ในที่สุด ซัมซุง (Samsung) เจ้าพ่อกิมจิก็เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ Gear S3 ที่งาน IFA 2016 ที่กรุงเบอลิน โดยจัด 2 รูปลักษณ์ให้ Gear S3 ทั้งแบบสายหนังดูทางการ และวัสดุยางดูลุย พร้อมอัดแน่นคุณสมบัติใหม่ให้นาฬิกานี้ขึ้นแท่นนาฬิกา Android Wear น่าสนใจเกินคู่แข่ง
2 รูปลักษณ์ของ Gear S3 ถูกเรียกว่า Gear S3 frontier และ Gear S3 classic โดย S3 classic เน้นความคลาสสิกทางการด้วยสายรัดข้อมือวัสดุหนังตามชื่อ ส่วน frontier ใช้สายวัสดุซิลิโคน ราคาเริ่มต้น คือ 299 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10,300 บาท กำหนดการเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้
ความแตกต่างระหว่าง Gear S3 และ Gear S2 คือ ความใหญ่ และหนักขึ้น ก่อนหน้านี้ S2 หนา 11.4 มม. บนสายขนาด 20 มม. แต่ S3 ขยับไปที่ความหนา 12.9 มม. บนสายขนาด 22 มม. เหตุผลสำคัญ คือ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ S3 ที่มีขนาด 1.3 นิ้ว ใหญ่ขึ้น 0.1 นิ้ว เมื่อเทียบกับ S2
แม้จะมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้น แต่นาฬิกา S3 กลับมีความละเอียดหน้าจอเท่าเดิม 360×360 ทั้งหมดนี้ถูกเคลือบด้วย Gorilla Glass SR+ บน S3 ทั้ง 2 รูปลักษณ์
อีกความเด่นของ S3 คือ การเพิ่มเทคโนโลยี GPS รองรับเครือข่ายไร้สาย Bluetooth 4.2 แบตเตอรี่ขนาด 380mAh ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับ S2 ที่มีขนาด 250mAh ขณะเดียวกัน ก็เพิ่ม RAM มากกว่า 50% จาก 512MB เป็น 768MB แถมยังมีลำโพง และรองรับการชำระเงินผ่านระบบ Samsung Pay
สิ่งที่ S3 คงจุดเด่นของ S2 ไว้ คือ bezel ที่หมุนได้, ชิป dual-core, รองรับการชาร์จไร้สาย, กันน้ำระดับ IP68 และยังใช้ระบบปฏิบัติการของ Samsung อย่าง Tizen OS เช่นเดียวกับ Gear S2 รุ่นใหม่อย่าง S3 ยังทำงานกับสมาร์ทโฟน Android ทุกรุ่นที่มี RAM เกิน 1.5GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น 4.4 หรือ KitKat ขึ้นไป จุดนี้รายงานย้ำว่า iOS จะรองรับ S3 ในอนาคต
S3 frontier นั้นรองรับ LTE แต่ S3 classic จะรองรับ Wi-Fi เท่านั้น
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000088038