แม้จะเพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด “Galaxy Note 7” เมื่อเดือนที่แล้ว แต่รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า จำนวนเครื่องที่เสี่ยงมีปัญหาแบตเตอรี่ร้อนจัดจนไฟลุกไหม้นั้น อาจมีจำนวนสูงถึง 1.6 ล้านเครื่อง เบื้องต้นมีการประเมินว่า วิกฤตครั้งนี้จะทำให้ซัมซุง (Samsung) สูญเงินราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท
เบื้องต้น สื่อต่างประเทศรายงานว่า ลูกค้าผู้ใช้ Galaxy Note 7 ประสบเหตุไฟลุกไหม้เครื่องขณะชาร์จมากกว่า 35 ราย ทั้งหมดนี้ซัมซุง รับรู้ปัญหาแล้ว และอาจอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการประกาศเรียกคืน Note 7 ที่ถูกส่งมอบสู่ตลาดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจำนวนเครื่อง Note 7 ที่เข้าข่ายมีปัญหานั้นยังไม่มีความชัดเจน โดยรายงานจากฟอร์บส์ ระบุว่า อยู่ที่ 1.6 ล้านเครื่อง ขณะที่บางสำนักข่าวรายงานว่า ซัมซุงกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเรียกคืน Note 7 มากกว่า 2.5 ล้านเครื่อง ซึ่งไม่เพียงเครื่องที่ถูกจัดส่งถึงมือผู้บริโภคเท่านั้น แต่รวมถึงเครื่องที่ถูกจัดส่งแก่โอเปอเรเตอร์ผู้จัดจำหน่าย Note 7 ทั่วโลก
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Galaxy Note 7 จะกระทบกับซัมซุง ทั้งแง่ยอดขาย และภาพลักษณ์ชื่อเสียงของซัมซุงด้วย จุดนี้ทำให้มีการประเมินว่า ความเสียหายที่ซัมซุง ได้รับนั้น ไม่สามารถประเมินได้จากผลประกอบการในระยะสั้น แต่จะลากยาวถึงไปความเสียหายอื่นที่อาจกินระยะเวลานาน
แน่นอนว่า ซัมซุง ยังไม่เปิดเผยตัวเลขความเสียหายที่บริษัทประเมินในเบื้องต้น แต่รายงานจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เผยแพร่บทวิเคราะห์ของ 3 บริษัท คือ Credit Suisse Group AG, Daishin Securities Co. และ Pelham Smithers Associates ว่า ปัญหาแบตเตอรี่ใน Galaxy Note 7 จะทำให้บริษัทเสียหายไม่น้อยกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายงานของบลูมเบิร์ก ระบุว่า ความเสียหายเบื้องต้นจะถูกแบ่งระหว่างบริษัท Samsung SDI ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ Note 7 ราว 70% ขณะที่บริษัท Amperex Technology Ltd ในจีน เป็นผู้ผลิตอีก 30% ยังไม่นับรวมค่าความเสียหายจากการเลื่อนวางจำหน่าย และส่งมอบ Galaxy Note 7 ที่ยังไม่มีกำหนดแน่นอน ทั้งหมดนี้ทำให้มีโอกาสสูงที่ Note 7 จะเป็นตัวฉุดภาพรวมยอดขายสมาร์ทโฟนของซัมซุง ในระยะยาว
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000089537