมีการซื้อที่เฉลี่ย 6,500 บาท และในปี 2563 ซื้อเฉลี่ยที่ 8,250 บาท
สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน ทาง IDC ก็มีการประเมินไว้เช่นกัน โดยที่มองว่า 1.การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นในทุกๆ แบรนด์ รวมถึงทางฝั่งโอเปอร์เรเตอร์ด้วย จะเล่นในเรื่องราคา และนวัตกรรม 2.ช่องทางการจัดจำหน่ายมีการเปลี่ยนแปลง เพราะโอเปอร์เรเตอร์ลงมาเล่นตลาดสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับตัว อาจจะมีการขายช่องทางออนไลน์มากขึ้น และ 3.จะมีนวัตกรรมใหม่ๆ สมาร์ทโฟนจะกลายเป็น Hub ของดีไวซ์อื่นๆ ที่ทำอะไรผ่านสมาร์ทโฟนได้หมด