ชี้อนาคตธุรกิจพลังงานขึ้นอยู่กับกลุ่มมิลเลนเนียม

เอคเซนเชอร์ เผยงานวิจัย ความสนใจสินค้าและบริการแนวใหม่ของ “กลุ่มมิลเลนเนียมช่วยอนาคตของพลังงานได้มากสุด แต่ก็มาพร้อมความคาดหวังที่สูงขึ้น โซลูชั่นเพื่อการเชื่อมต่อในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์พลังแสงอาทิตย์ รวมทั้งสินค้าหรือบริการดิจิทัล คือสิ่งที่เจนเอ็มต้องการ 

ผลการวิจัยของเอคเซนเชอร์ พบว่า ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรยุค มิลเลนเนียม หรือ เจ็นเอ็ม สะท้อนเห็นว่าคนกลุ่มนี้ที่เป็นผู้บริโภคอายุระหว่าง 18 – 34 ปี จะมีส่วนผลักดันให้มูลค่าของสินค้าและบริการจากผู้ผลิตพลังงานสูงขึ้นได้มาก

เอคเซนเชอร์จัดทำแบบสำรวจกลุ่มผู้บริโภคพลังงานประจำปีครั้งที่ 7 จากผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 10,000 ราย ใน 17 ประเทศ และออกรายงานเรื่อง “ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งขยายตัวตามระบบนิเวศพลังงาน” (The New Energy Consumer: Thriving in the Energy Ecosystem) พบว่า เจ็นเอ็ม เป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อแนวทางการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ภายใต้สถานการณ์ที่คู่แข่งมีความซับซ้อน ที่ประชันกันด้วยสินค้า บริการ และประสบการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงาน

คนเจ็นเอ็มต้องการที่จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้สินค้าและบริการด้านพลังงานใหม่ๆ

24% ของคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เปิดรับและชอบทดลองใช้ก่อน (Early adopters) เทียบกับร้อยละ 17% ของกลุ่มคนอายุ 35- 54 ปี  และ 7% ของกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้น

นอกจากนี้ 22% ของคนเจ็นเอ็มยังต้องการทดลองเทคโนโลยีใหม่ในสัดส่วนที่สูงกว่าคนรุ่นอื่น 15% ในกลุ่มคนอายุระหว่าง 35 – 54 ปี และ 6% ในกลุ่มคนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป

เจ็นเอ็มเปิดกว้างรับสิ่งใหม่

ลักษณะของคนเจ็นเอ็มนั้น มีการเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ๆ และพร้อมพิจารณาสินค้าและบริการที่รองรับการเชื่อมต่อกับระบบพลังงานทางเลือกที่หาได้ทั่วไป (Distributed Energy Resources: DER) หลังได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้นๆ คนเจ็นเอ็มให้การตอบรับถึง 87% เมื่อเทียบกับเพียง 60 % ในกลุ่มคนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ เกือบ 80 % ของคนเจ็นเอ็มบอกว่า พวกเขาจะพอใจมากขึ้นถ้ามีระบบผู้ช่วยดิจิทัลในบ้าน และบริการติดตามเพื่อแนะนำสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการ เทียบกับร้อยละ 62 ในกลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไปที่มีความต้องการแบบนี้

ใช้แอปฯ เชื่อมต่อในชีวิตประจำวัน

สำหรับการบริหารพลังงานในที่อยู่อาศัยนั้น ในช่วง 5 ปีข้างหน้า 61 % ของคนเจ็นเอ็มมีแนวโน้มที่จะใช้แอปพลิเคชั่นมาช่วยติดตามและควบคุมระบบทางไกล เทียบกับกลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป ที่มีแนวโน้มลักษณะนี้เพียง 36%

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มเจ็นเอ็ม 56% ยังมีแนวโน้มจะใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป ถึงสองเท่า

ต้องการบริการด้านพลังงานมากขึ้น

คนยุคเจ็นเอ็มมองพลังงานอย่างลึกซึ้งและมีส่วนร่วมกับผู้ให้บริการมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ต่างจากมุมมองแบบเก่าอย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการสินค้าและบริการใหม่ๆ มารองรับในส่วนนี้ พวกเขาต้องการข้อมูล และยังต้องการให้ทุกอย่างตอบสนองฉับไวและเข้าถึงได้ง่าย

ความคาดหวังของคนเจ็นเอ็มต่อช่องทางดิจิทัลต่างๆ ก็มีมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ส่วนบุคคลมากกว่าคนรุ่นก่อนในทุกช่องทางดิจิทัล และการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด ทำให้คนเจ็นเอ็มสื่อสารกับผู้ให้บริการด้านพลังงานได้โดยสะดวก

นอกจากนี้ ร้อยละ 83 ของคนเจ็นเอ็มจะไม่ค่อยอยากเปิดรับสินค้าและบริการอื่นเพิ่มเติม หากผู้ให้บริการไม่สามารถมอบประสบการณ์ต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อได้

“ผู้ให้บริการด้านพลังงานต้องจับความต้องการของคนเจ็นเอ็มและข้อมูลอินไซต์ต่างๆ ให้ได้ เพื่อพัฒนามูลค่าให้เต็มศักยภาพ เพราะความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้สภาพและปัจจัยในตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ภากร สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจพลังงานและทรัพยากร เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวผู้ให้บริการด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จ คือผู้ที่ยึดหลักการคิดอย่างมีดีไซน์ (design thinking) เป็นสำคัญ และมองลูกค้ากับกระบวนการค้าปลีกในฐานะสินทรัพย์ที่มีผลเชิงยุทธศาสตร์

มีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้บริโภคทรงอิทธิพลขยายตัวเพิ่มขึ้น 

การสำรวจแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจพลังงานมีโอกาสอย่างมากที่จะสื่อสารและมีส่วนร่วมกับคนเจ็นเอ็ม เพราะคนกลุ่มนี้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ ในสังคม

ตัวอย่างเช่น 41% ของกลุ่มเจ็นเอ็ม มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ให้บริการด้านพลังงานมากขึ้นผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และจะพึงพอใจหากสามารถเข้าถึงระบบของผู้ให้บริการได้จากข้อมูลที่ให้ไว้ในช่องทางเหล่านั้น

นอกจากนี้ คนเจ็นเอ็มให้ความสนใจกับคุณค่าที่นำเสนอมากกว่าคนรุ่นอื่น โดย 77% ของคนกลุ่มนี้ สนใจตลาดออนไลน์ที่ตรงกับความต้องการส่วนบุคคล ที่สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงาน นอกจากนี้ กว่าหนึ่งในสามของคนเจ็นเอ็มยังสนใจในในโซลูชั่นบ้านอัจฉริยะ และยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อระบบเหล่านั้น

“การวางกลยุทธ์เกี่ยวกับลูกค้าต้องมองภาพรวมของแนวโน้มต่างๆ ที่จะเป็นตัวกำหนดผู้บริโภคในทุกวันนี้ ที่สำคัญ แนวโน้มที่บ่งชี้ถึงผู้บริโภคในวันข้างหน้า หากต้องการประสบความสำเร็จ ผู้ให้บริการด้านพลังงานต้องปรับตัวเร็ว จัดโครงสร้างใหม่ให้รองรับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาขีดความสามารถใหม่ๆ เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสทางธุรกิจ ขยายตัวได้ทัน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบอัตโนมัติต่างๆ และปฏิบัติการที่รองรับงานได้หลากหลาย”

info_energy

เกี่ยวกับงานวิจัย

โครงการสำรวจผู้บริโภคกลุ่มใหม่ในธุรกิจพลังงาน เพื่อให้ธุรกิจพลังงานเข้าใจถึงความต้องการใหม่ๆ และความพึงใจของผู้บริโภค โอกาสและความท้าทายในอนาคต โดยใช้การสัมภาษณ์ผู้บริโภค ผู้บริโภค 9,537 คน ใน 17 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 1,358 คนในสหรัฐฯ 647 คนในอังกฤษ 532 คนในแคนาดา และ 500 คนในออสเตรเลีย บราซิล จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ไอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส สิงคโปร์ และสเปน