คนรุ่นมิลเลนเนียล หรือ เจนเอ็ม จะกลายเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการซื้อสูงในอนาคต คนกลุ่มนี้คิดเป็นกว่า 45% ของประชากรในภูมิภาค และภายในปี 2020 คาดว่า 60% ของคนรุ่นนี้ทั้งโลกจะอยู่ในเอเชีย
“เอคเซนเชอร์” ที่ปรึกษาด้านการตลาดจึงแนะกิจการค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Packaged Goods หรือ CPG) ต้องทำความเข้าใจคนรุ่นมิลเลนเนียลหรือเจ็นเอ็มในเอเชียให้มากขึ้น เพราะคนรุ่นนี้กำลังมีอิทธิพลกำหนดตลาดผู้บริโภคในภูมิภาคนี้
เอคเซนเชอร์ศึกษาพฤติกรรมคนเจนเอ็มในภูมิภาค พบว่า คนกลุ่มนี้จะมีบทบาทนำด้านการใช้จ่ายทั่วทั้งเอเชีย ส่งผลให้กิจการค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคบรรจุเสร็จต้องนำเอาโซลูชั่นดิจิทัลเข้ามาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่คนเจนเอ็มแสวงหาในยุคที่มีการเชื่อมต่อและเชื่อมโยงถึงกัน
มีบทสรุปของพฤติกรรมคนเจนเอ็ม 4 ข้อด้วยกัน
1. โอกาสอยู่ที่นี่และเดี๋ยวนี้
อีคอมเมิร์ซได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายรวมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นถึง 300% เป็นมูลค่า 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ คนเจนเอ็มในเอเชียยังมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าคนรุ่นก่อนด้วย โดยประมาณการไว้ว่ารายได้การจับจ่ายของคนกลุ่มนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี พ.ศ. 2563 จำนวนประชากรคนเจนเอ็มนั้น คิดเป็น 45% ของประชากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2563 ร้อยละ 60 ของคนเจนเอ็มในโลกนี้จะอาศัยอยู่ในเอเชีย
ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค จึงควรทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้ที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและเชื่อมต่อสื่อสารตลอดเวลา เพื่อเข้าถึงโอกาส และมัดใจผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อตลาดกลุ่มนี้
2. เจนเอ็มซื้อของได้ทุกที่ทุกเวลา และมีความต้องการส่วนบุคคล
ผู้บริโภครับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลและบริการต่าง ๆ ทางดิจิทัลมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ปัจจุบันเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากที่สุดถึงกว่า 50% ของประชากร ประเทศสิงคโปร์และออสเตรเลียนั้นมีอัตราการใช้สมาร์ทโฟนมากที่สุดทั่วโลก คือ 80% เจนเอ็มในเอเชียใช้เวลากับสมาร์ทโฟนเฉลี่ย 2.8 ชั่วโมงต่อวัน (หรือ 42.5 วันต่อปี) และกว่า 40% ของคนกลุ่มนี้ยังจับจ่ายซื้อของผ่านสมาร์ทโฟนด้วย
คนเจนเอ็มเปิดกว้างยอมรับคำแนะนำมากกว่าผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ แบรนด์ที่พยายามจะเข้าถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคนี้ จำเป็นต้องปรับสินค้าและบริการให้มีความเฉพาะบุคคล (personalization) แต่ก็ต้องแน่ใจว่าวิธีการนำเสนอเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้บริโภค
3. มองหาประสบการณ์ที่ดี
ในรายงานวิจัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมค้าปลีกยานยนต์ ผู้ซื้อในกลุ่มเจนเอ็มเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุดมากกว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่น มิลเลนเนียลในประเทศจีนนิยมซื้อรถผ่านดีลเลอร์ใหญ่ และ 40% ของคนกลุ่มนี้ก็พึงใจที่จะซื้อรถด้วยวิธีนี้ งานวิจัยของเอคเซนเชอร์ยังพบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลอยากได้รับคำแนะนำผ่านระบบดิจิทัล แต่ก็ต้องการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วยเช่นกัน
4. โซลูชั่นดิจิทัลเพื่อคนรุ่นที่ใช้ชีวิตดิจิทัล
ความท้าทายที่สำคัญในปัจจุบันคือนวัตกรรมดิจิทัลอันรวดเร็ว และเอคเชนเชอร์เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพหรือแบรนด์ใหญ่ ต่างมีมุมที่แตกต่างกันออกไป และในโลกที่ตลาดและการบริการใหม่ ๆ ผุดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน การเชื่อมโยงและร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในปฏิบัติการงานบริการต่างๆ จะเสริมให้ธุรกิจบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกนั้นได้รับชัยชนะเหนือรายอื่น ๆ ที่ความสามารถยังตามหลังอยู่”
* หมายเหตุ
เอคเซนเชอร์ได้ทำการสำรวจผู้บริโภค 10,000 รายใน 13 ประเทศสำหรับรายงานผลการวิจัยการปรับตัวของธุรกิจค้าปลีก (Adaptive Retail Report) ข้อมูลจากคนรุ่นมิลเลนเนียล 746 รายในประเทศจีนและญี่ปุ่น ที่ซื้อสินค้าทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2558